จู๊ด เบลลิงแฮม

“เรอัล มาดริด ต้องการปาฏิหาริย์” จู๊ด เบลลิงแฮมเชื่อ สามารถพลิกเกมกลับมาได้ที่ เบร์นาเบว

“สนามเหย้าของเราเป็นสถานที่ที่เรื่องบ้าๆ มักเกิดขึ้นได้เสมอ” นี่คือคำเตือนจาก จูด เบลลิงแฮม (Jude Bellingham) ถึงนักเตะ อาร์เซนอล (Arsenal) หลังจากที่ เรอัล มาดริด (Real Madrid) ของเขาพ่ายแพ้ไป 3-0 ในเกมเลกแรกของรอบก่อนรองชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก (Champions League) ทั้งสองทีมจะพบกันในเกมเลกที่สองในวันพุธที่ 16 เมษายน ที่สนาม ซานติอาโก เบร์นาเบว (Santiago Bernabeu) ของ เรอัล มาดริด การพ่ายแพ้ของ มาดริด ในวันอังคารที่ผ่านมาถือเป็นความพ่ายแพ้ที่หนักที่สุดเท่าที่เคยมีมาในรอบน็อคเอาท์ของ แชมเปี้ยนส์ ลีก และหลังจบเกม เบลลิงแฮม กล่าวว่าทีมของเขา “ห่างไกลจากฟอร์มที่ควรจะเป็น” เรอัล มาดริด แพ้ไปแล้ว 5 เกมในการแข่งขันรายการนี้ฤดูกาลนี้ ซึ่งเท่ากับสถิติของสโมสรที่เคยทำไว้ และชัยชนะของ อาร์เซนอล เป็นครั้งที่ 12 ที่ทีมจาก อังกฤษ ชนะด้วยผลต่างสามประตูหรือมากกว่าในเกมเลกแรกของรอบน็อคเอาท์ แชมเปี้ยนส์ ลีก  pic5678 และทุกครั้งทีมจาก อังกฤษ ก็ผ่านเข้ารอบต่อไปได้เสมอ อย่างไรก็ตาม กองกลางทีมชาติ อังกฤษ เชื่อว่า เรอัล ยังคง “มีลุ้น” ใน แชมเปี้ยนส์ ลีก – รายการแข่งขันที่พวกเขามีประวัติการพลิกเกมแบบสุดดราม่ามาแล้ว ฤดูกาลที่แล้ว พวกเขาเกือบจะตกรอบในเกมกับ บาเยิร์น มิวนิค (Bayern Munich) ก่อนที่จะพลิกสถานการณ์ด้วยสองประตูในช่วงท้ายเกมที่ เบร์นาเบว สามฤดูกาลก่อนหน้านี้ พวกเขาต้องการประตูในช่วงเวลาสุดท้ายในบ้านเพื่อเอาชนะ เชลซี (Chelsea) และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) เพื่อรักษาโอกาสในการเข้ารอบ แชมเปี้ยนส์ ลีก ในทั้งสองฤดูกาลนั้น ทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ (Carlo Ancelotti) ก็สามารถคว้าแชมป์รายการนี้ได้สำเร็จ “เราต้องการอะไรที่พิเศษมากๆ จริงๆ แล้วต้องการอะไรที่บ้าคลั่ง” เบลลิงแฮม บอกกับ Amazon Prime “เรามีเวลา 90 นาทีของฟุตบอล และอะไรก็เกิดขึ้นได้ที่ เบร์นาเบว”

 

ความหวังพลิกนรกจากความพ่ายแพ้ในนัดแรกของ  เรอัล มาดริด และประวัติศาสตร์แห่งปาฏิหาริย์

 

“สนามเหย้าของเราเป็นสถานที่ที่เรื่องบ้าๆ มักเกิดขึ้นได้เสมอ” คำพูดอันมีชื่อเสียงของ จู๊ด เบลลิงแฮม (Jude Bellingham) กลายเป็นความหวังของแฟนบอล เรอัล มาดริด (Real Madrid) ทั่วโลกหลังจากทีมของพวกเขาพ่ายแพ้อย่างหนักถึง 3-0 ต่อ อาร์เซนอล (Arsenal) ในรอบก่อนรองชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก (Champions League) เลกแรก ความพ่ายแพ้ครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในผลการแข่งขันที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของ เรอัล มาดริด ในรายการ แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยเป็นการพ่ายแพ้ที่มีผลต่างมากที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยประสบในรอบน็อคเอาท์ของรายการนี้ ซึ่งนับเป็นสัญญาณเตือนอย่างหนักสำหรับยอดทีมจาก สเปน คาร์โล อันเชล็อตติ (Carlo Ancelotti) กุนซือผู้มากประสบการณ์ของ เรอัล มาดริด ต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ในการเตรียมทีมสำหรับเกมเลกที่สอง ที่จะจัดขึ้นในวันพุธที่ 16 เมษายน ที่สนาม ซานติอาโก เบร์นาเบว (Santiago Bernabeu) อันเป็นรังเหย้าของพวกเขา สถิติไม่ได้เข้าข้าง เรอัล มาดริด เลยแม้แต่น้อย เมื่อพิจารณาว่าทีมจาก อังกฤษ ที่ชนะในเกมเลกแรกด้วยผลต่างสามประตูหรือมากกว่าในรอบน็อคเอาท์ของ แชมเปี้ยนส์ ลีก ทั้ง 12 ครั้งที่ผ่านมา ล้วนผ่านเข้ารอบต่อไปได้ทั้งหมด นอกจากนี้ เรอัล มาดริด ยังเสียไปแล้วถึง 5 เกมในฤดูกาลนี้ในรายการ แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งเท่ากับสถิติที่แย่ที่สุดของสโมสร แต่ถ้ามีทีมที่เราไม่ควรด่วนตัดสินว่าหมดโอกาส นั่นก็คือ เรอัล มาดริด โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาเล่นที่ เบร์นาเบว ประวัติศาสตร์ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขาสามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้แทบทุกครั้งที่ต้องการ ย้อนกลับไปในฤดูกาลที่แล้ว เรอัล มาดริด เกือบจะตกรอบในเกมรอบรองชนะเลิศกับ บาเยิร์น มิวนิค (Bayern Munich) ก่อนที่จะสร้างการพลิกกลับด้วยสองประตูในช่วงท้ายเกมที่บ้านของพวกเขา ทำให้ทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ ไม่เพียงเท่านั้น pic5678 สามฤดูกาลก่อนหน้านี้ พวกเขายังต้องพึ่งพาประตูในช่วงเวลาสุดท้ายในบ้านเพื่อเอาชนะทั้ง เชลซี (Chelsea) และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) เพื่อรักษาโอกาสในการเข้ารอบต่อไปใน แชมเปี้ยนส์ ลีก และในทั้งสองฤดูกาลนั้น ทีมของ อันเชล็อตติ ก็สามารถคว้าแชมป์รายการนี้ได้ในที่สุด “เราต้องการอะไรที่พิเศษมากๆ จริงๆ แล้วต้องการอะไรที่บ้าคลั่ง” เบลลิงแฮม กล่าวกับ Amazon Prime หลังจบเกมเลกแรก “เรามีเวลา 90 นาทีของฟุตบอล และอะไรก็เกิดขึ้นได้ที่ เบร์นาเบว” ถ้อยคำเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงจิตวิญญาณอันแท้จริงของ เรอัล มาดริด ทีมที่ไม่เคยยอมแพ้จนกว่านกหวีดสุดท้ายจะดังขึ้น ความเชื่อมั่นของ เบลลิงแฮม ไม่ได้มาจากความหยิ่งผยอง แต่มาจากความเข้าใจในประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ของสโมสรที่เขาสังกัดอยู่

การเผชิญหน้ากับ อาร์เซนอล ในเกมเลกที่สองจะเป็นบททดสอบครั้งสำคัญสำหรับ เรอัล มาดริด และความสามารถในการฟื้นตัวของพวกเขา ทีมปืนใหญ่ภายใต้การนำของ มิเกล อาร์เตต้า (Mikel Arteta) กำลังอยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยม และพวกเขาไม่มีทางปล่อยให้โอกาสในการเข้ารอบรองชนะเลิศหลุดมือไปอย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตาม เรอัล มาดริด มีประสบการณ์มากมายในสถานการณ์เช่นนี้ และพวกเขารู้ดีว่าต้องทำอย่างไรเพื่อกดดันคู่แข่งในบ้านของตัวเอง การสนับสนุนจากแฟนบอลที่ เบร์นาเบว จะเป็นปัจจัยสำคัญที่อาจช่วยยกระดับการเล่นของนักเตะ เรอัล มาดริด ให้สูงขึ้นอีกขั้น

 

เมื่อพูดถึง แชมเปี้ยนส์ ลีก ไม่มีทีมใดประสบความสำเร็จมากกว่า เรอัล มาดริด ด้วยจำนวนแชมป์มากที่สุดในประวัติศาสตร์รายการนี้ 

 

รากฐานความสำเร็จของพวกเขาไม่ได้มาจากแค่ความสามารถของนักเตะ แต่ยังรวมถึงเจตจำนงอันแน่วแน่และความเชื่อมั่นว่าพวกเขาสามารถเอาชนะอุปสรรคใดๆ ได้ แม้ว่าเส้นทางสู่รอบต่อไปจะดูยากลำบาก แต่ประวัติศาสตร์ได้สอนเราแล้วว่า เรอัล มาดริด ไม่เคยยอมแพ้ง่ายๆ และเมื่อพูดถึงการพลิกสถานการณ์ในรายการ แชมเปี้ยนส์ ลีก พวกเขาคือผู้เชี่ยวชาญตัวจริง บรรยากาศที่ ซานติอาโก เบร์นาเบว ในคืนวันพุธที่ 16 เมษายน จะเป็นช่วงเวลาที่พิเศษสำหรับวงการฟุตบอล และแฟนบอลทั่วโลกจะได้เห็นว่า เรอัล  มาดริด จะสามารถสร้างปาฏิหาริย์อีกครั้งได้หรือไม่ หรือว่า อาร์เซนอล จะยืนหยัดและผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ

ฮันซี่ ฟลิค

ฟลิค ชี้ ทั้งยูฟ่าและฟีฟ่าควรออกมาพูดอะไรบ้าง นักเตะต้องได้พักผ่อน หลังจัดโปรแกรมต่อจากฟีฟ่าเดย์ ให้แบบแทบไม่ได้พัก

กุนซือชาวเยอรมันประเมินทีมของเขาก่อนเกมที่จะพบกับ โอซาซูน่า ที่มอนต์จูอิก ฮันซี่ ฟลิค (Hansi Flick) แสดงความไม่พอใจต่อช่วงเวลาพักผ่อนอันน้อยนิดที่นักเตะทีมชาติของเขาจะมีก่อนการเผชิญหน้ากับ โอซาซูน่า (Osasuna) โค้ชชาวเยอรมันแสดงความเสียใจต่อการตัดสินใจของ ลา ลีกา (La Liga) และยืนยันว่า ราฟินญ่า (Raphinha) และ โรนัลด์ อาราวโฮ (Ronald Araujo) จะไม่ลงเล่นพบกับ โอซาซูน่า และ คูบาร์ซี่ (Cubarsí) จะเป็นตัวสำรอง อย่างไรก็ตาม เขายังคงมั่นใจในการเก็บสามแต้มและยังคงรักษาตำแหน่งบนตารางลีกา “นักฟุตบอลได้ลงเล่นกับทีมชาติของพวกเขา และนั่นเป็นเรื่องที่ไม่ดี ตอนนี้เราต้องลงเล่นกับ โอซาซูน่า และเราต้องพูดคุยกันว่านี่เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมหรือไม่ และหลังจากนั้นเราก็ต้องพบกับ เลกาเนส (Leganés) เวลา 21.00 น. ทำให้เรากลับบ้านดึก ผมไม่พอใจ มีลีกอื่นๆ ที่จัดการเรื่องนี้แตกต่างออกไป ผมคิดว่าเมื่อคุณเล่นใน แชมเปี้ยนส์ลีก (Champions League) คุณไม่ควรไปต่อต้าน บาร์ซ่า (Barça) แต่ควรปกป้องทีมสเปนที่เล่นในลีกของคุณ แต่ผมเปลี่ยนแปลงมันไม่ได้ นี่คือความเห็นส่วนตัวของผม และพวกคุณถามผม แต่เราจะลงเล่น เราไม่หาข้ออ้าง ทีมพร้อมแล้วและเราต้องหาประสิทธิภาพที่ดีที่สุด เรากำลังมุ่งไปที่นั่น คุณภาพของทีมดีและเราสามารถชนะใครก็ได้แม้ว่านักเตะจะไม่ได้พักผ่อนอย่างเหมาะสมก็ตาม” “ผมไม่อยากพูดถึงปฏิกิริยาของผมเมื่อรู้วันที่จะแข่งขัน ผมคิดว่าผมได้พูดไปชัดเจนแล้ว เราต้องยอมรับมัน เราเปลี่ยนแปลงมันไม่ได้ สโมสรเปลี่ยนแปลงมันไม่ได้ บางที ยูฟ่า (UEFA) หรือ ฟีฟ่า (FIFA) ควรออกมาพูดอะไรบ้างและให้นักเตะได้พักผ่อน เราต้องลงเล่น ลา ลีกา บอกอย่างนั้น และพวกเรา อาเมน”

ความท้าทายของ บาร์เซโลน่า ในตารางการแข่งขันที่แน่นเกินไปใน มุมมองของ ฮันซี่ ฟลิค

ในช่วงเวลาที่ตารางการแข่งขันฟุตบอลทั่วโลกเต็มไปด้วยเกมการแข่งขันที่แน่นขนัด กุนซือของ บาร์เซโลน่า (Barcelona) อย่าง ฮันซี่ ฟลิค (Hansi Flick) ได้แสดงความกังวลอย่างชัดเจนเกี่ยวกับสุขภาพและความพร้อมของนักเตะในทีมของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากช่วงเบรคทีมชาติที่ผ่านมา ซึ่งทำให้นักเตะหลายรายในทีมต้องเดินทางไกลและลงเล่นเกมที่หนักหน่วง u16822 ก่อนที่จะกลับมาเผชิญหน้ากับโปรแกรมลีกที่รออยู่ ในการให้สัมภาษณ์ล่าสุด ฟลิค ได้แสดงความไม่พอใจอย่างชัดเจนต่อการจัดตารางของ ลา ลีกา ที่กำหนดให้ บาร์เซโลน่า ต้องลงเล่นเกมลีกทันทีหลังจากที่นักเตะของเขาเพิ่งกลับจากการรับใช้ทีมชาติ “นักฟุตบอลได้ลงเล่นกับทีมชาติของพวกเขา และนั่นเป็นเรื่องที่ไม่ดี ตอนนี้เราต้องลงเล่นกับ โอซาซูน่า และเราต้องพูดคุยกันว่านี่เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมหรือไม่” ฟลิค กล่าว

กุนซือชาวเยอรมันยังชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างในการจัดการของลีกอื่นๆ ในยุโรป ที่มักจะให้ความสำคัญกับการปกป้องทีมที่ต้องลงเล่นในรายการ แชมเปี้ยนส์ลีก เขาเน้นย้ำว่า “ผมคิดว่าเมื่อคุณเล่นใน แชมเปี้ยนส์ลีก คุณไม่ควรไปต่อต้าน บาร์ซ่า แต่ควรปกป้องทีมสเปนที่เล่นในลีกของคุณ” ความท้าทายไม่ได้จบเพียงเท่านี้ เพราะหลังจากเกมกับ โอซาซูน่า ทีม บาร์เซโลน่า ยังต้องเผชิญกับ เลกาเนส ในเวลา 21.00 น. ซึ่งหมายความว่าพวกเขาจะกลับถึงบ้านในเวลาดึก ฟลิค ตั้งคำถามว่าองค์กรระดับโลกอย่าง ยูฟ่า และ ฟีฟ่า ควรเข้ามามีบทบาทในการปกป้องสุขภาพของนักเตะมากกว่านี้ “บางที ยูฟ่า หรือ ฟีฟ่า ควรออกมาพูดอะไรบ้างและให้นักเตะได้พักผ่อน” แม้จะแสดงความไม่พอใจ แต่ ฟลิค ก็ยอมรับว่าเขาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้ และทีมของเขาต้องปรับตัวให้เข้ากับความท้าทายที่เกิดขึ้น “เราต้องลงเล่น ลา ลีกา บอกอย่างนั้น และพวกเรา อาเมน” เขากล่าว

การปรับตัวที่สำคัญประการหนึ่งคือการจัดการกับนักเตะที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะ ราฟินญ่า และ โรนัลด์ อาราวโฮ ซึ่ง ฟลิค ยืนยันว่าทั้งคู่จะไม่ลงเล่นในเกมพบกับ โอซาซูน่า “พวกเขาจะไม่ลงเล่นและจะไม่อยู่ในทีม u16822 พวกเขาอยู่นอกทีม การเดินทางนั้นยาวนานและไม่ใช่สถานการณ์ที่เหมาะสมที่สุด พวกเขาต้องซ้อม พวกเขาต้องฟื้นตัวและซ้อม และเราจะมาดูกันวันอาทิตย์”

นอกจากนี้ ดาวรุ่งอย่าง เปา คูบาร์ซี่ ก็จะได้รับโอกาสในการพักฟื้นเช่นกัน โดยจะเป็นเพียงตัวสำรอง ขณะที่ เอริค และ อีนีโก จะได้รับโอกาสลงเล่นเป็นตัวจริง “เขาต้องการวันเหล่านั้น อาการบาดเจ็บไม่ได้รุนแรงมาก แต่เขาต้องการการฟื้นตัวมากขึ้น” ฟลิค อธิบายถึงสถานการณ์ของ คูบาร์ซี่ แม้จะเผชิญกับความท้าทายในเรื่องตารางการแข่งขัน แต่ ฟลิค ก็ยังคงมั่นใจในคุณภาพของทีม เขายืนยันว่า โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (Robert Lewandowski) ดาวยิงคนสำคัญของทีมมีความพร้อมลงสนาม “เขาฟิต และสามารถลงเล่นได้ พรุ่งนี้เราจะตัดสินใจว่าเขาจะเริ่มเป็นตัวจริงหรือไม่ แต่เขารู้สึกดีและสถานการณ์อยู่ในจุดที่เหมาะสม” นอกจากนี้ เฟร์ราน ตอร์เรส อีกหนึ่งแนวรุกสำคัญก็อยู่ในสภาพที่พร้อมลงสนามเช่นกัน กุนซือชาวเยอรมันได้หารือกับทีมงานและนักกายภาพบำบัดเพื่อหาวิธีช่วยให้นักเตะฟื้นตัวได้เร็วขึ้น เนื่องจากในช่วง 20 วันข้างหน้า บาร์เซโลน่า จะต้องลงเล่นถึง 7 เกม ซึ่งเป็นความท้าทายอย่างมากในการรักษาสภาพร่างกายของนักเตะ “เราได้พูดคุยกันว่าเราสามารถทำอะไรได้บ้างเพื่อให้นักฟุตบอลฟื้นตัวได้ดีขึ้น พวกเขาบอกผมว่านักเตะฟิต ดี การเล่นทุกสามวันไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับพวกเขา” ฟลิค กล่าว

แม้จะเผชิญกับอุปสรรคด้านตารางการแข่งขัน แต่ ฟลิค ยังคงมุ่งมั่นที่จะนำทีมไปสู่ชัยชนะ 

เขายืนยันว่าทีมของเขาพร้อมที่จะเอาชนะ โอซาซูน่า ในเกมที่กำลังจะมาถึง “ทีมพร้อมแล้วและเราต้องหาประสิทธิภาพที่ดีที่สุด คุณภาพของทีมดีและเราสามารถชนะใครก็ได้แม้ว่านักเตะจะไม่ได้พักผ่อนอย่างเหมาะสมก็ตาม” เขายังเน้นย้ำว่าทีมจะไม่หาข้ออ้าง และการตอบโต้ที่ดีที่สุดต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นคือการคว้าชัยชนะ “เมื่อเราชนะและมีสามแต้มเพิ่ม นั่นจะเป็นการตอบโต้ที่ดีที่สุดที่เราทำได้” ด้วยจิตวิญญาณของนักสู้และทีมงานที่แข็งแกร่ง บาร์เซโลน่า ภายใต้การนำของ ฮันซี่ ฟลิค พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทายที่รออยู่ แม้จะไม่ได้รับความเป็นธรรมในเรื่องตารางการแข่งขัน แต่พวกเขายังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างผลงานที่ดีที่สุดเพื่อแฟนบอลและเพื่อรักษาตำแหน่งบนตารางลีกให้ได้

 

คาร์โล อันเชล็อตติ

อันเช่ สุดเซ็ง เกมรับ ราชันชุดขาว เปื่อยยุ่ง ราวกระดาษทิชชู่เปียกน้ำ ย้ำต้องรีบปรับโดยด่วยมิเช่นนั้นมีโอกาสที่จะร่วงจากรายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกได้เช่นกัน

คาร์โล อันเชล็อตติ (Carlo Ancelotti) สุดเซ็ง หลังลูกทีมของเขา รีล มาดริด (Real Madrid) ยังออกอาการเป๋ไม่เลิก โดยเกมล่าสุดในรายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ก็ดันเปิดบ้าน ซานติเอโก้ เบอร์นาบิว พ่ายแพ้ให้กับ เอซี มิลาน (A.C. Milan) ไป 3-1 เรียกได้ว่าอาจจะเป็นพิษจาก ศึก เอลกราซิโก้ ที่แพ้คาบ้านต่อ บาร์เซโลน่า (Barcelona) ไป 4-0 จนถึงตอนนี้ก็ยังหาฟอร์มเก่งไม่เจอ แนวรุกฝืดจัด แถมแนวรับก็เปื่อยยุ่ยเกินกว่าจะบรรยาย ราวกับ กระดาษทิชชู่ ที่เปียกน้ำรอวันฉีกขาด และหากยังเป็นอย่างนี้ต่อไป หากยังปรับแก้เรื่องของเกมรับไม่ได้ก็มีโอกาสไม่น้อยที่จะตกรอบ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รายการที่พวกเขาครอบครอง ความยิ่งใหญ่ มาอย่างยาวนาน คว้าแชมป์มากมายไปถึง 15 สมัย สถานการณ์ล่าสุดเวลานี้ ลูกทีมของ อันเช่ นั้นพ่ายแพ้ไปแล้วถึง 2 นัด จาก 4 เกม เก็บได้แค่ 6 คะแนน อยู่อันดับ 17 ของตารางคะแนนเวลานี้ แถมนัดหน้า พวกเขาต้องบุกไปเยือน ทีมจ่าฝูงของรายการนี้อย่าง หงส์แดง ลิเวอร์พูล (Liverpool) อีกด้วย ซึ่งจะแข่งขันกันในวันที่ 27 พฤศจิกายนนี้

 

เกิดอะไรขึ้นกับฟอร์มของแนวรุก ราชันชุดขาว จู๊ด เบลลิ่งแฮม,เอ็มบัปเป้ และ วินิซิอุส แนวรุกที่น่าจะโหด แต่กลับไม่เป็นอย่างที่คิด

 

ก่อนฤดูกาลจะเริ่มขึ้น เชื่อได้เลยว่า หากมองที่รายชื่อตัวผู้เล่นกับความแข็งแกร่งเดิมที่ทาง รีล มาดริด (Real Madrid) นั้นมีอยู่แล้ว การได้มาซึ่งตัวของ ดาวเตะมหาประลัย กองหน้าระดับโลกที่ใครๆ ต่างกล่าวขวัญถึงอย่าง คิลิยัน เอ็มบัปเป้ (Kylian Mbappé) หากมองดูตามหน้ากระดาษ ชื่อชั้นของนักเตะ ดูๆ แล้ว แทบจะไม่เห็นทางใดเลยที่สถานการณ์ของ รีล มาดริด (Real Madrid)  จะต้องมาดูลำบากยากเย็นขนาดนี้ ในถ้วยรายการนี้ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ถ้วยที่พวกเขานั้นแทบจะจับจองครองมหาอำนาจมาโดยตลอด แต่การพ่ายแพ้ คาบ้าน ต่อ เอซี มิลาน (A.C. Milan) ถึง 3-1 มันก็สะท้อนอะไรหลายๆ อย่าง การพ่ายแพ้แบบคาบ้านสองครั้งติดๆ กัน นับจากในเกมลาลีกา สเปน ที่พ่ายแพ้ต่อ อริตลอดกาล อย่าง บาร์เซโลน่า (Barcelona) ที่สำคัญ เกมนี้ รีล มาดริด (Real Madrid) แม้จะยิงได้ 1 ลูก แต่ก็เป็นการยิงได้จาก จุดโทษ ของ วินิซิอุส จูเนียร์ (Vinícius Júnior) ทั้งที่ การออกสตาร์ท เกมนี้ รายชื่อเกมรุกที่ เราได้เห็น มันไม่ควรจะมีสกอร์แค่นี้ จู๊ด เบลลิ่งแฮม (Jude Bellingham)  ,คิลิยัน เอ็มบัปเป้ (Kylian Mbappé)  และ วินิซิอุส จูเนียร์ (Vinícius Júnior) นี่คือไลน์อัพ เกมรุกที่น่าจะทะลวงไสได้มากที่สุด แต่ต้องยอมรับเลยว่า ในฤดูกาลนี้ วิธีแทงบอลออนไลน์ ฟอร์มการเล่นของ จู๊ด เบลลิ่งแฮม (Jude Bellingham) นั้นตกวูบไปแบบน่าใจหาย ประกอบกับฟอร์มการยิงประตูของ คิลิยัน เอ็มบัปเป้ (Kylian Mbappé) ก็กลับไม่ได้เป็นไปอย่างที่คาดหวังไว้ นั่นทำให้ในเวลานี้ รีล มาดริด (Real Madrid) ต้องตกอยู่สถานการณ์ที่ยากลำบาก ส่วนสำคัญอีกส่วนคือ เกมรับที่มันย่ำแย่ ซะเหลือเกิน นับตั้งแต่พวกเขาขาดแบ็คขวาตัวเก่งอย่าง ดานี่ คาร์บาฆาล (Dani Carvajal) ไปเกมรับของทีมก็อ่อนยวบลงไปแบบน่าใจหาย วิธีแทงบอลออนไลน์ ด้วยสถานการณ์แบบนี้กับการที่จะต้องไปเจอกับ ลิเวอร์พูล (Liverpool) ที่แอนฟิลด์ ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก นัดต่อไป ดูแล้วน่าหนักใจแทน แฟนๆ ราชันชุดยิ่งนัก

 

ชนะแล้วพูดอะไรก็ดีไปหมด ฟอนเซก้า โว มิลาน นั้นเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ดูเล่นง่ายกว่าบอลลีก กัลโช่ ซีรีย์อา

 

เปาโล ฟอนเซก้า กุนซือของทัพ ปิศาจแดงดำ เอซี มิลาน (A.C. Milan) หลังจากพาทีมบุกเอาชนะ ราชันชุดขาว รีล มาดริด (Real Madrid) ได้ถึงถิ่น ซานติเอโก้ เบอร์นาบิว เจ้าตัวก็ได้ทีคุยโว พร้อมชมว่า ลูกทีมของเขานันเล่นด้วยความกล้าทำให้ทีมบุกเอาชนะไปได้ 3-1 นอกจากนี้ยังบอกอีกว่า สไตล์การเล่นของ เอซี มิลาน  (A.C. Milan) ตอนนี้ เหมาะกับฟุตบอลถ้วย อย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก มากกว่าฟุตบอล ลีก อย่างศึก กัลโช่ ซีรีย์ อาเสียอีก ในกมนี้ เอซี มิลาน  (A.C. Milan) นำก่อนจาก มาลิค เธียว (Malick Thiaw) แต่ก็มาโดนตามตีเสมอ ได้จาก วินิซิอุส จูเนียร์ (Vinícius Júnior) จากจุดโทษ ก่อนที่ ทีมดังแดนมักกะโรนี จะมาไล่ยิงอีก 2 ลูกได้จาก อัลบาโร โมราต้า (Alvaro Morata) และ ไทจ์ยานี่ ไรจ์เดอร์ส (Tijjani Reijnders) ทำให้ทีม เอซี มิลาน (A.C. Milan) บุกไปเอาชนะได้ 3-1 สถานการณ์ล่าสุดในรายการนี้ อยู่อันดับที่ 18 ติดๆ กับ รีล มาดริด (Real Madrid) ซึ่งก็ยังอยู่เส้นทางการลุ้นเข้ารอบต่อไป สวนทางกับสถานการณ์ภายในลีกที่อยู่ถึงอันดับที่ 7 ของตารางคะแนน กัลโช่ ซีรีย์ อา เลยทีเดียว 

ลามีน ยามาล

บาร์ซ่า โล่งอก ยามาล เจ็บไม่มากแคมป์กระทิงปล่อยกลับสโมสร เพื่อตามอาการเรียบร้อยแล้ว แม้ สเปน ยังมีเกม ชน เซอร์เบีย อีกหนึ่งนัด

บาร์เซโลน่า (Barcelona) ต้นสังกัดของ ดาวรุ่งพุ่งแรงแซงทุกคนอย่าง ลามีน ยามาล (Lamine Yamal) ได้ถอนหายใจเฮือกใหญ่ หลังมีการเปิดเผยแล้วว่า อาการบาดเจ็บของ ลามีน ยามาล (Lamine Yamal) ที่โดนเข้าปะทะหนักในเกม พบ ทีมชาติเดนมาร์ก นั้น ไม่ได้มีอาการหนักอย่างที่คาดไว้ในตอนแรก โดนในเกม ยูฟ่า เนชั่นส์ลีก นัดที่พบกับ เดนมาร์ก นั้น ดาวเตะวัย 17 ปีโดนเข้าปะทะอย่างหนัก จนตัวเขาต้องต้องเดินกระเผลก ออกจากสนาม ซึ่งแน่นอนว่ามันก็สร้างความกังวลให้กับ ต้นสังกัดอย่าง บาร์เซโลน่า (Barcelona) เป็นอย่างมาก หลังจากได้เห็นภาพเช่นนี้ 

 

โรมาโน่ ยืนยัน ว่า ยามาล ไม่ได้เจ็บหนักอย่างที่คาดกันไว้ และในเวลานี้ ทีมชาติ สเปน ก็ปล่อยเขาออกมจากแคมป์ กลับสโมสรต้นสังกัดเรียบร้อยแล้ว

 

หลังจากที่มีภาพ อาการบาดเจ็บ ของ ลามีน ยามาล (Lamine Yamal) เผยแพร่ออกมา แน่นอนว่า ทาง บาร์เซโลน่า (Barcelona) เองก็ออกอาการร้อนใจเป็นอย่างมาก แต่ทุกอย่างก็คลี่คลายลงเมื่อ ฟราบิซิโอ โรมาโน่ (Fabrizio Romano) สายข่าว ชื่อดัง ได้ออกมารายงานว่า ตัวของ ลามีน ยามาล (Lamine Yamal) นั้นรู้สึกโอเค ไม่ได้มีอาการบาดเจ็บ อะไรที่หนักหนา และน่าจะฟื้นตัวได้ในระยะเวลาอันสั้น นอกจากนี้ ยังมีรายงานออกมาว่า ทางทีมชาติ สเปน ได้ปล่อยให้ นักเตะนั้น เดินทางกลับสโมสร เพื่อไปเช็คอาการบาดเจ็บ โดยละเอียดต่อไปได้เลย แม้ว่าทางทีมชาติ สเปน จะมีคิวดวลกับ ทีมชาติ เซอร์เบีย เหลืออยู่อีก 1 นัดในช่วง ฟีฟ่า เดย์ นี้ก็ตาม โดย บาร์เซโลน่า (Barcelona) จ่าฝูง ลาลีกา ในเวลานี้ มีคิวต้องดวลกับ เซบีญ่า (Sevilla) ในสุดสัปดาห์นี้ด้วย สำหรับใครที่อยากเช็คราคาค่าน้ำต่างๆ ล่วงหน้า ก็สามารถเข้าไปดูได้เลยที่ sbobet asia อัพเดตราคา ฉับไว ค่าน้ำดีเลิศ sbobet asia ไว้ใจได้ด้วยประสบการณ์ที่มีมาอย่างยาวนั้นถือเป็นเว็บชั้นนำควรค่าแก่การลงทุนยิ่งนัก แน่นอนว่า ทาง บาร์เซโลน่า  (Barcelona) เอง ก็อยากที่จะได้ตัวของ ลามีน ยามาล (Lamine Yamal) นักเตะคนสำคัญให้ฟิตทันที่จะเจอกับ เซบีญ่า (Sevilla)  เช่นกัน เพราะตอนนี้ ทีมอันดับที่ 2 อย่าง รีล มาดริด (Real Madrid) นั้นก็เริ่มที่จะกดดันมาจ่อคอหอยอยู่แล้วในเวลา ซึ่งนี่ก็ใกล้เวลาที่จะถึง ศึก เอล กราซิโก้ แล้วเช่นกัน ดังนั้นการเร่งเครื่องฉีกคะแนนหนี อริร่วมลีก อย่าง รีล มาดริด (Real Madrid) ก็ถือเป็นเรื่องที่ต้องทำให้ได้เช่นกัน เพราะที่ผ่านมาก็มีมาให้เห็นโดยตลอดว่า รีล มาดริด (Real Madrid) นั้น จะไม่ยอมที่พลาดโอกาสที่มีง่ายๆ แน่นอน ซึ่งหลังจากแข่งกับ เซบีญ่า (Sevilla) ในสัปดาห์นี้แล้ว ก็จะมีเกมสำคัญ ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่ทาง บาร์เซโลน่า (Barcelona) จะต้องพบ กับ บาร์เยิน มิวนิค (FC Bayern München) ก่อนที่จะถึง ศึก เอล กราซิโก้ กับ รีล มาดริด (Real Madrid) ถือเป็นงานหนักติดต่อกันของ ยักษ์ใหญ่แห่ง คาตาลันเลยทีเดียว

 

หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ ชี้ ด้วยสไตล์ การเล่นของ ลามี ยามาล ก็ต้องทำใจเรื่องของการโดนปะทะหนักๆ ไว้เลย เพราะตัวนักเตะ จะต้องตกเป็นเป้าในทุกเกมแน่นอน

 

หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ (luis de la fuente) กุนซือคนเก่งของ ทีมกระทิงดุ สเปน ได้ออกมาให้ทรรศนะว่า ตัวของ ลามีน ยามาล (Lamine Yamal) จะต้องทำตัวให้ชินกับการถูกปะทะไว้เลย เพราะ ด้วยสไตล์การเล่นของเขา แน่นอนว่าเขาจะต้องตกเป็นเป้าหมายหลักของคู่แข่งแน่นอน อย่างที่เห็นกันมาโดยตลอดว่า นักเตะที่มีความคล่องตัว ทักษะที่ยอดเยี่ยม มักจะโดนคู่ต่อสู้ เล่นแรงเพื่อสะกดเขาไว้ให้ได้ ดังนั้นมันจึงถือเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว หากอยากที่จะก้าวไปสู่จุดที่สูงกว่านี้ เหมือนอย่าง เมสซี่ ที่มักจะโดนเล่นแรงๆ หนักๆ เพื่อข่มขวัญ แต่สุดท้าย ก็ไม่มีใครทำอะไรเขาได้อะไรประมาณนั้น  แน่นอนว่า ผู้ตัดสินเอง ก็ต้องมีส่วนด้วยในการปกป้องนักเตะจอมเทคนิคเหล่านี้ แต่เหนือสิ่งอื่นใด้ ตัวของ ลามีน ยามาล (Lamine Yamal)  เองต้องทำตัวเองให้คุ้นชินเข้าไว้ เพราะเคยมีเพื่อนร่วมทีมของ หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ (luis de la fuente) คนนึงเคยกล่าวไว้ว่า คุณคิดว่า คู่แข่ง เขาจะส่งจูบให้คุณหรือไง แน่นอนว่า แต่ละทีมเขาก็ต้องใช้ทุกวิธี หยุดนักเตะแบบนี้ แต่ยังคงอยู่ในกติกา เพราะฉะนั้น ต้องชินกับมันให้ได้