เลส์ เบลอส์

เลส์ เบลอส์ควรจะ เปลี่ยนตัวกัปตันต้นทีมหรือไม่

เลส์ เบลอส์
เลส์ เบลอส์

นักเตะที่ค้าแข้งในลีกที่ปิดตัวไปก่อนหน้าอย่างพรีเมียร์ชิพและอยู่ในช่วงพักร้อนเต็มที่ก็จะต้องปลีกตัวมาเดินสายกับเลส์ เบอลส์ โดยที่เมื่อกลับไปก็ใกล้จะถึงช่วงเข้าแคมป์เก้บตัวรับฤดูร้อนใหม่เต็มเก๋

เปลี่ยนตัวกัปตัน “ปั๊ต” ในอดีตที่ผ่านมาเป็นที่ยอมรับกันว่า มิเชล พลาตินี่ และ ดีดิเย่ร์ เดส์ชองส์ คือสองนักเตะตราไก่ที่ทำหน้าที่กัปตันทีมชาติได้สมบูรณ์แบบที่สุดในยุคของพวกเขา จากเดส์ชองส์ถึงปั๊ด วิเอร่า ในปัจจุบัน มี มาร์กแซล เดอไซญี่ และรวมถึง ซีเนดีน ซีดาน คั่นอยู่ช่วงสั้นๆ ขณะที่เดอไซญี่ถูกวิจารณ์ว่ากัปตันทีมที่เฉื่อยเกินไปเมื่อเทียบกับเดส์ซองส์ และชิชูถูกมองว่าบุคคลิกไม่เหมาะกับการเป็นกัปตันทีมของเขาก็เป็นที่วิจารณ์ว่าไม่เข้มข้น และดูเหมือนวิเอร่าไม่ไดพ้แสดงให้เห็นถึงบารมี ที่ควรจะมีเหนือเพื่อนร่วม

ด้านหนึ่งเป็นเพราะเขามัวแต่ต้องพะวงกับบทบาทมิดฟิลด์ตัวรับของตน ส่วนอีกด้านหนึ่งอาจเป็นเพราะเขาไม่คิดจะยุ่มย่ามกับชีวิตของเลส์ เบลอส์ รายอื่นๆ นัก ทว่ามันก็ก่อให้เกิดคำถามที่ว่า เลส์ เบลอส์ควรจะ เปลี่ยนตัวกัปตันต้นทีมหรือไม่เพราะแม้ภาวะผู้นำของวิเอร่าในทีมอาร์เซน่อลจะเด่นชัดแต่กับทีมชาติ เขาถูกกลืนเข้าไปในความล้มเหลวและไร้ประสิทธิภาพของเลส์ เบอลส์อย่างเห็นได้ชัด

ซิซูคัมแบ๊ก เมื่อช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา นสพ. เลกิ๊ป ซึ่งเป็นนสพ. กีฬารายวันขาใหญ่ของฝรั่งเศส ได้เปิดประเด็นเรียกร้องให้ ซีเนดีน ซีดาน กลับมารับใช้ทีมชาติอีกครั้งในช่วงเวลาที่ทีมล่อแหลมต่อการอยู่หรือไม่แบบนี้ โดยให้เหตุผลว่าซีดานพึ่แสดงความเหฑ้นใจในเชิงอยากจะกลับมารับใช้ทีมโดยเฉพาะในเกมกับไอร์แลนด์ที่แลนด์ดาวน์ โร้ดในเดือนกันยายนเอาไว้ในนิตยสารเลกิ้ปฉบับพิเศษ 100% ซีดาน วางแผนเมื่อวันเสาร์ที่ 2 เมษายน ทว่าในวันรุ่งขึ้นชิชูก็รีบออกมาปฏิเสธทันควันเพราะเขาไม่ต้องการจะเป็นคนผิดคำพูด อีกทั้งหลังการตกรอบ 8 ทีมในยูโร 2004 ซีดานไม่เคยได้รับการทาบทามจริงๆ จังๆ จากโดเมเน็ค ให้มาเป็นตัวหลักของทีมที่กำลังจะถูกสร้างขึ้นใหม่ ที่สุดแล้วซีดานจึงรีบตัดความเป้นไปได้แม้จะยืนยันว่า เลส์ เบอลส์คือช่วงชีวิตของผมก็ตามที และแน่นอนว่าซีเนดีน ซีดาน หมายเลข 2 นั้นไม่มี จึงเป็นหน้าที่ของโดเสเน็คที่จะต้องสร้างจอมทัพอีกแบบหนึ่งขึ้นมาเองในอนาคตอันใกล้

วาเลเรียง อิสมาเอล

วาเลเรียง อิสมาเอล ไม่เคยได้รับโอกาสถูกเรียกติดทีมชาติฝรั่งเศสชุดใหญ่สักครั้งเดียว

วาเลเรียง อิสมาเอล
วาเลเรียง อิสมาเอล

ถึงทุกวันนี้เขาจะเป็นสตาร์ชื่อดังของวงการฟุตบอลบุนเดสลีกา แต่ วาเลเรียง อิสมาเอล ก็ยังไม่เคยได้รับโอกาสถูกเรียกติดทีมชาติฝรั่งเศสชุดใหญ่สักครั้งเดียวเคยแต่รับใช้เลส์ เบลอส์ชุดอายุต่ำกว่า 21 ปี 7 หนด้วยกัน

สื่อมวลชนเยอรมันมักตั้งคำถามนี้ให้ผมตอบว่า ทำไมถึงไม่ถูกเรียกตัวติดทีมชาติฝรั่งเศส ซึ่งผมไม่รู้จริงๆ…ผมต้องขอบคุณ โธมัส ชาฟ ที่ให้โอกาสผมลงสนาม ให้ความไว้วางใจและมั่นใจในฝีเท้าของผม มันทำให้ผมสามารถแสดงพลังความสามารถของตัวเองออกมาได้อย่างอิสระและเต็มที่ นอกจากนั้นผมต้องขอบคุณ อีวาน ฮาเช็ก เทรนเนอร์ชาวเช็กที่ช่วยพัฒนาฝีเท้าของผมตั้งแต่สมัยอยู่ที่สตราส์บูร์ก

กับสถานการณ์ลุ้นแชมป์บุนเดสลีกาฤดูกาลนี้ กองหลังชาวฝรั่งเศสอดีตดาวเคาระห์สตราส์บูร์ก

กล่าวว่า เรารู้ดีถึงโอกาสความเป็นไปได้ เราพยายามกันอย่างเต็มที่ หากสุดท้ายเราไม่สามารถป้องกันแชมป์ไว้ได้อย่างน้อยที่สุดเบรเมนจะต้องได้โควตาเข้าแข่งขันยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกซีซั่นหน้า

สำหรับผลงานที่เลวร้าย เมื่อถูก โอลิมบิก ลียง สอนบอลลียงเป็นทีมที่แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพมาก หลังจากนัดแรกของรอบ 16 ทีมสุดท้ายแชมเปี้ยนส์ ลีกเราแพ้คาบ้าน 0-3 ทำให้โอกาสที่จะเข้ารอบต่อไป มีน้อยทันที ซึ่งในที่สุดเราก็ทำไม่สำเร็จแม้ผมยิงประตูได้ในนัดที่ 2 ก็ตาม

ทุกวันนี้ผมมีความสุขมากในการเล่นที่นี่ บรรยากาศภายในทีมยอดเยี่ยม เหมือนเป็นครอบครัวใหญ่ เคล้าส์ อัลลอฟส์ (ผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาของเบรเมน) ดีกับผมมาก รวมถึงเพื่อนร่วมทีมทุกคน

แฟนบอลเยอรมันรู้จักผมเป็นอย่างดี และผมยังได้รับเชิญไปออกทีวีหลายรายการ โดยเฉพาะในช่วงมี่คว้าแชมป์บุนเดสลีกากับแชมป์เดเอฟเบ โพคาลเมื่อปี 2004 หลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันเป็นเรื่องที่น่าพอใจมากสำหรับตำแหน่งนักเตะกองหลัง

บาร์ซ่า

ผมบอกตัวเองเสมอว่าระหว่างบาร์ซ่ากับที่อื่น บาร์ซ่าย่อมชนะอยู่วันยังค่ำ

บาร์ซ่า
บาร์ซ่า

ผมบอกตัวเองเสมอว่าระหว่างบาร์ซ่ากับที่อื่น บาร์ซ่าย่อมชนะอยู่วันยังค่ำ ผมชอบสโมสรนี้มานานแล้ว นอกจากนั้น บาร์เซโลน่าก็โด่งดังมากที่บราซิลด้วย

มันอาจจะง่ายกว่าถ้าผมเลือกเซลซี เพื่อร่วมงานกับโค้ชที่ผมรู้จักผมดีอยู่แล้ว แต่ผมมองว่าเป็นความท้าทายมากกว่าหากเลือกไปอยู่กับทีมใหม่ ผู้จัดการทีมใหม่เพื่อแสดงความสามารถให้ทุกคนเห็น ผมได้รับข้อเสนองามๆ จากเซลซีเช่นกัน แต่ผมไม่อยากไปที่นั่นแล้วได้ยินว่าหมอนี่ได้เล่นเพราะเป็นเด็กของมูรินโญ่หรอก

แต่นั้นไม่ได้หมายความว่าผมไม่สนฟุตบอลอังกฤษ ลีกที่นั่นพัฒนาไปมากตั้งแต่มีนักเตะต่างชาติเข้ามา

มุมมองเรื่องสไตล์การเล่นก็เปลี่ยนไป เช่นเดียวกับคุณภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย แฟนๆที่นั่นก็รักฟุตบอลและทีมอย่างสุดหัวใจ ก่อนอื่นผมอยากฝากผลงานไว้กับบาร์ซ่าก่อน ไม่ใช่แค่คนนึงที่เดินเข้ามารับเงินแล้วก็จากไป ไว้ถึงตอนนั้นแล้วค่อยว่ากันอีกที ถ้าเป็นไปได้ผมอยากไปเล่นในอังกฤษเช่นกัน

และสิ่งแรกที่เขาอาจถามถึงก่อนตกลงใจ อาจขึ้นนอยู่กับผู้จัดการทีม ชื่อ แกรม ซูเนสส์ ก็เป็นได้

โดยรวมแล้วถือว่าผมค่อนข้างพอใจในการที่ได้เข้ามาร่วมทีมในสโมสรแห่งนี้และผมหวังเป็นอย่างยิ่งที่ผมจะได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีไม่ว่าจะจากทั้งสโมสรที่ผมอยู่ในตอนนี้หรือจากสโมสรที่ผมจะย้ายไปอยู่ในวันข้างหน้าก็ตามที ผมถือว่าในวันนี้ผมค่อนข้างมีประสบการณ์มากพอสมควรในวงการฟุตบอลมืออาชีพ ผมคิดว่าผมจะได้รับการต้อนรับที่ดีจากสโมสรใหญ่ๆมากมาย

มาริโอ้ เกิทเซ่ เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับอาร์เซน่อล แต่ไม่ใช่การเสริมทีมที่ตรงจุด

อย่างที่ทราบกันดี ว่าช่วงนี้กระแสเกี่ยวกับตลาดซื้อขายนักเตะรอบหน้านั้น ดูเหมือนจะเริ่มคึกคักอย่างต่อเนื่องเลย ทำให้สำหรับบทความนี้นั้น เลยขอพูดถึงกระแสข่าวของตลาดซื้อขายนักเตะที่ผ่านมาที่ถือว่า เป็นกระแสข่าวที่น่าสนใจกันหน่อย และสำหรับกระแสข่าวที่จะหยิบเอามาพูดถึงกันในบทความนี้นั้น เป็นกระแสข่าวของทางด้านทีมอาร์เซน่อลของกุนซือ อาร์เซน เวนเกอร์ หลังจากมีข่าวว่า พวกเขากำลังตกเป็นข่าวให้ความสนใจในตัวของเจ้า มาริโอ้ เกิทเซ่ เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่งของทีมบาเยิร์นมิวนิคเพื่อมาเสริมทีมสำหรับตลาดซื้อขายรอยหน้านี้นั่นเอง

ถึงตรงนี้ก็คงต้องบอกว่าก่อนเลยว่า ไม่รู้เหมือนกันว่ากระแสข่าวดังกล่าวนี้ที่ออกมาจะจริงหรือไม่ แต่ต้องบอกว่า สำหรับเจ้ามาริโอ้ เกิทเซ่ นั้น ถือว่าเป็นตัวเลือกการเสริมทีมที่อาร์เซน่อลเลือกได้ดีเลยทีเดียว เพราะสำหรับเจ้ามาริโอ้ เกิทเซ่ ถือว่าเป็นนักเตะที่ฝีเท้าดีคนนึงเลย และที่สำคัญสไตล์การเล่นของเจ้า มาริโอ้ เกิทเซ่ นั้นน่าจะเข้ากันได้ดีกับระบบการเล่นของอาร์เซน่อลอีกด้วย ซึ่งเชื่อว่า ถ้าหากอาร์เซน่อลได้เจ้ามาริโอ้ เกิทเซ่ มาเสริมทีมในแดนกลางอีกคน เกมรุกของอาร์เซน่อลในแดนกลางฤดูกาลหน้านั้น จะยิ่งหลากหลายยิ่งขึ้นแน่นอน แต่ทว่า น่าจะเป็นการดีกว่า หากอาร์เซน่อลควรหากองหน้าตัวใหม่ก่อน

นั่นก็เพราะมองว่า แม้เจ้ามาริโอ้ เกิทเซ่นั้น จะถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการอาร์เซน่อลก็ตาม แต่ทว่า เจ้ามาริโอ้ เกิทเซ่นั้น ไม่ใช่ตำแหน่งที่อาร์เซน่อลควรเสริม เพราะว่าตำแหน่งที่อาร์เซน่อลควรเสริมให้ตรงจุดก่อนนั้น นั่นก็คือ ตำแหน่งกองหน้าตัวใหม่นั่นเอง เพราะจะเห็นได้ว่า ตอนนี้ตัวเลือกในแดนกลางของอาร์เซน่อลนั้น ค่อนข้างมีหลายตัวเลือกอยู่แล้ว แถมแต่ละคนก็ทำผลงานได้ดีอีกด้วย แต่ทว่าสำหรับในส่วนของกองหน้านั้น เห็นได้ชัดเจนเลยว่า ยังค่อนข้างเป็นปัญหาสำหรับอาร์เซน่อลพอสมควร เพราะกองหน้าที่มีทั้งเจ้า โอลิเวอร์ ชิรูด์ และเจ้าแดนนี่ เวลเบคนั้น ยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการของทีมได้เท่าไหร่นัก ซึ่งสิ่งที่ทั้งสองคนนี้ยังทำได้ไม่ค่อยดีก็คือ เรื่องความแน่นอนในการจบสกอร์นั่นเอง ซึ่งจะเห็นได้ว่า หลายๆนัดที่ผ่านมาในฤดูกาลนี้ มีอยู่หลายครั้งที่ทั้ง ชิรูด์และ เวลเบคนั้น ยังใช้โอกาสเปลืองเกินไป จนทำให้อาร์เซน่อลพลาดการเก็บสามแต้มสำคัญไปหลายครั้ง ก็เลยทำให้คิดว่า อาร์เซน่อลควรเลือกเสริมทีมให้ตรงจุดก่อน นั่นก็คือ การหากองหน้าตัวใหม่ แม้ว่าเจ้ามาริโอ้ เกิทเซ่ นั้นจะถือว่าเป็นตัวเลือกการเสริมทีมที่ดีก็ตาม เพราะต้องไม่ลืมนะว่า อาร์เซน่อลค่อนข้างมีงบในการเสริมทีมในแต่ละปีนั้น ค่อนข้างจำกัดไม่เหมือนพวกยักษ์ใหญ่ทีมอื่น อย่างเชลซี แมนซิตี้ หรือแมนยู เลยควรเลือกเสริมทีมในตำแหน่งที่จำเป็น ก่อนน่าจะดีกว่านั่นเอง.

ลาชิโอ

ต้องเฉียบขาดนั่นคือนโยบายของลาชิโอ

ลาชิโอ
ลาชิโอ

นโยบายแห่งลาชิโอ กล้าทำสิ่งใหม่และสนใจแต่ฟอร์มที่เฉียบขาดนั่นคือสองคำที่แชร์โจ้ครันญ็อตติ โปรดปรานในการบริหารงาน แนวทางของเขาง่ายและชัดเจน คือคิดและทำในนามนักธุรกิจเต็มตัว และวิธีการบริหารของเขาก็เป็นวิธีการของผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินโดยแท้ครันญ็อตติกิตติมศักดิ์ในร่างเดียวออกอย่างสิ้นเชิง เขาพร้อมที่จะทุ่มเทเม็ดเงินมหาศาลระดับพันล้านลีร์เพื่อแลกตัวนักเตะซักคน เช่นการมาของเฮอร์นัน เครสโปในราคา 370 ล้านฟรังก์ (2035 ล้านบาท) ดแต่เขาก็ไม่ได้หยุดอยู่พียงเท่านั้น โดยหลังจากย้ายทีมที่ทำการสโมสรไปฟอร์มเมลโล่ และปรับปรุงศูนย์ฝึกซ้อมให้ทันสมัยรับศตวรรษใหม่ นายใหญ่ลาชิโอยังเป็นประธานรายแรกที่นำสโมสรฟุตบอลอิตาลีเข้าสู่ตลาดหุ้นตั้งแต่เมื่อเดือน พฤษภาคม ปี 1999 และยังกล้าคิดกล้าทำ เลื่อนขั้นหนึ่งในนักเตะของทีมอเลสซานโดร เนสต้า ผู้เป็นกัปตันทีมขึ้นมามีสิทธิ์มีเสียงในคณะที่ปรึกษาด้วยหรือไม่ก็แจกแจงจ่ายหุ้นให้นักเตะของเขา และแน่นอนว่าคนที่วางโปรเจกต์ใหญ่สร้างสนามฟุตบอลแห่งใหม่ ก็คือครันญ็อตติ นี้ซึ่งประกาศว่าวันที่ในปี 2001 นี้เอง โปรเจกต์นี้จะเริ่มต้นขึ้น

ขุมกำลังวันนี้ ครันญ็อตติเอื้ออำนวยให้ สเวน โกรัน อีริคส์สัน ทำงานของเขาได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการซื้อผู้เล่นอย่างที่ลาชิโอมีอยู่ในปัจจุบัน ทั้งเวรรอน, เนสต้า, ซาลาส, เนดเวด, มิไฮโลวิช หรือแนโกร ซึ่งนอกจากชื่อที่มีอยู่แล้วนี้ก็มีนักเตะอย่าง เปรุชชี่ เคลาดิโอ โลเปช และ เครสโป มาเสริม แต่อาจเพราะตัว โลเปชเจ็บและกว่าจะกลับมาได้ก็ต้องรอถึงเดือนกุมภาพันธ์ ขณะที่เวรอนก็ต้องพักมาหนึ่งเดือนเช่นกัน และการจากไปของแชร์โจ้ ตคอนไซเซา ไม่อาจทดแทนได้งานของอีริคส์สันจึงยุ่งกว่าที่คาดอีริคส์สันแก้จุดบกพร่องให้ลาชิโอในฤดูกาลนี้ไม่ได้เลยก่อนที่จะจำใจต้องจรลีไปสู่ตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ ทำให้ลาชิโอต้องเรียก ดิโน่ ซอฟฟ์ กลับลงมาจากหอคอยเพื่อรับบทกุนซือขัดตาทัพไปพลางๆ ส่วนโอกาสในการคว้าแชมป์ทั้งหลายนั้น ดูจะเลือนลาง

ลิเวอร์พูล

แข้งใหม่ไม่ดีพอ คือเหตุผลว่าทำไม ลิเวอร์พูลถึงหลุดท็อปโฟร์อีกครั้ง!

ลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูล

หลังจากที่ศึกการแข่งขันพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ใกล้จะปิดตัวลงอีกครั้งแล้วนั้น ถึงตรงนี้เชื่อว่า คงไม่อาจจะปฏิเสธได้แน่นอน ถ้าเกิดจะถามว่าทีมใดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ คือหนึ่งในทีมที่ทำผลงานออกมาได้ค่อนข้างผิดฟอร์มและน่าผิดหวังพอสมควรนั้น เพราะเชื่อว่าเสียงส่วนใหญ่คงตอบกันเป็นเสียงเดียวแน่นอนว่าหนึ่งในนั้นก็คือ ทีมหงส์แดงลิเวอร์พูลของกุนซือ เบรนเดน ร็อดเจอร์นั่นเอง เพราะจะเห็นได้ว่า ฤดูกาลนี้ลิเวอร์พูลทำผลงานออกมาได้อย่างค่อนข้างน่าผิดหวังจริงๆ โดยเฉพาะหากเทียบกับฤดูกาลที่ผ่านมาแล้วเห็นได้ชัดถึงความแตกต่าง สุดท้ายก็เลยทำให้ฤดูกาลนี้ลิเวอร์พูลของเบรนเดน ร็อดเจอร์นั้นเลยหลุดตำแหน่งท็อปโฟร์อีกครั้งนั่นเอง

และด้วยผลงานของลิเวอร์พูลในฤดูกาลนี้ที่ทำได้อย่างน่าผิดหวังไปหน่อยนั้น สิ่งที่ตามมาก็คงหนีไม่พ้นคำถามว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ ลิเวอร์พูลของกุนซือเบรเดน ร็อดเจอร์ในฤดูกาลนี้ ถึงทำผลงานออกมาได้อย่างค่อนข้างผิดความคาดหมายไปพอสมควรเลย ทั้งๆที่ฤดูกาลที่แล้วนั้นจะเห็นได้ถึงสัญญาณที่ดีว่า ลิเวอร์พูลกำลังจะกลับมาเป็นทีมที่ทำผลงานได้ดีอีกครั้ง แต่สุดท้ายฤดูกาลนี้ผลงานที่ออกมากลับผิดความคาดหมายไปพอสมควร ซึ่งแน่นอนว่า สำหรับหนึ่งในคำตอบของคำถามดังกล่าวนี้ ก็คงเป็นเพราะการที่ลิเวอร์พูลไม่มีกองหน้าตัวเก่งอย่างเจ้า หลุยส์ ซัวเรสช่วยทีมนั่นเอง แต่ทว่านั่นก็คือส่วนหนึ่ง เพราะอีกส่วนหนึ่งนั้นก็คือ แข้งใหม่ที่ไม่ดีพอด้วย

นั่นก็เพราะจะเห็นได้ว่า จากผลงานที่ผ่านมาของเหล่าบรรดาแข้งใหม่ หรือว่านักเตะใหม่ของลิเวอร์พูลในฤดูกาลนี้ทั้งหลายนั้น แทบไม่มีใครที่พอจะโชว์ผลงานออกมาได้ดีเท่าที่ควร เรียกได้ว่า ลิเวอร์พูลนั้นพลาดกับการซื้อตัวของฤดูกาลนี้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในส่วนของกองหน้านั้น ถือว่าลิเวอร์พูลพลาดพอสมควรเลย เพราะแข้งใหม่ที่ลิเวอร์พูลซื้อเข้ามาทดแทนการออกไปของเจ้าหลุยส์ ซัวเรสทั้ง เจ้ามาริโอ้ บาโลเตลลี่ และริคกี้ แลมเบิร์ตนั้น ไม่มีใครเลยที่สามารถทดแทนและทำหน้าที่แทนเจ้าหลุยส์ ซัวเรสได้ดีเท่าที่ควร ก็เลยทำให้จะเห็นได้ว่า ฤดูกาลนี้เกมรุกของลิเวอร์พูลนั้น ลดความดุดันลงไปพอสมควรเลย เพราะกองหน้าผลิตสกอร์ไม่ค่อยได้ ส่วนนักเตะใหม่ในตำแหน่งอื่นหลายคนก็โชว์ฟอร์มออกมาได้ไม่ดีอีกด้วย สุดท้ายก็เลยส่งผลกระทบต่อผลงานลิเวอร์พูลในฤดูกาลนี้นั่นเอง

ดังนั้นเห็นที่ว่า สำหรับตลาดซื้อขายนักเตะรอบหน้านี้ หากลิเวอร์พูลต้องการที่จะกลับมาทำผลงานให้ดีขึ้นอีกครั้งในฤดูกาลหน้า พวกเขาจะต้องเลือกเสริมทีมให้ดีๆ โดยเน้นนักเตะเกรดเอเป็นหลัก ไม่ควรเน้นแต่นักเตะเกรดรองลง เพราะถ้าหากลิเวอร์พูลยังคงเน้นเสริมทีมด้วยนักเตะเกรดบีลงมาเหมือนเดิม ฤดูกาลหน้าก็คงยากที่พวกเขาจะกลับขึ้นมาสู่โซนท็อปโฟร์ได้อีกครั้งนั่นเอง.

อินเตอร์มิลาน กับการเลือกมันชินี่มาเป็นกุนซืออีกครั้ง ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกแล้ว!

หากพูดถึงหนึ่งในทีมที่ถือว่า หลายปีที่ผ่านมานั้น พวกเขาทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวังมาหลายปีติดต่อกันเลยทีเดียวนั้น ไม่อาจจะปฏิเสธได้แน่นอนว่า หนึ่งในนั้นก็คือทีมอินเตอร์มิลานอดีตยักษ์ใหญ่จากอิตาลีนั่นเอง เพราะจะเห็นได้ว่า หลังจากที่มูริญโญ่สามารถพาทีมคว้าสามแชมป์มาครองได้สำเร็จนั้น หลังจากนั้นอินเตอร์มิลานก็เข้าสู่ช่วงตกต่ำเป็นอย่างมากเลยทีเดียว นั่นก็เพราะว่า หลังจากนั้นพวกเขาแทบไม่สามารถคว้าแชมป์อะไรมาครองได้เลย แถมยังกลายเป็นได้แค่ทีมที่รั้งอันดับอยู่ในโซนกลางตารางเท่านั้น ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ พวกเขาเคยเป็นทีมที่ได้ชื่อว่า เป็นยักษ์ใหญ่แห่งลีกอิตาลีมาก่อนนั่นเอง

มันชินี่
มันชินี่

และแน่นอนว่าสำหรับผลงานของทีมอินเตอร์มิลานในฤดูกาลนี้นั้น ก็คงยังถือว่าเป็นหนึ่งฤดูกาลเช่นเคย ที่พวกเขายังคงไม่สามารถทำผลงานได้ดีเท่าไหร่นัก แม้ว่าช่วงต้นฤดูกาลหน้าจะออกสตาร์ทด้วยผลงานที่ค่อนข้างดีก็ตาม แต่ก็ฟอร์มดีแค่เพียงไม่กี่นัดเท่านั้น หลังๆก็เริ่มกลับฟอร์มเดิมอีกครั้ง จนทำให้ฤดูกาลนี้อินเตอร์มิลานนั้น ก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งกุนซืออีกครั้ง หลังจากที่กุนซือคนเก่าอย่าง วอลเตอร์ มาซซารี่นั้น ทำผลงานได้ไม่ดีขึ้นเท่าไหร่ เลยทำให้ทางอินเตอร์มิลานนั้นตัดสินใจไปดึงตัวกุนซือคนเก่าอย่าง โรแบร์โต้ มันชินี่กลับมาคุมทีมอีกครั้ง และดูเหมือนว่า สำหรับการตัดสินใจดึงตัวกุนซือคนนี้เข้ามาคุมทีมอีกครั้งนั้น ถือว่าอินเตอร์มิลานได้ตัดสินใจถูกอีกด้วย

นั่นก็เพราะว่า ดูเหมือนหลังการมาของกุนซือโรแบร์โต้ มันชินี่นั้น อินเตอร์มิลานเริ่มทำผลงานได้ดีขึ้นเรื่อยๆเลยทีเดียวนั่นเอง โดยจะเห็นได้ว่าตอนนี้ หลังจากที่ได้โรแบร์โต้ มันชินี่มาคุมทีมนั้น อันดับในตารางคะแนนของอินเตอร์มิลานก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ จากก่อนหน้านี้พวกเขาแทบจะหมดโอกาสที่จะไปเตะรายการยุโรปอย่างยูโรป้าลีกไปเลย เพราะรั้งอันดับอยู่โซนกลางๆตารางเท่านั้น แต่ทว่าตอนนี้ หลังจากการมาของกุนซือโรแบร์โต้ มันชินี่ ทีมก็ทำผลงานได้ดีขึ้น จนกลับมามีลุ้นคว้าตั๋วไปเตะยุโรป้าลีกในฤดูกาลหน้าอีกครั้งด้วย และทีสำคัญเลย สิ่งที่เปลี่ยนแปลงดีขึ้นอย่างชัดเจนอีกอย่างก็คือ ระบบการเล่นของทีมนั้น ดูเป็นระบบมากขึ้นด้วย โดยเฉพาะในส่วนแนวรุกนั้น เริ่มทำผลงานได้ดีขึ้นอย่างชัดเจน จะเหลือก็เพียงแค่ปรับแนวรับให้เสียประตูน้อยลงอีกหน่อย และเสริมทีมเพิ่มอีกหน่อย เชื่อว่าฤดูกาลหน้าอินเตอร์มิลานน่าจะมีผลงานที่ดีกว่าฤดูกาลนี้แน่นอน เพราะผลงานที่ผ่านมาที่เริ่มขึ้นหลังการมาของโรแบร์โต้ มันชินี่ นั้นเริ่มเป็นการส่งสัญญาณดีขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ต้องบอกว่า การที่อินเตอร์มิลานตัดสินใจดึงตัวมันชินี่กลับมาช่วยทีมอีกครั้งนั้น ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกแล้วนั่นเอง.

เหตุผลว่าทำไม ฟอร์มและผลงานของดาเนี่ยล สเตอริดจ์ยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่นักหากเทียบกับฤดูกาลก่อน

ดาเนี่ยล สเตอริดจ์
ดาเนี่ยล สเตอริดจ์

หากพูดถึงทีมหงส์แดงลิเวอร์พูลของกุนซือ เบรนเดน ร็อดเจอร์กับผลงานในฤดูกาลนี้ที่ผ่านมานั้น ต้องบอกว่าตั้งแต่เข้าสู่ช่วงครึ่งฤดูกาลหลังนั้น ดูเหมือนทีมหงส์แดงลิเวอร์พูลนั้นจะทำผลงานได้ดีขึ้นพอสมควรเลย เพราะจะเห็นได้ว่า ทั้งฟอร์มและผลงานของลิเวอร์พูลตั้งแต่เข้าสู่ช่วงครึ่งฤดูกาลหลังนั้น พวกเขาทำผลงานได้ดีต่อเนื่อง สามารถเก็บชัยชนะได้อย่างต่อเนื่องติดต่อกัน ซึ่งหากเทียบกับผลงานในช่วงครึ่งฤดูกาลแรกแล้วนั้น เห็นได้ชัดเจนเลยว่าแตกต่างกันพอสมควร ซึ่งก็คงอาจจะเป็นว่า ทีมลิเวอร์พูลของร็อดเจอร์นั้นเริ่มลงตัวมากขึ้น และก็คงเป็นเพราะ พวกเขาได้กองหน้าตัวเก่งอย่างเจ้าดาเนี่ล สเตอริดจ์กลับมาช่วยทีมด้วย เพราะดูเหมือนการกลับมาของเจ้าดาเนี่ยล สเตอริดจ์นั้นทำให้เกมรุกของลิเวอร์พูลดูไหลลื่นขึ้น เลยทำให้ผลงานดูดีขึ้นตามมาด้วยนั่นเอง

แต่อย่างไรก็ดี พอเมื่อพูดถึงกองหน้าตัวสำคัญของลิเวอร์พูลอย่างเจ้า ดาเนี่ยล สเตอริดจ์แล้วก็ต้องบอกว่า แม้การได้เจ้ากองหน้าคนนี้กลับมาช่วยทีมอีกครั้ง จะมีส่วนทำให้ลิเวอร์พูลเริ่มมีผลงานที่ดีขึ้นก็ตาม แต่ทว่าถ้าหากพูดถึงฟอร์มโดยรวมของเจ้า ดาเนี่ยล สเตอริดจ์ ที่ผ่านมาแล้ว ก็ต้องบอกว่าฤดูกาลนี้เขายังโชว์ผลงานออกมาได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก หากเมือเทียบกับฤดูกาลที่แล้ว เพราะมีหลายๆเกมเหมือนกันที่เขา แทบเล่นไม่ออกเลยแถมยังไม่สามารถยิงประตูให้กับทีมได้ด้วย เลยทำให้หลายๆคนเริ่มแอบสงสัยไม่ได้ว่า มันเกิดอะไรขึ้นกับเขา ทำไมฟอร์มที่เคยร้อนแรงเหมือนในฤดูกาลก่อนนั้น ถึงหายไปพอสมควรเลย ดังนั้นสำหรับในบทความนี้ เลยจะมาดูกันว่าสาเหตุเกิดจากอะไรนั่นเอง

สำหรับสาเหตุแรกนั้น น่าจะเป็นเพราะ เจ้าตัวพึ่งหายเจ็บยาวกลับมานั่นเอง นั่นก็เพราะว่าด้วยก่อนหน้านี้ เจ้าดาเนี่ยล สเตอริดจ์ ต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บยาวหลายเดือนเลย การที่เขาไม่ลงสนามนานๆ อาจจะส่งผลต่อความฟิตของเขา จึงไม่แปลกเท่าไหร่ที่จะเห็นได้ว่า แม้ได้กลับมาลองสนามอีกครั้ง เจ้าดาเนี่ยล สเตอริดจ์ เลยยังไม่สามารถโชว์ฟอร์มออกมาได้ดีเท่าไหร่ เพราะจริงๆแล้วก็พึ่งได้ลงสนามไปเพียงไม่กี่นัดเท่านั้น เพราะเขายังไม่ฟิตเต็มที่ ซึ่งจะเห็นได้ว่า หลายเกมที่ผ่านมา ร็อดเจอร์เลยยังคงให้เขาเป็นตัวสำรองหลายเกมอยู่เหมือนกันนั่นเอง

สำหรับสาเหตุต่อมาก็คือ อาจจะเป็นเพราะการขาดกองหน้าอย่างหลุยส์ ซัวเรสไปอีกคนด้วย เพราะดูเหมือนว่าเจ้าดาเนี่ยล สเตอริดจ์ จะโชว์ฟอร์มได้ดีหากว่า ได้เล่นแบบกองหน้าสองคนแบบเจ้าหลุยส์ ซัวเรส นั่นก็เพราะ ก่อนหน้านี้ยามที่ได้เล่นกับซัวเรสนั้น เจ้าดาเนี่ยล สเตอริดจ์จะเล่นง่ายขึ้นเพราะว่า ซัวเรสสามารถเก็บบอลและพักบอลในแดนหน้าได้ แถมยังช่วยดึงตัวประกบออกไปได้หลายคน ก็เลยทำให้ดาเนี่ยล สเตอริดจ์ เล่นง่ายขึ้นเลยส่งผลทำให้โชว์ผลงานออกมาได้ดี แต่พอมาฤดูกาลนี้ เจ้าตัวต้องมารับบทบาทเล่นหน้าเป้าคนเดียว ก็เลยทำให้เล่นยากขึ้น เพราะไม่มีตัวดึงตัวประกบให้ และเข้าก็ไม่เก่งเรื่องการเก็บบอลและพักบอล บวกกับยังฟิตเต็มที่ด้วยแล้ว จึงไม่แปลกที่ทำไมฤดูกาลนี้ ดาเนี่ยล สเตอริดจ์ ถึงยังโชว์ฟอร์มไม่ค่อยออกนั่นเอง.

บางทีแมนยูควรน่าจะลองให้โอกาสกับราดาเมล ฟัลเกาในฤดูกาลหน้าอีกซักฤดูกาล!

ราดาเมล ฟัลเกา
ราดาเมล ฟัลเกา

หากพูดถึงเกี่ยวตลาดซื้อขายนักเตะช่วงแรกของฤดูกาลนี้นั้น คงไม่อาจจะปฏิเสธได้เลยว่า สำหรับทีมแมนชเสเตอร์ยูในเต็ดของกุนซือหลุยส์ ฟาล ฮาลนั้นถือว่าเป็นทีมที่เสริมทีมในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะรอบแรกชนิดที่ว่า สร้างความฮือฮาให้กับพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ไม่น้อยเลย นั่นก็เพราะว่า ฤดูกาลนี้แมนยูนั้นได้หันมาทุ่มกับการเสริมทีมเป็นจำนวนไม่น้อยชนิดที่ว่า ไม่ค่อยได้เห็นกันเท่าไหร่นัก ด้วยการดึงสองนักเตะซุปตาร์ดังอย่าง อังเคิล ดิมาเรีย และยอดกองหน้าตัวเก่งอย่างเจ้าราดาเมล ฟัลเกามาเสริมทีมนั่นเอง

ซึ่งแน่นอนว่าหลังจากทันทีที่ได้รู้ว่า แมนยูได้เสริมทีมด้วยการดึงทั้งสองซุปตาร์ดังทั้งดิมาเรีย และราดาเมล ฟัลเกามาเสริมทีมนั้น ก็เล่นเอาหลายๆคนถึงกับอยากเห็นฟอร์มของทั้งสองคนไม่น้อยเลยสำหรับในช่วงแรก และในขณะเดียวกันก็เล่นเอาเหล่าแฟนๆของแมนยูเองนั้น ได้ตั้งความคาดหวังจากทั้งสองคนเอาไว้สูงเหมือนกัน โดยในตอนแรกนั้นเสียงส่วนใหญ่ต่างเชื่อกันว่า ทั้งสองคนนี้น่าจะช่วยพาทีมแมนยูนั้นทำผลงานในฤดูกาลนี้ได้ดีแน่นอน แต่แล้วหลังจากศึกการแข่งขันได้เปิดฤดูกาลผ่านเข้าสู่ช่วงครึ่งฤดูหลังเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น ดูเหมือนผลงานที่ผ่านมาจากทั้งสองคนนั้น จะเล่นเอาผิดหวังพอสมควรนั่นเอง

โดยทั้งนี้สำหรับในส่วนของเจ้าอังเคิล ดิมาเรียนั้น โดยรวมยังถือว่าทำผลงานได้ค่อนข้างดีพอสมควรระดับหนึ่ง แต่ทว่าสำหรับในส่วนของเจ้าราดาเมล ฟัลเกานั้น ฟอร์มและผลงานที่ออกมาค่อนข้างน่าผิดหวังพอสมควร เพราะดูเหมือนจากผลงานที่ผ่านมานั้น ฟอร์มที่เคยเก่ง ฟอร์มที่เคยพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาคือหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดของยุโรปมาก่อนนั้น หายไปพอสมควรเลย จนสุดท้ายด้วยฟอร์มที่น่าผิดหวังดังกล่าวของเจ้าดาราเมล ฟัลเกานี้นั่นเอง ทำให้มีกระแสข่าวว่า แมนยูอาจจะส่งตัวเขากลับทีมต้นสังกัดอย่างโมนาโกก่อนกำหนด เนื่องจากทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวังนั่นเอง

ซึ่งแน่นอนว่า หากดูจากผลงานที่ผ่านมาของเจ้า ราดาเมล ฟัลเกา กับแมนยูในฤดูกาลนี้นั้น จะถือว่าค่อนข้างทำได้อย่างน่าผิดหวังจนน่าส่งตัวกลับจริงๆก็ตาม แต่ถึงกระนั้นโดยส่วนตัวแล้วก็อยากให้แมนยู ลองให้โอกาสกับเขาต่ออีกซักฤดูกาล ซึ่งก็คือฤดูกาลหน้า สำหรับเหตุผลก็คือโดยส่วนตัวนั้นยังแอบคิดว่า เจ้าราดาเมล ฟัลเกานั้นยังมีดีอยู่แม้ฟอร์มตกก็ตาม เพราะคิดว่าส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาฟอร์มตกนั้น น่าจะมีส่วนมากจากฟอร์มของทีมแมนยูเองด้วย เพราะจะเห็นได้ว่าในตอนนี้ ระบบการเล่นของแมนยูภายใต้การคุมทีมของกุนซือหลุยส์ ฟาล ฮาลนั้น ยังไม่มีอะไรที่ลงตัวชัดเจนเท่าไหร่ หรือจะบอกว่าทรงบอลยังไม่เป็นรูปเป็นร่างเท่าที่ควร เพราะดูเหมือนหลุยส์ ฟาล ฮาลนั้นยังไม่สามารถหาระบบการเล่นที่ลงตัวที่สุดสำหรับแมนยูได้ ดังนั้นเลยคิดว่าจึงไม่แปลกใจเท่าไหร่นักที่ ราดาเมล ฟัลเกา จะฟอร์มไม่ดีเท่าที่ควร เพราะจากผลงานที่ผ่านมานั้น ราดาเมล ฟัลเกา จะโชว์ผลงานได้ก็ต่อเมื่อ ได้เล่นกับทีมที่ระบบการเล่นค่อนข้างลงตัวกว่าแมนยูในตอนนี้นั่นเอง.

ถ้าฤดูกาลนี้ โรม่าไปไม่ถึงแชมป์อีกครั้ง ฤดูกาลหน้าพวกเขาจะต้องเสริมทีมให้มากขึ้น!

โรม่า
โรม่า

เชื่อเหลือเกินว่า หากถามว่าทีมใดของลีกกัลป์โซ่ ซีเรียอาร์อิตาลีในฤดูกาลที่แล้ว ที่ทำผลงานได้อย่างค่อนข้างเซอร์ไพร์พอสมควร และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมรองจากทีมยูเวนตุสนั้น เชื่อว่าคงไม่ใครปฏิเสธได้แน่นอนหากว่า จะยกตำแหน่งดังกล่าวให้ทีมเอเอสโรม่าของกุนซือ รูดี้ การ์เซียนั่นเอง เพราะสำหรับผลงานของโรม่าในฤดูกาลที่ผ่านมานั้น พวกเขาทำผลงานกันได้อย่างเยี่ยมยอดจริงๆ เพราะสามารถก้าวขึ้นมาลุ้นแชมป์แบบเต็มตัวได้สำเร็จ แม้ว่าจะจบฤดูกาลด้วยการคว้าตำแหน่งรองแชมป์ก็ตามนั่นเอง

และด้วยฟอร์มอันร้อนแรงของโรม่าตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้วนั่นเอง ทำให้ในฤดูกาลนี้โรม่าเป็นหนึ่งในทีมที่หลายๆคน ให้ความสนใจและจับตามองเป็นพิเศษสำหรับเส้นทางการลุ้นแชมป์ของลีกอิตาลี เพราะหลายๆคนมองว่าฤดูกาลนี้โรม่านั้นอาจจะก้าวขึ้นมาแย่งแชมป์จากยูเวนตุสได้สำเร็จก็ได้ นั่นก็เพราะด้วยฤดูกาลนี้แชมป์เก่าอย่างยูเวนตุสมีการเปลี่ยนภายในสโมสรเกิดขึ้น เพราะว่าได้มีการเปลี่ยนกุนซือคนใหม่ หลังจากกุนซือคนเก่งอย่างอันโตนิโอ คอนเต้ได้ลาออกไป ทำให้หลายๆคนเชื่อว่า การเปลี่ยนกุนซือใหม่ของยูเวนตุสในครั้งนี้ น่าจะส่งผลต่อเรื่องผลงานของทีมพอสมควร และน่าจะเป็นโอกาสที่ทำให้โรม่าก้าวขึ้นมาแย่งแชมป์ไปครองได้แทนนั่นเอง

แต่อย่างไรก็ดี แต่พอหลังจากที่ศึกการแข่งขันได้เดินทางผ่านเข้าสู่ช่วงครึ่งฤดูกาลหลังเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น ดูเหมือนผลที่ออกมานั้น กลับกลายเป็นว่ายูเวนตุสยังคงทำผลงานได้ดีกว่าโรม่าเหมือนเดิม แถมในตอนนี้ยูเวนตุสก็เริ่มทิ้งคะแนนห่างโรม่าไปเรื่อยๆอีกด้วย ซึ่งหากมองจากความน่าจะเป็นในตอนนี้ก็คงต้องบอกว่า ทางด้านยูเวนตุสนั้นมีโอกาสที่จะคว้าแชมป์ในฤดูกาลนี้มาครองได้สำเร็จอีกครั้งสูงเลยทีเดียว แต่ถึงกระนั้นก็คงต้องรอดูกันต่อไป ว่าโรม่าจะไล่ตามทันได้รึเปล่า เพราะยังไงโอกาสก็ยังเปิดกว้างอยู่เหมือนกัน แต่ถ้าเกิดว่าสุดท้ายแล้ว ฤดูกาลนี้โรม่ายังไปไม่ถึงแชมป์อีกครั้งนั้น เห็นทีว่าฤดูกาลหน้า พวกเขาควรจะต้องปรับปรุงทีมให้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะถ้าพวกเขายังหวังคว้าแชมป์ในฤดูกาลหน้านั้น สโมสรจะต้องเสริมทีมให้มากขึ้นกว่าเดิม

สำหรับเหตุผลว่าทำไมถึงมองว่า ฤดูกาลหน้าโรม่าควรเสริมทีมให้มากขึ้นนั้น นั่นก็เพราะว่า หลังจากที่ได้ติดตามดูฟอร์มและผลงานของโรม่าในฤดูกาลนี้แล้ว พบว่าสิ่งที่พวกเขากำลังเป็นปัญหาอยู่ก็คือ ทีมยังขาดนักเตะหมุนเวียนน้อยเกินไป โดยเฉพาะนักเตะที่สามารถทดแทนกันได้ ยกตัวอย่างเช่นช่วงที่ผ่านมา พวกเขาขาดตัวรุกตัวเก่งอย่างแชร์วิญโญ่ไปเห็นได้ชัดว่า ส่งผลกระทบต่อทีมจริงๆ ทำให้ทีมเริ่มสะดุดทันที จนเป็นเหตุให้พวกเขาพลาดการเก็บสามแต้มสำคัญไปหลายนัดเหมือนกัน ดังนั้นเลยทำให้คิดว่า ถ้าในฤดูกาลหน้าพวกเขาอยากที่จะไปให้ถึงเป้าหมายคือการคว้าแชมป์ให้ได้ ก็ควรเสริมทีมเข้ามาเพิ่มอีก เพราะอย่างที่กล่าวเอาไว้ในตอนนี้ ขุมกำลังทดแทนของโรม่าที่มี ยังน้อยเกินไป นั่นเอง.