เอริค แรมซีย์ โค้ชของมินนิโซต้า ยูไนเต็ด มีลุ้นรับงานคุมทีมเซาแธมป์ตัน

เอริค แรมซีย์ โค้ชของมินนิโซต้า ยูไนเต็ด มีลุ้นรับงานคุมทีมเซาแธมป์ตัน

เอริค แรมซีย์ โค้ชของมินนิโซต้า ยูไนเต็ด มีลุ้นรับงานคุมทีมเซาแธมป์ตัน หลัง “นักบุญ” เตรียมวางแผนกลับสู่พรีเมียร์ลีกอย่างรวดเร็ว

 

เอริค แรมซีย์ (Eric Ramsey) เฮดโค้ชมินนิโซต้า ยูไนเต็ด (Minnesota United) กลายเป็นหนึ่งในตัวเต็งลำดับต้น ๆ ที่มีโอกาสได้รับการแต่งตั้งเป็นกุนซือคนใหม่ของเซาแธมป์ตัน (Southampton) ตามรายงานจากแหล่งข่าวของ CBS Sports โดยเซาแธมป์ตันอยู่ในขั้นตอนเริ่มต้นของการเฟ้นหาโค้ชคนใหม่เพื่อพาทีมกลับสู่พรีเมียร์ลีก หลังจากต้องพบกับฤดูกาลที่เลวร้ายในพรีเมียร์ลีก ซึ่งพวกเขาเก็บได้เพียง 11 แต้มจาก 34 นัด รั้งอันดับสุดท้ายของตาราง สโบเบ็ท

 

แรมซีย์ วัย 33 ปี เป็นหนึ่งในโค้ชที่ได้รับการยกย่องสูงในวงการฟุตบอลอังกฤษ เขาเคยทำงานเป็นโค้ชพัฒนานักเตะให้กับเชลซี ก่อนจะย้ายไปแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยทำงานร่วมกับโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ และมีบทบาทช่วยทีมชาติเวลส์ด้วย

 

แรมซีย์ย้ายมาคุมทีมมินนิโซต้า ยูไนเต็ดในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 และกลายเป็นเฮดโค้ชตัวจริงที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์เมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ (MLS) โดยในฤดูกาลเปิดตัว เขาพาทีมจบอันดับ 6 ของสายตะวันตกและผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศสาย ขณะที่ฤดูกาล 2025 ผ่านมา 9 นัด มินนิโซต้าอยู่อันดับ 3 ของสายตะวันตก

 

แรมซีย์เคยเปิดเผยว่าเขายินดีพิจารณารับงานนอกประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ หากต้องอำลา MLS ด้วยความสามารถในการใช้ภาษาสเปนและฝรั่งเศสซึ่งน่าจะช่วยเขาได้ไม่น้อย โดยในการให้สัมภาษณ์กับ BBC เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เขาได้กล่าวว่า “บางครั้งโค้ชที่ไปถึงระดับสูงสุดในอังกฤษ คือคนที่ผ่านประสบการณ์ในหลากหลายประเทศมาก่อน มันทำให้สถานะพวกเขาปลอดภัยกว่า เพราะมีตัวเลือกงานมากขึ้น รู้สึกเหมือนมีโอกาสเปิดกว้างกว่า ผมคิดถึงเรื่องนี้ตอนเลือกไป MLS” สโบเบ็ท

 

“มันเป็นประเด็นที่น่าสนใจและถกเถียงกันเยอะ ผมเชื่อจริง ๆ ว่าระดับการโค้ชในอังกฤษอยู่ในจุดที่น่าประทับใจมาก ๆ บางทีการกลับมาจาก MLS ก็มีเส้นทางต่อยอดมากกว่าการออกจากแชมเปี้ยนชิพเสียอีก”

 

อย่างไรก็ตาม เซาแธมป์ตันก็ถือเป็นโอกาสสำคัญสำหรับแรมซีย์ เพราะแม้ฤดูกาลหลังเลื่อนชั้นจะล้มเหลว แต่นักบุญก็ยังถูกยกให้เป็นหนึ่งในตัวเต็งเลื่อนชั้นจากแชมเปี้ยนชิพ อีกทั้งยังมีโอกาสสร้างทีมใหม่ หากสองดาวรุ่งที่ได้รับการจับตามองอย่างไทเลอร์ ดิบลิง และมาเตอุส เฟร์นานเดส ตัดสินใจย้ายออกจากเซนต์ แมรีส์

 

ปัจจุบัน ไซม่อน รุสก์ รักษาการตำแหน่งเฮดโค้ชของเซาแธมป์ตัน เป็นการคุมทีมครั้งที่สองของเขาในฤดูกาลนี้ โดยรุสก์รับช่วงต่อหลังจากที่รัสเซลล์ มาร์ติน ซึ่งพาทีมเลื่อนชั้น ถูกปลดในเดือนธันวาคม ขณะที่อิวาน ยูริช ที่เพิ่งแยกทางไปเมื่อต้นเดือนนี้ ทำผลงานชนะเพียง 2 นัดจาก 16 เกมที่คุมทีม

 

รัสเซล มาร์ติน

“วิกฤตการณ์ที่ เซนต์ แมรี่ส: การสิ้นสุดยุค รัสเซล มาร์ติน (Russell Martin) และอนาคตที่ไม่แน่นอนของ เซาแธมป์ตัน”

ความปั่นป่วนได้เกิดขึ้นอีกครั้งที่ เซนต์ แมรี่ส สเตเดียม เมื่อ เซาแธมป์ตัน (Southampton) ตัดสินใจปลด รัสเซล มาร์ติน (Russell Martin) พ้นจากตำแหน่งผู้จัดการทีม หลังจากพ่าย ทอตแนม ฮอตสเปอร์ (Tottenham Hotspur) อย่างยับเยิน 5-0 ในศึกพรีเมียร์ลีก (Premier League) ส่งผลให้ทีมจมอยู่ในอันดับสุดท้ายของตาราง ห่างจากโซนปลอดภัย 9 คะแนน จากความสำเร็จสู่ความล้มเหลว เมื่อย้อนกลับไปเพียงแค่ 7 เดือนก่อน มาร์ติน คือวีรบุรุษของชาว เซาแธมป์ตัน หลังพาทีมเลื่อนชั้นกลับสู่พรีเมียร์ลีก ด้วยชัยชนะเหนือ ลีดส์ ยูไนเต็ด (Leeds United) ในนัดชิงชนะเลิศเพลย์ออฟที่สนาม เวมบลีย์ (Wembley) แต่ฤดูกาล 2024/25 กลับกลายเป็นฝันร้ายสำหรับกุนซือวัย 38 ปีผู้นี้ ตลอด 16 เกมในพรีเมียร์ลีก เซาแธมป์ตัน ชนะเพียงนัดเดียวเท่านั้น เมื่อเอาชนะ เอฟเวอร์ตัน (Everton) ในเดือนพฤศจิกายน ขณะที่แพ้ไปถึง 13 นัด ที่น่าวิตกไปกว่านั้นคือประสิทธิภาพในการทำประตู โดยทีมยิงได้เพียง 11 ประตู น้อยที่สุดในลีก

 

ไซมอน รัสค์ (Simon Rusk) ผู้จัดการทีมชุดอายุไม่เกิน 21 ปี ได้รับการแต่งตั้งให้คุมทีมชั่วคราว

 

 โดยเกมแรกของเขาจะเป็นการพบกับ ลิเวอร์พูล (Liverpool) จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก ในศึก คาราบาว คัพ (Carabao Cup) รอบก่อนรองชนะเลิศ แม้ว่า เซาแธมป์ตัน จะลงทุนซื้อนักเตะใหม่ถึง 9 คนในช่วงซัมเมอร์ แต่ดูเหมือนว่าการเสริมทัพครั้งนี้จะไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร นักเตะใหม่หลายรายยังปรับตัวไม่ได้กับความเร็วและความเข้มข้นของพรีเมียร์ลีก ความผิดหวังของแฟนบอล เซาแธมป์ตัน  www sbobet แสดงออกอย่างชัดเจนในเกมกับ สเปอร์ส โดยเสียงโห่และการแสดงความไม่พอใจถูกส่งไปยังทั้ง มาร์ติน และเจ้าของสโมสร สปอร์ต รีพับลิค (Sport Republic)

 

ประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก บ่งชี้ว่าไม่เคยมีทีมใดที่มีแค่ 5 คะแนนหรือน้อยกว่าในช่วงเวลานี้ของฤดูกาลแล้วรอดพ้นจากการตกชั้น 

 

นี่คือความท้าทายอันใหญ่หลวงที่ เซาแธมป์ตัน ต้องเผชิญ ผู้เชี่ยวชาญด้านฟุตบอลหลายรายมองว่าปัญหาของ เซาแธมป์ตัน ไม่ได้อยู่ที่ผู้จัดการทีมเพียงอย่างเดียว แต่เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ทั้งในแง่ของการวางแผนระยะยาว การพัฒนาเยาวชน และการเสริมทัพ สโมสรจำเป็นต้องดำเนินการหลายอย่างเพื่อพลิกสถานการณ์:

 

1.หาผู้จัดการทีมที่มีประสบการณ์ในการกู้ทีมจากการตกชั้น

2.เสริมความแข็งแกร่งในตลาดซื้อขายเดือนมกราคม

3.ปรับปรุงระบบการเล่นให้แข็งแกร่งขึ้นโดยเฉพาะในแนวรับ

4.สร้างความมั่นใจให้กับนักเตะในทีม

การปลด รัสเซล มาร์ติน อาจเป็นการตัดสินใจที่จำเป็น แต่ เซาแธมป์ตัน www sbobet ยังมีงานหนักรออยู่ข้างหน้า การรักษาสถานะในพรีเมียร์ลีก จะเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนของสโมสร ตั้งแต่ระดับบอร์ดบริหารไปจนถึงแฟนบอล  คำกล่าวสุดท้ายของ มาร์ติน  “นี่เป็นงานที่อันตรายมาก” มาร์ติน กล่าวหลังเกมสุดท้ายของเขา “ผมไม่สามารถนั่งอยู่ที่นี่หลังแพ้ 5-0 อยู่อันดับสุดท้ายของตาราง แล้วแสร้งทำเป็นว่ามั่นใจในตำแหน่งงานของตัวเอง ผมไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทำงานและต่อสู้ต่อไป นั่นคือสิ่งที่ผมทำมาตลอดในงานนี้ และผมจะทำต่อไปจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง”