นิว มาราโดน่า ใครเคยได้รับชื่อนี้กันบ้าง

หากใครเคยได้เล่นเกมคุมทีมข้างสนามชื่อดังอย่าง CM หรือ FM คำที่ต้องหาให้เจอเวลาจะซื้อนักเตะโนเนมสักคนที่เป็นดาวรุ่งก็คือคำว่า นิว…. แล้วตามด้วยคนนั้นคนนี้มากมาย ในชีวิตจริงสื่อเองก็มีการตั้งฉายาว่านิวคนนั้นคนนี้ด้วยเหมือนกัน มาราโดน่า เองก็ถูกเอาชื่อไปตั้งเป็นนิว..ให้กับนักเตะหลายคน บางคนก็ดี แต่บางคนก็ไม่ วันนี้เราขอคัดมาสัก 3 ชื่อที่คนดูบอลรุ่นใหม่ รุ่นเก่า พอจะคุ้นหูอยู่บ้าง

ฮวน โรมัน ริเกลเม่

คนแรกเชื่อว่าแฟนบอลยุค 90 น่าจะคุ้นหูกันอย่างดี เพลย์เมกเกอร์ที่มีความคล่องตัว ฉลาด และ เจ้าเล่ห์แสนกลพร้อมจะปั่นหัวฝ่ายตรงข้ามด้วยฟุตบอลจนเล่นไม่ออกกันมาแล้ว ริเกลเม่ มีช่วงเวลาที่เหมือนกับมาราโดน่า ตรงที่ทั้งคู่เคยมาเล่นสีเสื้อบาร์เซโลน่าด้วยเหมือนกัน แต่ว่าความสำเร็จแตกต่างกัน ริเกลเม่ กลับไม่ประสบความสำเร็จเท่าไร จนต้องย้ายออกไปเล่นให้กับ บียาร์เรอัล แล้วก็ประสบความสำเร็จที่นั่นมากกว่า ก่อนจะย้ายไปดังในบ้านเกิดกับ โบค่า จูเนียร์อีกรอบหนึ่ง จนทำให้เค้าได้รับโอกาสสร้างเป็นรูปปั้นหน้าสนามเป็นเกียรติเคียงคู่กับ มาราโดน่าอีกด้วย

คาร์ลอส เตเบซ

จริงๆมีอีกหลายคนมาก แต่เราขอคัดชื่อคนที่ใกล้เคียงมาหน่อยจะได้คุ้นหูกัน คาร์ลอส เตเบซ มีความเหมือนในเรื่องของรูปร่าง  ความคล่องตัว และการเล่นด้วยหัวจิตหัวใจที่ห้าวหาญไม่ยอมแพ้แบบนักเตะอาร์เจนติน่าอย่างแท้จริง การเล่นของเค้ามีทั้งเทคนิค และ แท็คติคในคนเดียวกัน แต่ความสำเร็จในเส้นทางอาชีพ เตเบซ เองก็ประสบความสำเร็จด้วยเหมือนกัน แต่อาจจะไม่เท่า มาราโดน่า สักเท่าไร

ลิโอเนล เมสซี่

หากจะถามว่าใครที่ได้รับความนิว มาราโดน่า แล้วใกล้เคียงที่สุด ก็คงต้องเป็นลิโอเนล เมสซี่เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างเตี้ย แข็งแรง คล่องตัว เลี้ยงบอลจนเหมือนติดกับเท้าตัวเอง ประสบความสำเร็จในเกมสโมสรตลอด 15 ปี แม้แต่ มาราโดน่า เองก็เคยบอกว่า เมสซี่ ก้าวข้ามเค้าไปแล้วด้วยซ้ำไป เหลือเพียงอย่างเดียวที่ เมสซี่ จะทำได้เพื่อทาบ มาราโดน่า นั่นก็คือ การคว้าแชมป์โลกหรืออย่างน้อย แชมป์ระดับทวีปให้กับทีมชาติให้ได้สักครั้งหนึ่ง

เอดินสัน คาวานี่ จะไปออกที่แบบไหน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

แม้ว่าการเข้ามาของ ฟานเดอ บีค จะทำให้แฟนแมนยูได้ชื่นใจบ้าง อีกหนึ่งดีลที่หลายคนอาจจะมองว่า แพนิคบาย ซื้อแบบตื่นตูม แต่ไม่ว่ายังไงดีลมันก็เกิดขึ้นแล้ว แฟนบอลก็คงต้องให้กำลังใจกันต่อไป ก็คือ เอดินสัน คาวานี่ การเข้ามาของเค้ามีการทำนายไว้ว่า จะเป็นไปในรูปแบบไหน โดยมีต้นแบบอยู่สองคน ดังนี้

ราดาเมล ฟัลเกา

เจ้าของดาวยิง ฉายา เอลติเกร มาร่วมทีมแบบยืมตัว ในอายุ 28 ปี อายุยังไม่เยอะมากแต่ความเสี่ยงก็คือเรื่องอาการบาดเจ็บร้ายแรงระดับพักครึ่งปีที่เจ้าตัวเพิ่งหายมา นั่นทำให้เราคิดว่าจะไหวไหม สุดท้ายก็ไม่ไหวจริง ยิ่งมาเจอการบีบบอลเร็ว เล่นหนักสไตล์พรีเมียร์ลีคเข้าไปทุกอย่างจบเลย ทำผลงานไปเพียงแค่ 4 ประตูจากการลงสนาม 29 นัด จนต้องออกจากทีมไปอยู่กับเชลซี(ล้มเหลว) แล้วกลับไปโมนาโก กลับมาเล่นดีอีกครั้ง ก็หวังว่า คาวานี่ คงจะไม่จบลงแบบเคสนี้ ส่วนหนึ่งที่ว่าไม่เป็นเพราะว่า คาวานี่ ไม่ได้มีอาการบาดเจ็บรบกวนเท่าไรนัก ร่างกายยังดีอยู่ แต่จะมาเจ็บเพิ่มเติมที่พรีเมียร์ลีคหรือไม่อันนี้ก็ไม่รู้

ซลาตัน อิบราฮิโมวิช

อีกหนึ่งดาวเตะอายุมากแล้วย้ายมาประสบความสำเร็จ สร้างอิมแพ็คให้กับทีมอย่างมาก จนหลายคนอยากให้ คาวานี่ ทำได้แบบเค้า หรืออย่างน้อย สักครึ่งหนึ่งก็ยังดี เล่าย้อนกลับไป อิบรา มาเล่นให้ แมนยู ในวัย 35 ปี ที่หลายคนคิดตรงกันว่า แม้จะเป็นพระเจ้ากับลีคอื่น แต่มาเล่นพรีเมียร์ลีคไม่น่าไหว สุดท้าย พระเจ้าก็แสดงให้เห็นว่าเค้าคือพระเจ้าอย่างแท้จริง เล่นซีซั่นแรกทำไป 28 ประตู ก่อนจะบาดเจ็บพอหายกลับมา(ก่อนกำหนด) เล่นไปเพียงแค่ 7 เกมเท่านั้น ยิงได้ 1 ประตู ความน่าเสียดายเกิดขึ้นที่แมนยูขอยกเลิกสัญญาไปเพราะว่า อิบรา ไม่น่าจะไหวแล้ว สุดท้ายพระเจ้าก็แสดงให้เห็นว่า เค้าไปเล่นที่ไหนก็ยังไหวอยู่จนถึงตอนนี้ น่าเสียดายอย่างยิ่ง หวังว่าคาวานี่ จะสามารถกลายเป็นนักเตะที่มีทั้งความเก๋า ประสบการณ์ ความแข็งแกร่ง และเป็นผู้นำในห้องแต่งตัวที่แข็งแกร่งจนเป็นพี่ใหญ่ของน้องๆได้เหมือนกับ อิบรา

เก็บตกประเด็น สิงห์เขี่ย รีล มาดริด เข้าชิง

 

ถือว่าสมเหตุสมผลด้วยประการทั้งปวง สำหรับ เชลซี ที่พวกเค้าสามารถเขี่ย รีล มาดริด ตกรอบไปด้วยสกอร์รวม 3-1 เกมนี้ยอมรับตามตรงว่า สิงห์บลู เชลซี เหนือกว่าด้วยประการทั้งปวง รีล มาดริด ของซีดานอาจจะต้องกลับไปเตรียมตัวมาใหม่ในซีซั่นหน้า ก่อนจะไปว่ากันเรื่องรอบชิง เรามาเก็บตกประเด็นนี่กัน

แวร์เนอร์ มีดีกว่าที่คิด

ติโม แวร์เนอร์ ถือว่าเป็นนักเตะที่น่าเห็นใจมาก เพราะว่าตลอดซีซั่นนี้ เค้าโดนถากถาง วิจารณ์ ฟอร์มการเล่นแทบจะทั้งซีซั่นเลย ส่วนหนึ่งเพราะว่าฟอร์มของเค้าก่อนหน้านี้ตอนอยู่กับ แอร์เบ ไลป์ซิก ยิงกระจาย เป็นตัวหลักของทีมเลย พอมาตรงนี้หลายคนก็หวังจะให้ทำแบบนั้นอีก แต่สุดท้ายแม้ว่าเค้าจะไม่ได้ยิงกระจายเหมือนตอนเล่นให้กับ ไลป์ซิก เค้าก็ทำประโยชน์ให้กับทีมได้เหมือนกัน เกมนี้เองก็เช่นกัน เค้าทำได้หนึ่งประตู พร้อมกับป่วนกองหลังรีล มาดริด ต้องวิ่งตามจนขาลากทีเดียว

กองเต้ อีกแล้ว

เกมนี้หลังจบเกม เราได้เห็นภาพที่คุ้นเคยอีกครั้ง ก็คือการได้ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเกมนี้ของ เอ็นโกโล่ กองเต้ ผู้ที่ได้รับฉายาว่า ทุกพื้นที่มีแต่กองเต้ เกมนี้เค้าก็แสดงให้เห็นแบบนั้นอีกครั้ง การวิ่งปิดพื้นที่ทุกครั้งของการบุก รีล มาดริด เป็นคำตอบที่แทนทุกอย่างแล้ว แผงกองกลางของรีล มาดริด ที่บุกไม่ขึ้นก็ได้กองเต้นี่แหละ สกัด ปั่นป่วน และทำลายจังหวะ จนแทบต่อเกมกันไม่ติด เบนเซม่า กองหน้าของรีล มาดริด ได้แต่ล้วงบอลต่ำ ถ้าทำแบบนั้นก็เสร็จ ซิลวาที่รอดักอยู่

โอกาสเยอะ แต่ทิ้งขว้างไป

สิ่งหนึ่งที่ ผู้เล่น เชลซี อาจจะต้องกลับไปทำการบ้านมาให้ดีกว่านี้ก็คือ โอกาสการเข้าทำประตูของเชลซี ที่สถิติหลังเกมบอกว่า พวกเค้ายิงมากถึง 15 ครั้ง แต่เข้ากรอบเพียงแค่ 5 ครั้ง เท่านั้นเอง ถือว่าน้อยเกินไป รวมถึงโอกาสจังๆอีกหลายครั้งที่บอกตามตรงว่ามันต้องดีกว่านี้คมกว่านี้ หากหวังจะซิวแชมป์ UCL ให้ได้ เกมนัดชิงกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้มันคงสนุกน่าดู

อะไรทำให้แฟนผี เลือกประท้วงวันนี้

อะไรทำให้แฟนผี เลือกประท้วงวันนี้

ถือว่าเป็นข่าวฮือฮามากพอสมควรทีเดียว จากสถานการณ์การประท้วงต่อเจ้าของทีมอย่าง ตระกูลเกลเซอร์ ของแฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่พวกเค้าเลือกกระทำการที่ต้องใช้คำว่า อุกอาจ และเหนือความคาดหมายมากทีเดียว กับการเข้าไปถึงสนามแข่งในวันแข่งขันที่มีคนรอคอยมากที่สุดในโลกอย่าง เกมแดงเดือด อะไรทำให้แฟนผีเลือกที่จะประท้วงในวันนี้

เป็นข่าวมากที่สุด

คำว่า แย่งชิงพื้นที่สื่อ น่าจะเป็นสิ่งที่กลุ่มแฟนบอลกลุ่มนี้ต้องการ พวกเค้าต้องการให้วิธีประท้วงของพวกเค้ากลายเป็นข่าวพาดหัวไปทั่วโลกในฝั่งข่าวกีฬา ที่ต้องการแบบนี้ก็เพื่อจะกระจายข้อความที่พวกเค้าต้องการจะสื่อออกไปให้ไกลและดังที่สุดว่า พวกเค้าต้องการให้ตระกูลเกลเซอร์ ขายทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกไป บวกกับเป็นการสร้างภาพลักษณ์ให้เกิดการบังคับขายไปยังตระกูลเกลเซอร์ด้วย แฟนบอลคงหวังให้ภาพดังกล่าวกระทบต่อภาพลักษณ์และราคาหุ้นของสโมสรที่จะตกลงจนทำให้ตระกูลเกลเซอร์ต้องเลือกขายทีม

เหนือความคาดหมายมากที่สุด

สองเลือกที่จะลงมือกระทำในวันนี้ เราเชื่อว่าการประท้วงแบบนี้ในเกมวันแดงเดือด คงเป็นอะไรที่เหนือความคาดหมายมากที่สุดเช่นกัน เนื่องจากเกมแดงเดือดนัดนี้เป็นเกมที่คนรอคอยดูมากที่สุดแล้ว บวกกับเกมแดงเดือดนัดนี้น่าจะเป็นโอกาสดีในหลายเกมที่แมนยูจะบุกยัดความปราชัยให้กับลิเวอร์พูลได้ จนทำให้ซีซั่นนี้พวกเค้าทำให้ลิเวอร์พูลไม่สามารถชนะพวกเค้าได้เลยในการเจอกันสามครั้ง (ลีคสอง เอฟเอคัพหนึ่ง) การลงมือไม่ให้เกมนี้มันเกิดจึงเหนือความคาดหมายของฝ่ายรักษาความปลอดภัยมาก

สร้างความเสียหายมากที่สุด

การประท้วงในครั้งนี้ ต้องยอมรับว่ามันสร้างความเสียหายมากที่สุด แบบที่ประเมินตัวเลขแล้วยังต้องตกใจเลย เอาแค่เรื่องเลื่อนแข่ง ก็แทบจะหาวันลงแข่งใหม่ไม่ได้แล้ว นี่ยังไม่นับเรื่อค่าเสียหายจากลิขสิทธิ์ถ่ายทอดที่ไม่ได้ถ่ายอีก นี่เรายังไม่ได้พูดถึงการโดนตัดแต้มจากฝ่ายจัดการแข่งขัน ซึ่งอาจจะทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จากที่จะจบซีซั่นด้วยตำแหน่งรองแชมป์ อยู่ดีๆ อาจจะร่วงยาวไปอันดับสี่หรือห้าได้เลย ถือว่าเป็นการสร้างความเสียหายที่รุนแรงมากจริงๆ

คาดเดา แท็คติค เกมกับไลป์ซิก

คาดเดา แท็คติค เกมกับไลป์ซิก

ถือว่าเป็นอีกเกมหนึ่งที่ความสำคัญมากในช่วงนี้ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพราะว่าเป็นเกมชี้ชะตาที่อยู่ในมือตัวเองเท่านั้นจะอยู่หรือไปในเส้นทางบนถ้วยใบนี้ต่อไปเท่านั้น เรื่องของแท็คติคเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะว่ามันเป็นตัวบอกว่า โซลชาร์ จะทำได้ดีแค่ไหน มาคาดเดาว่า เค้าจะมาไม้ไหน

3-5-2 ต้องมาเท่านั้น

เกมที่มีความสำคัญระดับนี้ เรื่องเกมรับต้องมาก่อนเป็นอันดับแรก เชื่อว่าแท็คติคที่จะหยิบขึ้นมาใช้ต้องเน้นกองหลังไว้ก่อน เจาะจงลงไป ฟอร์เมชั่น 3-5-2 ต้องมาแล้ว เพราะว่าฟอร์เมชั่นตัวนี้ใช้ได้ผลดีในเกมแรกที่เจอกัน แต่คำถามก็คือว่าฟอร์เมชั่นเน้นเกมรับอย่างนี้ ไลป์ซิก จะตกใจแบบเดิมหรือไม่ ถ้าไม่ตกใจบอกเลยว่า พวกเค้าก็คงเตรียมตัวแก้เกมมาดีเหมือนกัน

หนูแม็ค + ตวนเซเบ้ มดงานผู้แข็งแกร่ง

กลางรุก เราเชื่อว่าบรูโน่ คงลงมาเป็นตัวหลักผสานกับ ป็อกบา หรือ ฟานเดอบีค คนใดคนหนึ่ง แต่ว่าในส่วนของเกมรับ แท็คติคเอากองกลางพลังไดนาโมมาสักคนเพื่อวิ่งพล่านทำลายเกมรุกของฝ่ายตรงข้าม เรามองว่าสูตรนี้น่าจะเป็น สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ไว้ก่อน หนุ่มคนนี้เต็มไปด้วยพลังงานล้นปรี่น่าจะดีพอตัดเกม เกะกะ ก่อกวน ทำให้ฝ่ายตรงข้ามเล่นยาก

เกมสวนกลับ ทางเลือกที่ 2

สวนกลับเป็นอาวุธเดียวที่เรามองเห็นในตอนนี้ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สูตรแรกคงต้องเป็น บรูโน่ คอยทิ้งบอลยาวแบบคิลเลอร์พาสให้กับ แรชฟอร์ด วิ่งควบไปเล่น แต่อีกสูตรหนึ่งน่าจะมีเกมสวนกลับทางเลือกที่สองด้วย ตรงนี้น่าจะเป็นแท็คติคของป็อกบา ที่จะเป็นการวางบอลยาวอีกรูปแบบหนึ่งที่จะทำให้กองกลางของ ปารีส ไม่รู้จะเลือกประกบใครดี

ข้ามกองกลาง

เรามองว่าเกมนี้ ทางฝั่ง ปารีส เองก็คงเตรียมหาทางปิดเกมรุกของแมนยู โดยปิดไปที่จุดกำเนิดของทั้งหมดอย่าง บรูโน่ ไว้ก่อน ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว แท็คติคเสริมตรงนี้น่าจะเป็นการปล่อยบทบาทให้ ป็อกบา มาทำเกมแดนกลางแบบวางบอลยาวข้ามกองกลางไปเลย ก็ต้องดูว่าแท็คติคเหล่านี้จะทำได้ดีแค่ไหนในสนามจริง

ประเด็นน่าสนใจ ก่อนเข้าทางตรงสุดท้าย

ประเด็นน่าสนใจ ก่อนเข้าทางตรงสุดท้าย

ช่วงนี้ถือว่าแฟนบอลสโมสรยุโรปอาจจะได้พักสักหน่อยเนื่องจากว่าเป็นโปรแกรมทีมชาติมาคั่นกลาง ก็เลยทำให้พอได้พักผ่อนกันบ้าง แต่พอกลับมารอบนี้ดูเหมือนจะเตะกันรวดเดียวแบบรีบจบกันเลยเพื่อให้ ทีมชาติได้เตรียมตัวเข้าสู่ศึกยูโรกลางปีนี้ด้วย เรามาดูกันว่าฝั่งพรีเมียร์ลีคมีประเด็นอะไรน่าสนใจในช่วง 10 เกมสุดท้ายกันบ้าง

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะแชมป์เมื่อไร

เป็นไปตามคาดอย่างที่หลายคนคิดไว้ เมื่อแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ขึ้นนำแล้ว เป็นการนำแบบ “ม้วนเดียวจบ” พวกเค้ารักษาคุณภาพ มาตรฐานไว้ได้แบบไม่มีตกเลย นั่นทำให้มีแต่คำถามว่าเป็นแชมป์เมื่อไรเท่านั้นเอง หากนับตามโปรแกรม พวกเค้าเล่นอีก 5 เกมถ้าชนะหมดก็ได้แชมป์ไปเลย แต่ทีนี้น่าสนใจตรงว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้จะได้แชมป์ก่อนหน้านั้นหรือไม่ หรือ จะยืดไปกว่านั้นจากฝีมือของ เชลซี และ เลสเตอร์ที่จะยืดไปได้อีกหน่อย

ใครจะตกชั้น

ตัดภาพไปที่โซนตกชั้นกันบ้าง มาถึงตรงนี้ มีคนถูกเตะลงไปแล้วอย่างน้อย สองทีมคือ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด และ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ความน่าสนใจอยู่ที่ตั๋วใบสุดท้ายที่ไม่มีใครอยากได้นี่แหละ ฟูแล่ม, นิวคาสเซิ่ล, ไบร์ทตัน และเบิร์นลี่ย์ หนึ่งในสี่ทีมนี้จะเป็นผู้โชคร้าย ว่าแต่ใครกัน ส่วนตัวนิวคาสเซิ่ล มีสิทธิ์สูงที่สุด

โควตา UCL

ตัดภาพมาที่ด้านบนของตาราง สิ่งที่จะทำให้เราได้ลุ้นกันสนุกเลยก็คือ ใครจะได้ไป UCL ในซีซั่นหน้า จากอีก 3 ใบที่เหลือ แต่มีผู้แย่งชิงกันอย่างน้อย 7 ทีม ทีเดียว น่าสนใจตรงที่ว่า จะมีคนสมหวัง 3 คน และมีคนผิดหวัง 4 คน ใครจะเป็นฝ่ายสมหวังและผิดหวัง ต้องมาคอยดูกันต่อไป แม้ว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด , เลสเตอร์ , เชลซี จะได้เปรียบอยู่พอสมควร แต่อย่าประมาท เวสต์แฮม , สเปอร์ส และ ลิเวอร์พูล พวกเค้าพร้อมจะกลับมาแย่งโควตานี้ได้เสมอ หากใครเล่นผิดพลาดสัก 1-3 เกม อาจจะโดนปาดจนน้ำตาตกในได้เหมือนกัน

อะไรจะเกิดขึ้น หาก มาดริด ร่วง UCL

อะไรจะเกิดขึ้น หาก มาดริด ร่วง UCL

ต้องบอกว่า ตลอดเส้นทางบนเส้นทางฟุตบอลยุโรป UCL รีล มาดริด ไม่เคยตกรอบแบ่งกลุ่มเลยสักครั้ง แล้วนี่คงเป็นอีกหนึ่งซีซั่นที่พวกเค้าอยู่ปากเหวแบบเจียนอยู่เจียนไป ยังดีที่พวกเค้าไม่ได้ตกรอบ เอาตัวรอดมาได้ 2-0 อย่างไรก็ตามเรามาลองสมุมติฐานกันว่า หากมันไม่เป็นแบบนั้นมันจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป หากมาดริด ร่วง UCL

ปลด ซีดาน

แม้ว่าการกลับมาทำทีมคราวนี้จะไม่ดีเหมือนเก่า แต่แชมป์ลีคซีซั่นก่อนก็พอจะทำให้ชื่อของ ซีดาน กลับมาผงานได้อีกครั้งหนึ่ง แต่ต้องยอมรับว่าฟุตบอลอยู่กับปัจจุบัน ซีซั่นนี้ไม่รู้ว่าเพราะโควิท 19 หรือ เปล่ามันทำให้ ซีดาน ทำทีมออกสตาร์ทได้แย่มากที่สุดครั้งหนึ่ง แน่นอนว่าหากพวกเค้าตกรอบ UCL คงไม่มีเหตุผลอะไรต้องเอาซีดานไว้ คงต้องปลดออกไปเพื่อหาคนใหม่มาแทนที่ต่อไป

ล้างไพ่นักเตะใหม่

ฝั่งนักเตะเองก็ต้องรับผิดชอบด้วยเหมือนกัน ฟอร์มทีมตกต่ำอย่างนี้ นักเตะหลายคนก็มีส่วนร่วมจากฟอร์มที่ไม่เอาอ่าวของพวกเค้าด้วย หากตกรอบจริง เราเชื่อว่าแม้จะมีปัญหาทางด้านการเงิน แต่รีล มาดริด คงต้องโละ ล้าง ไพ่นักเตะใหม่กันหลายคนเลย แล้วหาคนใหม่มาเสริม แม้ว่าจะต้องใช้เงินเยอะหน่อย แต่ก็ยังดีกว่าปล่อยทีมไปแบบนี้

ในลีคต้องได้ เท่านั้น

การทำทีมของรีล มาดริด เป้าหมายของพวกเค้ามีสองอย่างหนึ่งคือ แชมป์ลีค และ สอง แชมป์ UCL หากพวกเค้าพลาดหวังในอย่างที่สองไปแล้ว ดังนั้นเป้าหมายเดียวที่พวกเค้าต้องทำให้ได้ก็คือ แชมป์ลีคเท่านั้น ซึ่งมองไปก็คงต้องทำให้ได้ เพราะไม่งั้น มันคงจะเป็นซีซั่นที่ล้มเหลวที่สุดในประวัติศาสตร์ ของ รีล มาดริดเอง ซึ่งพวกเค้าคงไม่อยากมีชื่อ หรือ มีส่วนร่วมในประวัติศาสตร์ อัปยศ ครั้งนี้แน่นอน

แชมป์ ยูโรป้า ลีค

แม้ว่าการลงไปเล่นถ้วยยูโรป้า ลีคเป็นสิ่งที่พวกเค้าไม่พึงประสงค์เท่าไร แต่ถ้าหากต้องลงไปเล่นจริงๆ เป้าหมายเดียวก็คือ แชมป์เท่านั้น แม้ว่าจะยากแค่ไหนก็ตามที

สรุปผลการแข่งขัน UCL นัดที่ 2 คู่ที่น่าสนใจ

สรุปผลการแข่งขัน UCL นัดที่ 2 คู่ที่น่าสนใจ

ผ่านไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ เกมรอบแบ่งกลุ่ม UCL นัดที่สอง ต้องบอกว่าหลังจบเกมนัดนี้ พอจะเห็นภาพบางอย่างของแต่ละกลุ่มได้เหมือนกัน ภาพที่ว่าก็คือการแบ่งกลุ่มของทีมว่าใครอยู่ตรงไหน ก่อนจะมาเตะนัดครึ่งทางในสัปดาห์หน้า ก่อนจะลากันไปเรามาดูกันว่ามีผลการแข่งขันคู่ไหนที่น่าสนใจกันบ้าง

ผลการแข่งขันที่ไม่น่าเชื่อ

สำหรับกลุ่มแรกเป็นผลการแข่งขันที่ไม่น่าเชื่อว่าจะออกมาแบบนี้ เรียกว่า หักปากกาเซียน หรือ รถผ้าป่าคว่ำก็เป็นได้ ไม่ว่าจะเป็น บาเยิร์น มิวนิคที่ชนะ โลโคโมทีฟ มอสโคว์ ไปแบบหืดจับปาดเหงื่อ แอต.

มาดริดที่เกือบเอาตัวไม่รอดกับ เรดบูลส์ ซัวร์บวร์ก ชนะไป 3-2 , รีล มาดริด ที่เสมอกับ โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบลัคไป 2-2 , ชัคตาร์ โดเนตส์ ที่เสมอกับ อินเตอร์ มิลานไป 0-0 คลับ บรูซ เสมอกับ ลาซิโอ 1-1 , แมนยู ชนะ ไลป์ซิก 5-0 , เฟเรนซ์เวรอส เสมอกับ เคียฟ ไป 2-2 ซะอย่างนั้น กลุ่มนี้ถือว่าผลการแข่งขันไม่เป็นใจ ทำให้ตารางคะแนนยังไม่หนีห่างกันมากนัก

กลุ่มที่ผลการแข่งขันไม่แปลกใจ

อีกกลุ่มหนึ่งถือว่าเป็นการเล่นที่ทำได้ตามเป้าของทีมตัวเอง เพราะดูจากชื่อตามหน้ากระดาษถือว่าต่างกันตามสกอร์ที่ออกมานั่นแหละ อย่างเช่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ มาร์กเซย์ไป 0-3 ,ปอร์โต้ ชนะโอลิมเปียกอส 2-0, อตาลันตาเสมออาแจ็กซ์ 2-2 , คราสโนดาห์ แพ้ เชลซีไป 0-4 , PSG เอาชนะ อิสตันบูลไป 2-0 , ดอร์ทมุนด์ชนะเซนิต 2-0 หรือ เซบีญ่า ชนะแรนส์ไป 1-0 ยูเวนตุสแพ้ บาร์ซา 0-2 เหล่านี้เป็นต้น

จากผลการแข่งขันนัดที่สองนี้ถือว่าส่งผลกระทบต่อการแย่งตำแหน่งในกลุ่มของตัวเองพอสมควร เกมมีทั้งหมด 6 นัด ผ่านนัดนี้ไปก็เท่ากับว่าเดินทางไป หนึ่งในสามของเกมแล้ว เท่ากับว่าพอจะเห็นอะไรบ้างในกลุ่มบางกลุ่ม แต่บางกลุ่มก็ยังไม่เห็นภาพชัดเจนเท่าไรเนื่องจากคะแนนใกล้เคียงกันมาก ก็คงต้องดูกันในเกมต่อไป ภาพน่าจะชัดเจนมากขึ้นตามลำดับ

สิ่งที่รามอส ให้ได้กับทุกทีม

สิ่งที่รามอส ให้ได้กับทุกทีม

ถือว่าเป็นข่าวที่สร้างความฮือฮาไม่น้อยสำหรับ รามอส กัปตันทีมของรีล มาดริด ที่อาจจะต้องแยกทางกับที่หลังจบซีซั่นนี้ หลังจากทั้งคู่หาจุดลงตัวเรื่องสัญญาไม่ลงตัว (คาดกันว่าน่าจะมาจากเรื่องของค่าเหนื่อยที่ รีล มาดริด จ่ายไม่ได้ในเรตที่ รามอสต้องการ) แต่ในเมื่อเจ้าตัวเลือกไปแล้วเราก็คงจะไปขัดขวางอะไรไม่ได้ ทีนี้มาดูกันว่า รามอสจะไปไหนดีกว่า แม้จะยังไม่รู้ว่าสุดท้ายปลายทางไปไหน แต่สิ่งที่เรารู้ได้อย่างหนึ่งก็คือ รามอส จะให้สิ่งเหล่านี้ได้กับกองหลังทีมใหม่

ตัวชน แบบไม่มีถอย

บทบาทของรามอส ในการเล่นแผงกองหลังก็คือ การเล่นแบบตัวชน ตัวแทงค์ กับกองหน้าฝ่ายตรงข้าม ซึ่งการชน ชองเค้าเป็นการชนทั้งได้ทั้งแรงปะทะ และ จังหวะการปะทะที่ได้เปรียบ รวมถึงใจสู้แบบไม่มีถอย ลองนึกภาพว่า เค้าเป็นกองหลังที่พร้อมจะชนก่อนให้เพื่อนมาเก็บตก เพียงแค่นี้เพื่อนก็อุ่นใจแล้ว มีคนเปิดก่อน แล้วค่อยตาม มันน่าฮึกเหิม

ภาวะผู้นำ

บทบาทกองหลังของรามอส หากใครได้ไปบอกเลยว่า เค้านี่แหละจะเป็นผู้นำในเกมรับของแผงกองหลังอย่างแท้จริง ประสบการณ์ ความเก๋า การอ่านเกมของเค้าช่วยได้เยอะเลย ให้นึกภาพของ กองหลังเชลซีเวลานี้ที่ ซิลวา ลงทีไร เล่นด้วยยากตลอด เพราะเค้าอ่านและนำเพื่อนในแผงกองหลังให้เอาชนะ เกมรุกฝ่ายตรงข้ามได้ทั้งเกม ถ้าพี่มอสมาทำบ้างมันคงจะดีไม่น้อย ตรงนี้เรารวมถึงสปิริตในห้องแต่งตัวด้วย ภาวะผู้นำของเค้าจะช่วยยกระดับทีมให้สูงขึ้น อย่างแน่นอน พี่เค้าไม่กลัวใครอ่ะบอกเลย

ตัวว๊าก ตัวดุ ตัวกระตุ้น

การเล่นกองหลังหากคุณเหม่อเพียงแค่ชั่วเสี้ยววินาที ทุกอย่างก็จะจบเลยแบบไม่ต้องถาม ดังนั้นการเล่นกองหลังมันต้องมีพี่ใหญ่สักคน คอยว๊าก กระตุ้น ดุ ให้ตื่นตัวในสนาม ตรงนี้ รามอส จัดให้ได้เลย ใครมาเล่นเหยาะแหยะ บอกเลยว่า ไม่ต้องถึงมือผู้จัดการทีมหรอก พี่มอสนี่แหละ จัดให้ก่อนเลย คาแรกเตอร์แบบนี้ ผู้จัดการทีมหลายคนอยากได้เหลือเกิน ว่าแต่ใครจะเอาต้องมาลุ้นกัน

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป้าหมายที่ต้องเอาคืน

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป้าหมายที่ต้องเอาคืน

แม้จะได้ถ้วยแชมป์ลีค แต่ต้องยอมรับว่าผลงานโดยรวมของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพียงแค่นี้มันไม่พอเอาเสียเลย การเสียแชมป์ลีคให้กับลิเวอร์พูลแบบหมดทางสู้ ไหนจะต้องมาตกรอบเอฟเอคัพรอบ 4 ทีมสุดท้าย ตกรอบ UCL ด้วยฝีมือของลียง บอกเลยว่ามันดูล้มเหลวยังไงก็ไม่รู้ ทุกอย่างก็ผ่านไป เรามาตั้งความหวังกันใหม่ว่า ซีซั่นใหม่ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นนั้น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ควรหวังอะไรไว้บ้าง
เอาแชมป์คืนมา
การป้องกันแชมป์เป็นเรื่องยากเสมอ เราเชื่อว่านักเตะ และ ผู้จัดการทีมของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ คงรับรู้ด้วยตัวเองไปแล้วในซีซั่นที่แล้ว ผลงานที่แพ้ไปถึง 9 เกม ทำให้พวกเค้าโดนลิเวอร์พูลแซงไปแบบไม่เห็นฝุ่นจนคว้าแชมป์ได้ มาซีซั่นนี้ ความคาดหวังของพวกเค้ามีได้เพียงแค่อย่างเดียว ก็คือการทวงแชมป์ลีคคืนมาจากลิเวอร์พูล น่าเสียดายอย่างเดียวพวกเค้าไม่ได้ เมสซี่ นักเตะจากนอกโลกมาเป็นแกนหลักในการนำทัพ ไม่งั้นบอกเลยว่าการลุ้นแชมป์ของพวกเค้าน่าจะสะดวกยิ่งขึ้น แต่เชื่อว่าแม้จะไม่ได้เมสซี่มา พวกเค้าก็แข็งแกร่งอยู่ดีการเสริมหลังบ้านที่เป็นจุดอ่อน น่าจะเป็นคีย์หลักที่จะพาเรือใบเอาแชมป์คืนมาได้
บอลถ้วยในประเทศ
มองไปที่เกมบอลถ้วยกันบ้าง ในประเทศมีสองถ้วย เป้าหมายของเรือใบคงไม่มีทางเลือกอื่นด้วยการคว้าทั้งสองถ้วยให้ได้ ซีซั่นที่แล้วเค้าเกือบจะทำสำเร็จด้วยการคว้ามา 1 รายการ ก่อนที่จะร่วงเอฟเอคัพด้วยฝีเท้าของอาร์เซนอล เชื่อว่าซีซั่นนี้ เป๊ป น่าจะหมายมั่น ปั้นมือว่าขอหมดแน่นอน ส่วนตัวมองว่ามีโอกาสทำได้สูงเลย
แชมป์ UCL เป็นเป้าหมายหลัก
ข่าวการดึงเมสซี่เข้ามา เราเชื่อว่าเป็นการดึงเข้ามาเพื่อทำความฝันให้เป็นจริงนั่นก็คือ การพาทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ให้ได้แชมป์ UCL สักที หากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ คิดจะสร้างแบรนด์ฟุตบอลให้ดังไปทั่วโลก ต้องมีแชมป์นี้เป็นเครื่องการันตีเท่านั้น อย่างไรก็ตามแม้เป้าหมายซีซั่นนี้จะตั้งไว้ตรงนั้น แต่เรากลับมองว่า เป๊ป จะอกหักอีกปี ทำได้เพียงแค่รอบ 4 ทีมสุดท้ายเหมือนเดิม