แม้ว่าการเข้ามาของ ฟานเดอ บีค จะทำให้แฟนแมนยูได้ชื่นใจบ้าง อีกหนึ่งดีลที่หลายคนอาจจะมองว่า แพนิคบาย ซื้อแบบตื่นตูม แต่ไม่ว่ายังไงดีลมันก็เกิดขึ้นแล้ว แฟนบอลก็คงต้องให้กำลังใจกันต่อไป ก็คือ เอดินสัน คาวานี่ การเข้ามาของเค้ามีการทำนายไว้ว่า จะเป็นไปในรูปแบบไหน โดยมีต้นแบบอยู่สองคน ดังนี้
ราดาเมล ฟัลเกา
เจ้าของดาวยิง ฉายา เอลติเกร มาร่วมทีมแบบยืมตัว ในอายุ 28 ปี อายุยังไม่เยอะมากแต่ความเสี่ยงก็คือเรื่องอาการบาดเจ็บร้ายแรงระดับพักครึ่งปีที่เจ้าตัวเพิ่งหายมา นั่นทำให้เราคิดว่าจะไหวไหม สุดท้ายก็ไม่ไหวจริง ยิ่งมาเจอการบีบบอลเร็ว เล่นหนักสไตล์พรีเมียร์ลีคเข้าไปทุกอย่างจบเลย ทำผลงานไปเพียงแค่ 4 ประตูจากการลงสนาม 29 นัด จนต้องออกจากทีมไปอยู่กับเชลซี(ล้มเหลว) แล้วกลับไปโมนาโก กลับมาเล่นดีอีกครั้ง ก็หวังว่า คาวานี่ คงจะไม่จบลงแบบเคสนี้ ส่วนหนึ่งที่ว่าไม่เป็นเพราะว่า คาวานี่ ไม่ได้มีอาการบาดเจ็บรบกวนเท่าไรนัก ร่างกายยังดีอยู่ แต่จะมาเจ็บเพิ่มเติมที่พรีเมียร์ลีคหรือไม่อันนี้ก็ไม่รู้
ซลาตัน อิบราฮิโมวิช
อีกหนึ่งดาวเตะอายุมากแล้วย้ายมาประสบความสำเร็จ สร้างอิมแพ็คให้กับทีมอย่างมาก จนหลายคนอยากให้ คาวานี่ ทำได้แบบเค้า หรืออย่างน้อย สักครึ่งหนึ่งก็ยังดี เล่าย้อนกลับไป อิบรา มาเล่นให้ แมนยู ในวัย 35 ปี ที่หลายคนคิดตรงกันว่า แม้จะเป็นพระเจ้ากับลีคอื่น แต่มาเล่นพรีเมียร์ลีคไม่น่าไหว สุดท้าย พระเจ้าก็แสดงให้เห็นว่าเค้าคือพระเจ้าอย่างแท้จริง เล่นซีซั่นแรกทำไป 28 ประตู ก่อนจะบาดเจ็บพอหายกลับมา(ก่อนกำหนด) เล่นไปเพียงแค่ 7 เกมเท่านั้น ยิงได้ 1 ประตู ความน่าเสียดายเกิดขึ้นที่แมนยูขอยกเลิกสัญญาไปเพราะว่า อิบรา ไม่น่าจะไหวแล้ว สุดท้ายพระเจ้าก็แสดงให้เห็นว่า เค้าไปเล่นที่ไหนก็ยังไหวอยู่จนถึงตอนนี้ น่าเสียดายอย่างยิ่ง หวังว่าคาวานี่ จะสามารถกลายเป็นนักเตะที่มีทั้งความเก๋า ประสบการณ์ ความแข็งแกร่ง และเป็นผู้นำในห้องแต่งตัวที่แข็งแกร่งจนเป็นพี่ใหญ่ของน้องๆได้เหมือนกับ อิบรา