รัสเซล มาร์ติน

“วิกฤตการณ์ที่ เซนต์ แมรี่ส: การสิ้นสุดยุค รัสเซล มาร์ติน (Russell Martin) และอนาคตที่ไม่แน่นอนของ เซาแธมป์ตัน”

ความปั่นป่วนได้เกิดขึ้นอีกครั้งที่ เซนต์ แมรี่ส สเตเดียม เมื่อ เซาแธมป์ตัน (Southampton) ตัดสินใจปลด รัสเซล มาร์ติน (Russell Martin) พ้นจากตำแหน่งผู้จัดการทีม หลังจากพ่าย ทอตแนม ฮอตสเปอร์ (Tottenham Hotspur) อย่างยับเยิน 5-0 ในศึกพรีเมียร์ลีก (Premier League) ส่งผลให้ทีมจมอยู่ในอันดับสุดท้ายของตาราง ห่างจากโซนปลอดภัย 9 คะแนน จากความสำเร็จสู่ความล้มเหลว เมื่อย้อนกลับไปเพียงแค่ 7 เดือนก่อน มาร์ติน คือวีรบุรุษของชาว เซาแธมป์ตัน หลังพาทีมเลื่อนชั้นกลับสู่พรีเมียร์ลีก ด้วยชัยชนะเหนือ ลีดส์ ยูไนเต็ด (Leeds United) ในนัดชิงชนะเลิศเพลย์ออฟที่สนาม เวมบลีย์ (Wembley) แต่ฤดูกาล 2024/25 กลับกลายเป็นฝันร้ายสำหรับกุนซือวัย 38 ปีผู้นี้ ตลอด 16 เกมในพรีเมียร์ลีก เซาแธมป์ตัน ชนะเพียงนัดเดียวเท่านั้น เมื่อเอาชนะ เอฟเวอร์ตัน (Everton) ในเดือนพฤศจิกายน ขณะที่แพ้ไปถึง 13 นัด ที่น่าวิตกไปกว่านั้นคือประสิทธิภาพในการทำประตู โดยทีมยิงได้เพียง 11 ประตู น้อยที่สุดในลีก

 

ไซมอน รัสค์ (Simon Rusk) ผู้จัดการทีมชุดอายุไม่เกิน 21 ปี ได้รับการแต่งตั้งให้คุมทีมชั่วคราว

 

 โดยเกมแรกของเขาจะเป็นการพบกับ ลิเวอร์พูล (Liverpool) จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก ในศึก คาราบาว คัพ (Carabao Cup) รอบก่อนรองชนะเลิศ แม้ว่า เซาแธมป์ตัน จะลงทุนซื้อนักเตะใหม่ถึง 9 คนในช่วงซัมเมอร์ แต่ดูเหมือนว่าการเสริมทัพครั้งนี้จะไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร นักเตะใหม่หลายรายยังปรับตัวไม่ได้กับความเร็วและความเข้มข้นของพรีเมียร์ลีก ความผิดหวังของแฟนบอล เซาแธมป์ตัน  www sbobet แสดงออกอย่างชัดเจนในเกมกับ สเปอร์ส โดยเสียงโห่และการแสดงความไม่พอใจถูกส่งไปยังทั้ง มาร์ติน และเจ้าของสโมสร สปอร์ต รีพับลิค (Sport Republic)

 

ประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก บ่งชี้ว่าไม่เคยมีทีมใดที่มีแค่ 5 คะแนนหรือน้อยกว่าในช่วงเวลานี้ของฤดูกาลแล้วรอดพ้นจากการตกชั้น 

 

นี่คือความท้าทายอันใหญ่หลวงที่ เซาแธมป์ตัน ต้องเผชิญ ผู้เชี่ยวชาญด้านฟุตบอลหลายรายมองว่าปัญหาของ เซาแธมป์ตัน ไม่ได้อยู่ที่ผู้จัดการทีมเพียงอย่างเดียว แต่เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ทั้งในแง่ของการวางแผนระยะยาว การพัฒนาเยาวชน และการเสริมทัพ สโมสรจำเป็นต้องดำเนินการหลายอย่างเพื่อพลิกสถานการณ์:

 

1.หาผู้จัดการทีมที่มีประสบการณ์ในการกู้ทีมจากการตกชั้น

2.เสริมความแข็งแกร่งในตลาดซื้อขายเดือนมกราคม

3.ปรับปรุงระบบการเล่นให้แข็งแกร่งขึ้นโดยเฉพาะในแนวรับ

4.สร้างความมั่นใจให้กับนักเตะในทีม

การปลด รัสเซล มาร์ติน อาจเป็นการตัดสินใจที่จำเป็น แต่ เซาแธมป์ตัน www sbobet ยังมีงานหนักรออยู่ข้างหน้า การรักษาสถานะในพรีเมียร์ลีก จะเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนของสโมสร ตั้งแต่ระดับบอร์ดบริหารไปจนถึงแฟนบอล  คำกล่าวสุดท้ายของ มาร์ติน  “นี่เป็นงานที่อันตรายมาก” มาร์ติน กล่าวหลังเกมสุดท้ายของเขา “ผมไม่สามารถนั่งอยู่ที่นี่หลังแพ้ 5-0 อยู่อันดับสุดท้ายของตาราง แล้วแสร้งทำเป็นว่ามั่นใจในตำแหน่งงานของตัวเอง ผมไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทำงานและต่อสู้ต่อไป นั่นคือสิ่งที่ผมทำมาตลอดในงานนี้ และผมจะทำต่อไปจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง”

 

มิเกล อาร์เตต้า

นำก่อนยังไม่พอ ไอ้ปืนใหญ่พลาดโดน เนโต้ ยิงตีเสมอ เก็บได้แค่ 1 แต้ม ศึกลอนดอนดาร์บี้ โอกาสไล่บี้ลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก มืดมน

หลังจากเกมลอนดอนดาร์บี้แมตช์ ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ นั้นจบลงไป ผลการแข่งขันออกมาเสมอกันไป 1-1 จากตรงสะท้อนอะไรบางอย่างออกมาชัดเจน กับเส้นทางการลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลนี้ ถึงขนาดที่ ทาง BBC เล่นใหญ่ เสนอข่าวออกมาเลยว่า ในเวลานี้ เหลือทีม ลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกอยู่แค่ 2 ทีมเท่านั้น นั่นก็คือ ลิเวอร์พูล (Liverpool) และ แมนฯ ซิตี้ (Man City)  นั่นก็เพราว่า จากผลเสมอในเกมนี้ อาร์เซน่อล (Arsenal) เก็บได้ 1 คะแนน รั้งอยู่อันดับ 4 มี 19 คะแนน ตามหลังจ่าฝูง ลิเวอร์พูล (Liverpool) ไปแล้ว ถึง 9 คะแนนในเวลานี้ ด้วยช่องว่างขนาดนี้ ทำให้สื่อทั้งหลายนั้นไม่เชื่อแล้วว่า ทาง อาร์เซน่อล (Arsenal) จะคัมแบ็คกลับมาอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์ได้อีก ด้วยช่องว่างที่มันใหญ่เกินไป นอกจากนี้หากพูดถึง ความคงเส้นคงวา มาตรฐาน ที่ทาง ลิเวอร์พูล (Liverpool) นั้นทำไว้ได้สูงมากในฤดูกาลนี้ แม้แต่ แมนฯ ซิตี้ (Man City) เอง ก็ยังต้องเหนื่อยเลยในเวลานี้กับการตามหลัง ลิเวอร์พูล  (Liverpool) สำหรับ อาร์เซน่อล (Arsenal) แม้ว่า จะได้ตัวหลักกลับมาหมดในเกมนี้ และยังสามารถ ทำประตูนำไปได้ก่อนด้วย ในนาทีที่ 60 จาก กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ (Gabriel Martinelli) แต่ทาง เชลซี (Chelsea)  เจ้าบ้านเองก็ไม่ยอมแพ้มาตามตีเสมอได้จากประตูสุดสวย ของ เปรโด เนโต้  (Pedro Neto) ที่ลากตัดเข้ามาก่อนยิงด้วยเท้าซ้ายเข้าไปอย่างสวยงาม meechockdee จบเกมเลยทำให้ทั้งสองทีมเสมอกันไป 1-1 แบ่งกันไปคนละ 1 คะแนนเท่านั้น

 

มิเกล อาร์เตต้า ยอมรับ ผิดหวังที่ทำได้แค่เสมอกับ เชลซี แต่ก็ยอมรับ ชื่นชมการคัมแบ็คของ มาร์ติน โอเดนการ์ด ที่ถือว่าทำได้อย่างยอดเยี่ยมจริงๆ

 

มิเกล อาร์เตต้า (Mikel Arteta) นั้นออกมาแสดงความผิดหวังอย่างมากที่ลูกทีมของเขา ทำได้เพียงเสมอ 1-1 แบ่งแต้มกันไปคนละ 1 คะแนน ทำให้โอกาสลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก นั้นตอนนี้ถือว่ายากแล้ว แต่อย่างไรก็ตามยังมีแง่มุมที่ดีกับการคัมแบ็คของ มาร์ติน โอเดนการ์ด (Martin Ødegaard) ที่ถือได้ว่าฟอร์มการเล่นในเกมนี้ทำได้อย่างยอดเยี่ยมจริงๆ เกมนี้มีลูกครอสสวยๆ รวมไปถึง แอสซิสต์ สวยๆ ที่ให้ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ (Gabriel Martinelli) ทำประตูขึ้นนำ 1-0 แม้ว่าท้ายที่สุด จะมาโดน เปรโด เนโต้ (Pedro Neto) ตีเสมอได้ก็ตาม แต่ก็ยังถือว่าคนที่เจ็บไปนานแล้วกลับมาลงเล่นตัวจริงนัดแรก ได้ยอดเยี่ยมขนาดนี้ก็ถือว่าเป็นส่วนที่น่าชื่นชมอย่างแท้จริง การคัมแบ็คของเขาทำให้ทีมเล่นกันได้อย่างไหลลื่น ต่อเกมกันได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ มิเกล อาร์เตต้า (Mikel Arteta) ยังมองว่า ในเกมนี้นั้น meechockdee  พวกเขา อาร์เซน่อล (Arsenal) เป็นทีมที่ดีกว่า เชลซี (Chelsea) อย่างชัดเจน สำหรับไอ้ปืนใหญ่ เวลานี้ มีแต้มตามหลัง จ่าฝูง ลิเวอร์พูล (Liverpool) ถึง 9 คะแนน หลังกลับจากเบรคทีมชาติ ก็จะต้องพบกับทีมหัวตาราง อย่าง น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ (Nottingham Forest) ที่ฤดูกาลนี้กำลังสร้างผลงานได้อย่างดีเยี่ยม แม้ว่าในนัดล่าสุดจะแพ้ นิวคาสเซิ่ล (Newcastle United) มาก็ตาม

 

มิเกล อาร์เตต้า เผยต่อ บูกาโย่ ซาก้า และ ดีแคลน ไรซ์ อาจจะต้องถอนตัวจากทัพ สิงโตคำราม หลังมีอาการบาดเจ็บ จากเกมพบ เชลซี

 

เรียกได้ว่าเดือดร้อนไปถึง ทีมชาติ อังกฤษเลยทีเดียว ก่อนหน้านี้ทางด้าน เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (Trent Alexander-Arnold) ก็เพิ่งจะเจ็บ และส่อแววถอนตัวจากทีมชาติไปหมาดๆ ล่าสุด บูกาโย่ ซาก้า (Bukayo Saka)  กับ ดีแคลน ไรซ์  (Declan Rice) เป็นสองแข้ง สิงโตคำรามที่อยู่ในข่ายที่จะต้องถอนตัวไปอีก 2 ราย ในเกมลอนดอนดาร์บี้แมตช เมื่อคืนที่ผ่านมานั้น ทั้งคู่ลงเล่นเป็นตัวจริงให้กับทีมไอ้ปืนใหญ่ อาร์เซน่อล (Arsenal) ในรายของ ดีแคลน ไรซ์  (Declan Rice) ดูเหมือนว่า ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวออกมาก่อนแล้วว่า ตัวเขานั้นบาดเจ็บถึงขั้นกระดูกเท้าหัก แต่ยังฝืนลงเล่น จะในเกมเมื่อคืนก็ต้องถูกเปลี่ยนตัวออกไป นอกจากนี้ก็ยังมี บูกาโย่ ซาก้า  (Bukayo Saka) อีกราย ที่เจ็บจนต้องเปลี่ยนตัวออกไปเช่นกัน ซึ่งทาง มิเกล อาร์เตต้า (Mikel Arteta) ก็บอกเองเลยว่า มันดูไม่ใชอาการที่ดีเลย ทั้งคู่ต่างบอกเขาว่า เล่นต่อไปไม่ไหว และต้องเปลี่ยนตัวออก ซึ่งแน่นอน ทั้งสองคนก็น่าจะต้องถอนตัวออกจากทีมชาติอังกฤษเช่นกัน เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บต่อไป

คาร์โล อันเชล็อตติ

อันเช่ สุดเซ็ง เกมรับ ราชันชุดขาว เปื่อยยุ่ง ราวกระดาษทิชชู่เปียกน้ำ ย้ำต้องรีบปรับโดยด่วยมิเช่นนั้นมีโอกาสที่จะร่วงจากรายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกได้เช่นกัน

คาร์โล อันเชล็อตติ (Carlo Ancelotti) สุดเซ็ง หลังลูกทีมของเขา รีล มาดริด (Real Madrid) ยังออกอาการเป๋ไม่เลิก โดยเกมล่าสุดในรายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ก็ดันเปิดบ้าน ซานติเอโก้ เบอร์นาบิว พ่ายแพ้ให้กับ เอซี มิลาน (A.C. Milan) ไป 3-1 เรียกได้ว่าอาจจะเป็นพิษจาก ศึก เอลกราซิโก้ ที่แพ้คาบ้านต่อ บาร์เซโลน่า (Barcelona) ไป 4-0 จนถึงตอนนี้ก็ยังหาฟอร์มเก่งไม่เจอ แนวรุกฝืดจัด แถมแนวรับก็เปื่อยยุ่ยเกินกว่าจะบรรยาย ราวกับ กระดาษทิชชู่ ที่เปียกน้ำรอวันฉีกขาด และหากยังเป็นอย่างนี้ต่อไป หากยังปรับแก้เรื่องของเกมรับไม่ได้ก็มีโอกาสไม่น้อยที่จะตกรอบ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รายการที่พวกเขาครอบครอง ความยิ่งใหญ่ มาอย่างยาวนาน คว้าแชมป์มากมายไปถึง 15 สมัย สถานการณ์ล่าสุดเวลานี้ ลูกทีมของ อันเช่ นั้นพ่ายแพ้ไปแล้วถึง 2 นัด จาก 4 เกม เก็บได้แค่ 6 คะแนน อยู่อันดับ 17 ของตารางคะแนนเวลานี้ แถมนัดหน้า พวกเขาต้องบุกไปเยือน ทีมจ่าฝูงของรายการนี้อย่าง หงส์แดง ลิเวอร์พูล (Liverpool) อีกด้วย ซึ่งจะแข่งขันกันในวันที่ 27 พฤศจิกายนนี้

 

เกิดอะไรขึ้นกับฟอร์มของแนวรุก ราชันชุดขาว จู๊ด เบลลิ่งแฮม,เอ็มบัปเป้ และ วินิซิอุส แนวรุกที่น่าจะโหด แต่กลับไม่เป็นอย่างที่คิด

 

ก่อนฤดูกาลจะเริ่มขึ้น เชื่อได้เลยว่า หากมองที่รายชื่อตัวผู้เล่นกับความแข็งแกร่งเดิมที่ทาง รีล มาดริด (Real Madrid) นั้นมีอยู่แล้ว การได้มาซึ่งตัวของ ดาวเตะมหาประลัย กองหน้าระดับโลกที่ใครๆ ต่างกล่าวขวัญถึงอย่าง คิลิยัน เอ็มบัปเป้ (Kylian Mbappé) หากมองดูตามหน้ากระดาษ ชื่อชั้นของนักเตะ ดูๆ แล้ว แทบจะไม่เห็นทางใดเลยที่สถานการณ์ของ รีล มาดริด (Real Madrid)  จะต้องมาดูลำบากยากเย็นขนาดนี้ ในถ้วยรายการนี้ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ถ้วยที่พวกเขานั้นแทบจะจับจองครองมหาอำนาจมาโดยตลอด แต่การพ่ายแพ้ คาบ้าน ต่อ เอซี มิลาน (A.C. Milan) ถึง 3-1 มันก็สะท้อนอะไรหลายๆ อย่าง การพ่ายแพ้แบบคาบ้านสองครั้งติดๆ กัน นับจากในเกมลาลีกา สเปน ที่พ่ายแพ้ต่อ อริตลอดกาล อย่าง บาร์เซโลน่า (Barcelona) ที่สำคัญ เกมนี้ รีล มาดริด (Real Madrid) แม้จะยิงได้ 1 ลูก แต่ก็เป็นการยิงได้จาก จุดโทษ ของ วินิซิอุส จูเนียร์ (Vinícius Júnior) ทั้งที่ การออกสตาร์ท เกมนี้ รายชื่อเกมรุกที่ เราได้เห็น มันไม่ควรจะมีสกอร์แค่นี้ จู๊ด เบลลิ่งแฮม (Jude Bellingham)  ,คิลิยัน เอ็มบัปเป้ (Kylian Mbappé)  และ วินิซิอุส จูเนียร์ (Vinícius Júnior) นี่คือไลน์อัพ เกมรุกที่น่าจะทะลวงไสได้มากที่สุด แต่ต้องยอมรับเลยว่า ในฤดูกาลนี้ วิธีแทงบอลออนไลน์ ฟอร์มการเล่นของ จู๊ด เบลลิ่งแฮม (Jude Bellingham) นั้นตกวูบไปแบบน่าใจหาย ประกอบกับฟอร์มการยิงประตูของ คิลิยัน เอ็มบัปเป้ (Kylian Mbappé) ก็กลับไม่ได้เป็นไปอย่างที่คาดหวังไว้ นั่นทำให้ในเวลานี้ รีล มาดริด (Real Madrid) ต้องตกอยู่สถานการณ์ที่ยากลำบาก ส่วนสำคัญอีกส่วนคือ เกมรับที่มันย่ำแย่ ซะเหลือเกิน นับตั้งแต่พวกเขาขาดแบ็คขวาตัวเก่งอย่าง ดานี่ คาร์บาฆาล (Dani Carvajal) ไปเกมรับของทีมก็อ่อนยวบลงไปแบบน่าใจหาย วิธีแทงบอลออนไลน์ ด้วยสถานการณ์แบบนี้กับการที่จะต้องไปเจอกับ ลิเวอร์พูล (Liverpool) ที่แอนฟิลด์ ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก นัดต่อไป ดูแล้วน่าหนักใจแทน แฟนๆ ราชันชุดยิ่งนัก

 

ชนะแล้วพูดอะไรก็ดีไปหมด ฟอนเซก้า โว มิลาน นั้นเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ดูเล่นง่ายกว่าบอลลีก กัลโช่ ซีรีย์อา

 

เปาโล ฟอนเซก้า กุนซือของทัพ ปิศาจแดงดำ เอซี มิลาน (A.C. Milan) หลังจากพาทีมบุกเอาชนะ ราชันชุดขาว รีล มาดริด (Real Madrid) ได้ถึงถิ่น ซานติเอโก้ เบอร์นาบิว เจ้าตัวก็ได้ทีคุยโว พร้อมชมว่า ลูกทีมของเขานันเล่นด้วยความกล้าทำให้ทีมบุกเอาชนะไปได้ 3-1 นอกจากนี้ยังบอกอีกว่า สไตล์การเล่นของ เอซี มิลาน  (A.C. Milan) ตอนนี้ เหมาะกับฟุตบอลถ้วย อย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก มากกว่าฟุตบอล ลีก อย่างศึก กัลโช่ ซีรีย์ อาเสียอีก ในกมนี้ เอซี มิลาน  (A.C. Milan) นำก่อนจาก มาลิค เธียว (Malick Thiaw) แต่ก็มาโดนตามตีเสมอ ได้จาก วินิซิอุส จูเนียร์ (Vinícius Júnior) จากจุดโทษ ก่อนที่ ทีมดังแดนมักกะโรนี จะมาไล่ยิงอีก 2 ลูกได้จาก อัลบาโร โมราต้า (Alvaro Morata) และ ไทจ์ยานี่ ไรจ์เดอร์ส (Tijjani Reijnders) ทำให้ทีม เอซี มิลาน (A.C. Milan) บุกไปเอาชนะได้ 3-1 สถานการณ์ล่าสุดในรายการนี้ อยู่อันดับที่ 18 ติดๆ กับ รีล มาดริด (Real Madrid) ซึ่งก็ยังอยู่เส้นทางการลุ้นเข้ารอบต่อไป สวนทางกับสถานการณ์ภายในลีกที่อยู่ถึงอันดับที่ 7 ของตารางคะแนน กัลโช่ ซีรีย์ อา เลยทีเดียว 

นิโคลัส แจ็คสัน

งานงอก สิงห์ส่อแววไร้ 3 สตาร์ดัง บุกบู๊หงส์ หลังมีภาพ แจ๊คสัน ตบหน้านักเตะ ฟอเรสต์ หลังมีเหตุการณ์ ชุลมุนเกิดขึ้นในเกม จ่อโดนแบนเพิ่มอีกคน

เชลซี (Chelsea FC) น่าจะเจอปัญหาหนักก่อนเกมเยือน หงส์แดง หลังในเกมที่พบกับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ (Nottingham Forest) มีเหตุการณ์ชุลมุนเกิดขึ้น แล้วมีกล้องจับภาพเหตุการณ์ได้ว่า ทาง นิโคลัส แจ๊คสัน (Nicolas Jackson) เอามือไปตบหน้า โมราโต้  (Morato) ดาวเตะ บราซิล ของทีมเจ้าป่า น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์  (Nottingham Forest) นั่นอาจจะทำให้เจ้าตัวโดนโทษแบนเพิ่มเติมภายหลังได้ ซึ่งทีม สิงห์บลู เชลซี้ (Chelsea FC) นั้นจะมีนักเตะที่ติดโทษแบน แน่ๆ แล้ว ก็คือ มาร์ค คูคูเลญ่า (Marc Cucurella) และ เวสลีย์ โฟฟาน่า (Wesley Fofana) ที่จะได้รับโทษแบนแน่ๆ แล้ว หลังรับใบเหลืองไปครบ 5 ใบ ซึ่งโทษแบนนี้จะเกิดขึ้นทันทีหลังกลับมาจาก เบรคทีมชาติ แถมโปรแกรมที่ทาง เชลซี (Chelsea FC) ต้องเจอก็คือ การบุกไปเยือน จ่าฝูง อย่าง ลิเวอร์พูล (Liverpool) และหาก นิโคลัส แจ๊คสัน (Nicolas Jackson) ติดโทษแบนไปอีกคน นั่นหมายความว่า เชลซี (Chelsea FC) อาจจะต้องเสียผู้สำคัญไปถึง 3 รายเลยทีเดียวกับการไปเยือน แอนฟิลด์ คราวนี้

 

มาเรสก้า ไม่กังวลแม้สิงห์ส่อโดนปรับ 50,000 ปอนด์ หลังรับใบเหลืองรวมกันถึง 6 ใบ ในเกมที่พบกับ เจ้าป่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

 

ทางด้าย เอ็นโซ่ มาเรสก้า  (Enzo Maresca) กุนซือของทีม สิงห์บลู เชลซี (Chelsea FC) ไม่ได้มีอาการหวั่นใจแต่ประการใด หลังลูกทีม โดนใบเหลืองกันจนเกินลิมิตร ถึง 6 ใบ ในเกมพบ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ (Nottingham Forest) ซึ่ง ผลบอล sbobet ในเกมนี้ เสมอกันไป 1-1 แบ่งกันไปคนละ 1 แต้ม แถม ทีมเจ้าป่า เหลือ 10 คน เมื่อ เจมส์ วอร์ด-พราวส์  (James Ward-Prowse) นั้นโดนใบเหลือง 2 เป็นใบแดงไล่ออกจากสนามไปในนาทีที่ 78 แต่สุดท้าย ทาง เชลซี (Chelsea FC) ก็ไม่สามารถที่จะทำประตูเอาชนะได้  ทำให้จบเกม ผลบอล sbobet ออกมาเป็นเสมอกันไป 1-1 ในที่สุด สำหรับเกมนี้ ทางลูกทีมของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า (Enzo Maresca) นั้นโดนใบเหลืองกันระนาว ถึง 6 ใบ และจะทำให้พวกเขานั้นโดนโทษปรับ เป็น 50,000 ปอนด์ เพราะคราวนี้เป็นความผิดครั้งที่สอง จากครั้งก่อนในเกมที่พวกเขา เจอ บอร์มัธ เชลซี (Chelsea FC) โดนใบเหลืองไปทั้ง 8 คน ซึ่งเกมนี้ถือเป็นสถิติใหม่ในพรีเมียร์ลีก ด้วยที่มีการแจกใบเหลืองมากถึง 14 ใบต่อหนึ่งเกม ในส่วนนี้ทาง เอ็นโซ่ มาเรสก้า (Enzo Maresca) ไม่มีความกังวลใดๆ เพราะตัวเขาไม่ใช่คนจ่ายอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังคงชื่นชมความใจสู้ของลูกทีมของเขาอีกด้วย

 

หลังมีเหตุการณ์ชุลมุนกันในสนาม ระหว่างเกม เชลซี กับ ฟอเรสต์ ปรากฏภาพสุดยียวน เมื่อทาง โคล พาลเมอร์ เลือกที่จะนั่งดูเหตุการณ์แทนที่จะเข้าไปยุ่งรุมกับพวก

 

กลายเป็นภาพที่มีแฟนๆ แห่เข้ามาแซว น้องหนาว โคล พาลเมอร์ (Cole Palmer) กันยกใหญ่ หลังมีการจับภาพได้ว่าเจ้าตัว เลือกที่จะนั่นชมการเข้าไปชุลมุนวุ่นวายของนักเตะทั้งสองทีมแทนการเข้า ร่วมไพบูลย์ ด้วย ซึ่งส่วนหนึ่งอาจจะเพราะเจ้าตัวกังวลเพราะมีใบเหลืองติดตัวมาอยู่ก่อนแล้ว เลยทำให้เขาไม่อยากที่จะเข้าไปยุ่งพัวพันกับเหตุการณ์นี้ อย่างไรก็ตาม จากเกมนี้มันก็ทำให้ส่งผลกระทบต่อ เชลซี (Chelsea FC) อย่างมาก เมื่อนักเตะของพวกเขาจะโดนแบนจากการสะสมใบเหลือง ครบทันที 2 รายด้วยกัน นั่นก็คือ มาร์ค คูคู่เลญ่า (Marc Cucurella) และ เวสลีย์ โฟฟาน่า (Wesley Fofana) แถมยังต้องรอลุ้นอีกด้วยว่า จากกรณีที่ นิโคลัส แจ๊คสัน ไปตบหน้า โมราโต้ (Morato) นั้น จะโดนโทษแบนไปด้วยหรือเปล่า แต่ในส่วนของ นิโคลัส แจ๊คสัน (Nicolas Jackson) นั้น หากลงไม่ได้ ทางทีมสิงห์บลูก็ยังมีดาวเตะคนเก่ง อย่าง คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู (Christopher Nkunku) คอยสแตนบายด์ รอเสียบแทนอยู่ไร้ปัญหาในแดนหน้า

แมนยูฯ เสมอทเวนเต้ 1-1 ในเกมเปิดศึกยูโรปา ลีก

แมนยูฯ เสมอทเวนเต้ 1-1 ในเกมเปิดศึกยูโรปา ลีก

ผลงานของคริสเตียน อีริคเซน (Christian Eriksen) ไม่เพียงพอ ทีมของ เอริค เทน ฮาก (Erik ten Hag) ทำได้เพียงเสมอในศึกยูโรปา ลีก

สรุปการแข่งขัน

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Manchester United) เปิดฤดูกาล ยูโรปา ลีก ด้วยการเสมอกับ เอฟซี ทเวนเต้ (FC Twente) 1-1 ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด (Old Trafford) อย่างน่าผิดหวัง ประตูของคริสเตียน อีริคเซนถูกแซม แลมเมอร์ส (Sam Lammers) ทำลายความหวัง ส่งผลให้ทีมปีศาจแดงต้องพอใจกับการเก็บ 1 แต้มในนัดเปิดสนาม
อีริคเซนกล่าวหลังเกมว่า ทเวนเต้ “ดูเหมือนจะต้องการชัยชนะมากกว่าเรา” ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น

รายละเอียดการแข่งขัน

ทเวนเต้มีโอกาสทำประตูตั้งแต่ช่วงต้นเกม เมื่อแลมเมอร์สยิงพลาดเสาไกลของอองเดร อนานา (Andre Onana) ไปเพียงนิดเดียว แต่หลังจากนั้น แมนยูฯ ก็ควบคุมเกมได้อย่างมั่นใจเป็นเวลาเกือบหนึ่งชั่วโมง มีส ฮิลเกอร์ส (Mees Hilgers) เกือบทำเข้าประตูตัวเองก่อนที่อีริคเซนจะยิงประตูขึ้นนำ
กองกลางชาวเดนมาร์กซึ่งได้ลงเล่นเป็นตัวจริงเป็นนัดที่ 4 ติดต่อกัน แสดงฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมเมื่อเขารับบอลหลุดในกรอบเขตโทษของทเวนเต้และยิงเข้าประตูอย่างสวยงามในนาทีที่ 35 เป็นการนำที่สมควรได้รับในช่วงเวลานั้น
ทีมของเทน ฮากเล่นเกมรุกได้อย่างสดใส โจชัว เซิร์กซี (Joshua Zirkzee) สร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมด้วยการจ่ายบอลอย่างฉลาด ในขณะที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด (Marcus Rashford) และอามาด ดิอัลโล (Amad Diallo) เล่นด้วยความมั่นใจในตำแหน่งปีก แต่เกมพลิกเมื่ออีริคเซนถูกแลมเมอร์สแย่งบอลและถูกลงโทษอย่างรวดเร็ว
ประตูตีเสมอเปลี่ยนบรรยากาศในสนาม แฟนบอลเริ่มหวาดระแวง ในขณะที่ความมั่นใจของทเวนเต้กลับคืนมา แมนยูฯ พยายามรวบรวมสมาธิและกดดันเพื่อหาประตูชัย แต่ต้องพอใจกับการเก็บ 1 แต้มในนัดเปิดสนามยูโรปา ลีก ส่งผลให้พวกเขามีสถิติชนะเพียง 1 นัดจาก 9 นัดในการแข่งขันระดับยุโรป

การวิเคราะห์ ความเปราะบางของแมนยูฯ ถูกเปิดเผย

แมนยูฯ แสดงให้เห็นถึงสัญญาณการฟื้นตัวหลังจากพ่ายแพ้อย่างหนักต่อ ลิเวอร์พูล (Liverpool) ในบ้าน โดยทำได้ 10 ประตูและรักษาคลีนชีตได้ 3 นัดติดต่อกันในการแข่งขันที่ตามมา พวกเขาดูเหมือนจะควบคุมเกมได้อย่างเต็มที่ในช่วงหนึ่งของเกมกับทเวนเต้เช่นกัน
พวกเขาควรจะนำมากกว่า 1 ประตู แต่ขาดความเด็ดขาด เซิร์กซีดูเหมือนจะพอใจกับการโชว์ลูกเล่นแทนที่จะพยายามทำประตูเพิ่มเติมกับคู่ต่อสู้ที่ฉลองการเก็บ 1 แต้มอย่างสุดเหวี่ยงหลังจบเกม
การไม่สามารถเอาชนะได้แสดงให้เห็นถึงความเปราะบางที่ยังคงมีอยู่ เป็นที่น่ากังวลที่พวกเขาปล่อยให้ทเวนเต้ครองบอลได้ในช่วงต้นครึ่งหลัง โดยพอใจที่จะเล่นเกมสวนกลับ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นการกระตุ้นทีมจากเนเธอร์แลนด์ที่สามารถเจาะแนวรับของแมนยูฯ เพื่อตีเสมอได้
ปฏิกิริยาหลังจากนั้นน่าตกใจ ความตึงเครียดในสนามเห็นได้ชัด ผู้เล่นดูไม่สบายใจ บรูโน แฟร์นันเดส (Bruno Fernandes) มีคืนที่ยากลำบากเป็นพิเศษ และฟอร์มของเขากำลังเป็นที่น่ากังวล การเผชิญหน้ากับท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ (Tottenham Hotspur) ในวันอาทิตย์นี้ดูจะน่ากลัวขึ้นทันที

เทน ฮาก เราไม่สามารถจบเกมได้

เอริค เทน ฮาก ผู้จัดการทีมแมนยูฯ กล่าวในงานแถลงข่าว

เราต้องมีความเฉียบคมมากขึ้นในสถานการณ์ต่างๆ แต่ผมไม่คิดว่านั่นเป็นปัญหาเดียว โครงสร้างของทีมก็เป็นคำถามเรื่องจิตใจด้วย
เรามีความทะเยอทะยานมาก และเมื่อคุณมีความทะเยอทะยาน คุณต้องแสดงผลงานและพิสูจน์ตัวเอง วันนี้ โดยเฉพาะในครึ่งหลัง เราง่ายเกินไป ประมาทเกินไป เราไม่สามารถนำพาชัยชนะมาได้ และในฐานะทีม คุณต้องส่งมอบมัน”

การวิเคราะห์ เป็นปัญหาของตัวบุคคลหรือระบบ?

เทน ฮากชี้ให้เห็นว่ามีมากกว่าความผิดพลาดของอีริคเซนที่นำไปสู่ประตูตีเสมอ โดยยอมรับว่าทเวนเต้สามารถเดินเข้ามาในแดนแมนยูฯ ได้อย่างง่ายดาย “ผู้เล่นคนหนึ่ง แบ็คขวา กำลังเลี้ยงบอลผ่านกองกลางทั้งหมดโดยไม่มีใครหยุดเขาได้” เขากล่าวหลังจบเกม
นี่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ในฤดูกาลนี้ คาเซมิโร (Casemiro) ถูกจับได้สองครั้งในเกมกับลิเวอร์พูลและได้รับการวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก แต่เมื่อเหตุการณ์เดียวกันเกิดขึ้นกับค็อบบี เมนู (Kobbie Mainoo) ในครึ่งหลัง มันเป็นสัญญาณว่าอาจมีอะไรมากกว่านั้นในความเปราะบางของแมนยูฯ
ในเกมนี้ อีริคเซนเป็นผู้กระทำผิด แต่ก็เกิดขึ้นหลังจากที่นักเตะใหม่อย่าง มานูเอล อูการ์เต (Manuel Ugarte) ถูกแย่งบอลสองครั้งในครึ่งแรก ส่งผลให้เกิดโอกาสที่ดีสำหรับทเวนเต้ในทั้งสองครั้ง หากการจัดทัพของเทน ฮากมีส่วนทำให้เกิดจุดอ่อนนี้ ก็อาจเป็นปัญหาที่ใหญ่กว่า

สำหรับผู้ที่สนใจเดิมพันการแข่งขันกีฬา การติดตามผลการแข่งขันผ่าน สโบเบ็ตออนไลน์ สามารถทำให้คุณไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหวของทีมโปรด นอกจากนี้ สโบเบ็ตออนไลน์ ยังเป็นแหล่งข้อมูลที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการทราบข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเกมฟุตบอลและการวางเดิมพันที่เกี่ยวข้อง

ลิเวอร์พูล

แข้งใหม่ไม่ดีพอ คือเหตุผลว่าทำไม ลิเวอร์พูลถึงหลุดท็อปโฟร์อีกครั้ง!

ลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูล

หลังจากที่ศึกการแข่งขันพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ใกล้จะปิดตัวลงอีกครั้งแล้วนั้น ถึงตรงนี้เชื่อว่า คงไม่อาจจะปฏิเสธได้แน่นอน ถ้าเกิดจะถามว่าทีมใดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ คือหนึ่งในทีมที่ทำผลงานออกมาได้ค่อนข้างผิดฟอร์มและน่าผิดหวังพอสมควรนั้น เพราะเชื่อว่าเสียงส่วนใหญ่คงตอบกันเป็นเสียงเดียวแน่นอนว่าหนึ่งในนั้นก็คือ ทีมหงส์แดงลิเวอร์พูลของกุนซือ เบรนเดน ร็อดเจอร์นั่นเอง เพราะจะเห็นได้ว่า ฤดูกาลนี้ลิเวอร์พูลทำผลงานออกมาได้อย่างค่อนข้างน่าผิดหวังจริงๆ โดยเฉพาะหากเทียบกับฤดูกาลที่ผ่านมาแล้วเห็นได้ชัดถึงความแตกต่าง สุดท้ายก็เลยทำให้ฤดูกาลนี้ลิเวอร์พูลของเบรนเดน ร็อดเจอร์นั้นเลยหลุดตำแหน่งท็อปโฟร์อีกครั้งนั่นเอง

และด้วยผลงานของลิเวอร์พูลในฤดูกาลนี้ที่ทำได้อย่างน่าผิดหวังไปหน่อยนั้น สิ่งที่ตามมาก็คงหนีไม่พ้นคำถามว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ ลิเวอร์พูลของกุนซือเบรเดน ร็อดเจอร์ในฤดูกาลนี้ ถึงทำผลงานออกมาได้อย่างค่อนข้างผิดความคาดหมายไปพอสมควรเลย ทั้งๆที่ฤดูกาลที่แล้วนั้นจะเห็นได้ถึงสัญญาณที่ดีว่า ลิเวอร์พูลกำลังจะกลับมาเป็นทีมที่ทำผลงานได้ดีอีกครั้ง แต่สุดท้ายฤดูกาลนี้ผลงานที่ออกมากลับผิดความคาดหมายไปพอสมควร ซึ่งแน่นอนว่า สำหรับหนึ่งในคำตอบของคำถามดังกล่าวนี้ ก็คงเป็นเพราะการที่ลิเวอร์พูลไม่มีกองหน้าตัวเก่งอย่างเจ้า หลุยส์ ซัวเรสช่วยทีมนั่นเอง แต่ทว่านั่นก็คือส่วนหนึ่ง เพราะอีกส่วนหนึ่งนั้นก็คือ แข้งใหม่ที่ไม่ดีพอด้วย

นั่นก็เพราะจะเห็นได้ว่า จากผลงานที่ผ่านมาของเหล่าบรรดาแข้งใหม่ หรือว่านักเตะใหม่ของลิเวอร์พูลในฤดูกาลนี้ทั้งหลายนั้น แทบไม่มีใครที่พอจะโชว์ผลงานออกมาได้ดีเท่าที่ควร เรียกได้ว่า ลิเวอร์พูลนั้นพลาดกับการซื้อตัวของฤดูกาลนี้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในส่วนของกองหน้านั้น ถือว่าลิเวอร์พูลพลาดพอสมควรเลย เพราะแข้งใหม่ที่ลิเวอร์พูลซื้อเข้ามาทดแทนการออกไปของเจ้าหลุยส์ ซัวเรสทั้ง เจ้ามาริโอ้ บาโลเตลลี่ และริคกี้ แลมเบิร์ตนั้น ไม่มีใครเลยที่สามารถทดแทนและทำหน้าที่แทนเจ้าหลุยส์ ซัวเรสได้ดีเท่าที่ควร ก็เลยทำให้จะเห็นได้ว่า ฤดูกาลนี้เกมรุกของลิเวอร์พูลนั้น ลดความดุดันลงไปพอสมควรเลย เพราะกองหน้าผลิตสกอร์ไม่ค่อยได้ ส่วนนักเตะใหม่ในตำแหน่งอื่นหลายคนก็โชว์ฟอร์มออกมาได้ไม่ดีอีกด้วย สุดท้ายก็เลยส่งผลกระทบต่อผลงานลิเวอร์พูลในฤดูกาลนี้นั่นเอง

ดังนั้นเห็นที่ว่า สำหรับตลาดซื้อขายนักเตะรอบหน้านี้ หากลิเวอร์พูลต้องการที่จะกลับมาทำผลงานให้ดีขึ้นอีกครั้งในฤดูกาลหน้า พวกเขาจะต้องเลือกเสริมทีมให้ดีๆ โดยเน้นนักเตะเกรดเอเป็นหลัก ไม่ควรเน้นแต่นักเตะเกรดรองลง เพราะถ้าหากลิเวอร์พูลยังคงเน้นเสริมทีมด้วยนักเตะเกรดบีลงมาเหมือนเดิม ฤดูกาลหน้าก็คงยากที่พวกเขาจะกลับขึ้นมาสู่โซนท็อปโฟร์ได้อีกครั้งนั่นเอง.

เหตุผลว่าทำไม ฟอร์มและผลงานของดาเนี่ยล สเตอริดจ์ยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่นักหากเทียบกับฤดูกาลก่อน

ดาเนี่ยล สเตอริดจ์
ดาเนี่ยล สเตอริดจ์

หากพูดถึงทีมหงส์แดงลิเวอร์พูลของกุนซือ เบรนเดน ร็อดเจอร์กับผลงานในฤดูกาลนี้ที่ผ่านมานั้น ต้องบอกว่าตั้งแต่เข้าสู่ช่วงครึ่งฤดูกาลหลังนั้น ดูเหมือนทีมหงส์แดงลิเวอร์พูลนั้นจะทำผลงานได้ดีขึ้นพอสมควรเลย เพราะจะเห็นได้ว่า ทั้งฟอร์มและผลงานของลิเวอร์พูลตั้งแต่เข้าสู่ช่วงครึ่งฤดูกาลหลังนั้น พวกเขาทำผลงานได้ดีต่อเนื่อง สามารถเก็บชัยชนะได้อย่างต่อเนื่องติดต่อกัน ซึ่งหากเทียบกับผลงานในช่วงครึ่งฤดูกาลแรกแล้วนั้น เห็นได้ชัดเจนเลยว่าแตกต่างกันพอสมควร ซึ่งก็คงอาจจะเป็นว่า ทีมลิเวอร์พูลของร็อดเจอร์นั้นเริ่มลงตัวมากขึ้น และก็คงเป็นเพราะ พวกเขาได้กองหน้าตัวเก่งอย่างเจ้าดาเนี่ล สเตอริดจ์กลับมาช่วยทีมด้วย เพราะดูเหมือนการกลับมาของเจ้าดาเนี่ยล สเตอริดจ์นั้นทำให้เกมรุกของลิเวอร์พูลดูไหลลื่นขึ้น เลยทำให้ผลงานดูดีขึ้นตามมาด้วยนั่นเอง

แต่อย่างไรก็ดี พอเมื่อพูดถึงกองหน้าตัวสำคัญของลิเวอร์พูลอย่างเจ้า ดาเนี่ยล สเตอริดจ์แล้วก็ต้องบอกว่า แม้การได้เจ้ากองหน้าคนนี้กลับมาช่วยทีมอีกครั้ง จะมีส่วนทำให้ลิเวอร์พูลเริ่มมีผลงานที่ดีขึ้นก็ตาม แต่ทว่าถ้าหากพูดถึงฟอร์มโดยรวมของเจ้า ดาเนี่ยล สเตอริดจ์ ที่ผ่านมาแล้ว ก็ต้องบอกว่าฤดูกาลนี้เขายังโชว์ผลงานออกมาได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก หากเมือเทียบกับฤดูกาลที่แล้ว เพราะมีหลายๆเกมเหมือนกันที่เขา แทบเล่นไม่ออกเลยแถมยังไม่สามารถยิงประตูให้กับทีมได้ด้วย เลยทำให้หลายๆคนเริ่มแอบสงสัยไม่ได้ว่า มันเกิดอะไรขึ้นกับเขา ทำไมฟอร์มที่เคยร้อนแรงเหมือนในฤดูกาลก่อนนั้น ถึงหายไปพอสมควรเลย ดังนั้นสำหรับในบทความนี้ เลยจะมาดูกันว่าสาเหตุเกิดจากอะไรนั่นเอง

สำหรับสาเหตุแรกนั้น น่าจะเป็นเพราะ เจ้าตัวพึ่งหายเจ็บยาวกลับมานั่นเอง นั่นก็เพราะว่าด้วยก่อนหน้านี้ เจ้าดาเนี่ยล สเตอริดจ์ ต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บยาวหลายเดือนเลย การที่เขาไม่ลงสนามนานๆ อาจจะส่งผลต่อความฟิตของเขา จึงไม่แปลกเท่าไหร่ที่จะเห็นได้ว่า แม้ได้กลับมาลองสนามอีกครั้ง เจ้าดาเนี่ยล สเตอริดจ์ เลยยังไม่สามารถโชว์ฟอร์มออกมาได้ดีเท่าไหร่ เพราะจริงๆแล้วก็พึ่งได้ลงสนามไปเพียงไม่กี่นัดเท่านั้น เพราะเขายังไม่ฟิตเต็มที่ ซึ่งจะเห็นได้ว่า หลายเกมที่ผ่านมา ร็อดเจอร์เลยยังคงให้เขาเป็นตัวสำรองหลายเกมอยู่เหมือนกันนั่นเอง

สำหรับสาเหตุต่อมาก็คือ อาจจะเป็นเพราะการขาดกองหน้าอย่างหลุยส์ ซัวเรสไปอีกคนด้วย เพราะดูเหมือนว่าเจ้าดาเนี่ยล สเตอริดจ์ จะโชว์ฟอร์มได้ดีหากว่า ได้เล่นแบบกองหน้าสองคนแบบเจ้าหลุยส์ ซัวเรส นั่นก็เพราะ ก่อนหน้านี้ยามที่ได้เล่นกับซัวเรสนั้น เจ้าดาเนี่ยล สเตอริดจ์จะเล่นง่ายขึ้นเพราะว่า ซัวเรสสามารถเก็บบอลและพักบอลในแดนหน้าได้ แถมยังช่วยดึงตัวประกบออกไปได้หลายคน ก็เลยทำให้ดาเนี่ยล สเตอริดจ์ เล่นง่ายขึ้นเลยส่งผลทำให้โชว์ผลงานออกมาได้ดี แต่พอมาฤดูกาลนี้ เจ้าตัวต้องมารับบทบาทเล่นหน้าเป้าคนเดียว ก็เลยทำให้เล่นยากขึ้น เพราะไม่มีตัวดึงตัวประกบให้ และเข้าก็ไม่เก่งเรื่องการเก็บบอลและพักบอล บวกกับยังฟิตเต็มที่ด้วยแล้ว จึงไม่แปลกที่ทำไมฤดูกาลนี้ ดาเนี่ยล สเตอริดจ์ ถึงยังโชว์ฟอร์มไม่ค่อยออกนั่นเอง.