ฟุตบอล ยูโร 2024 ล่าสุด

มาร์โก มาเตรัซซี่ มั่นใจ อิตาลี มีโอกาสคว้าแชมป์ยูโร 2024 หากผ่าน สวิตเซอร์แลนด์ รอบ 16 ทีม

มาร์โก มาเตรัซซี่ (Marco Materazzi) ตำนานกองหลังชาวอิตาลี

ได้ให้สัมภาษณ์ในเชิงบวกเกี่ยวกับโอกาสของทีมชาติอิตาลีในการคว้าแชมป์ ฟุตบอล ยูโร 2024 ล่าสุด (UEFA Euro 2024) หากสามารถเอาชนะทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland) ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่จะพบกันในวันเสาร์ที่ 29 มิถุนายนนี้ อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องง่ายและเตือนให้ทีมชาติอิตาลีระมัดระวังและเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่

ในรอบแบ่งกลุ่ม ฟุตบอล ยูโร 2024 ล่าสุด (UEFA Euro 2024) ทีมชาติอิตาลีมีผลงานที่ไม่ค่อยคงเส้นคงวา

โดยพวกเขาทำสถิติชนะ 1 เสมอ 1 และแพ้ 1 มีทั้งหมด 4 คะแนน ทำให้พวกเขาผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในฐานะอันดับ 2 ของกลุ่ม บี และต้องพบกับทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland) ที่สนามโอลิมเปีย สตาดิโอน (Olympiastadion) ในกรุงเบอร์ลิน (Berlin)

มาเตรัซซี่ (Materazzi) ผู้มีบทบาทสำคัญในการนำทีมชาติอิตาลีคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2006 (FIFA World Cup 2006) ที่เยอรมนี (Germany) กล่าวว่าทีมชาติอิตาลีมีโอกาสดีในการผ่านเข้าสู่รอบต่อไป แต่ก็เตือนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการไม่ประมาท เนื่องจากในทัวร์นาเมนต์นี้ มีหลายชาติที่มีโอกาสคว้าแชมป์เช่นกัน

ปัจจุบันไม่มีทีมใดที่เป็นทีมเต็งอย่างชัดเจน และการเอาชนะสวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland) ไม่ใช่เรื่องง่าย

มาเตรัซซี่ (Materazzi) กล่าว “มูรัต ยาคิน (Murat Yakin) เทรนเนอร์ของสวิส กำลังควบคุมทีมได้เป็นอย่างดี พวกเขามีนักเตะที่เล่นในลีกอิตาลี, เยอรมนี และอังกฤษ (England) ทีมนี้มีสมดุลที่ดีและประกอบด้วยนักเตะชั้นยอด รวมถึงผู้รักษาประตูที่มากประสบการณ์อย่างยานน์ ซอมเมอร์ (Yann Sommer) แม้สวิตเซอร์แลนด์จะถูกประเมินต่ำ แต่พวกเขามีความสามารถและประสบการณ์มาก”

มาเตรัซซี่ (Materazzi) ยังกล่าวถึงผลงานของทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland) ในเกมที่พบกับเยอรมนี (Germany) ซึ่งเสมอไป 1-1 โดยชี้ว่าพวกเขาเล่นด้วยความมั่นใจและเฉียบคม อย่างไรก็ตาม ตำนานกองหลังจากอินเตอร์ มิลาน (Inter Milan) ย้ำว่าสวิตเซอร์แลนด์ไม่ควรเป็นปัญหาสำหรับอิตาลี หากทีมชาติอิตาลีเล่นด้วยความตั้งใจและไม่ประมาท

ถ้าเราผ่านไปได้ ภารกิจต่อ ๆ ไปจะง่ายขึ้น แต่สำคัญที่สุดคืออย่าประมาท อย่าคิดว่ามันง่ายเกินไป

มาเตรัซซี่ กล่าว “เราต้องไม่มองข้ามคู่แข่ง เพราะมันอาจนำไปสู่ความยากลำบาก อย่างเช่นในปี 2006 ที่เราเจอกับเยอรมนี มันดูเหมือนง่าย แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่เลย ตำนานกองหลังจาก “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน (Inter Milan) สรุปว่า การมุ่งมั่นและไม่หวังผลเกินไปคือกุญแจสำคัญในการแข่งขัน ฟุตบอล ยูโร 2024 ล่าสุด (UEFA Euro 2024) ครั้งนี้ ทุกทีมมีศักยภาพที่จะส่งผลลัพธ์ที่เปลี่ยนไปได้ตลอดเวลา และอิตาลีก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมในทุกสถานการณ์

มาเตรัซซี่ (Materazzi) เน้นย้ำว่า การเตรียมความพร้อมและการไม่ประมาทคือกุญแจสำคัญสำหรับทีมชาติอิตาลีในการคว้าแชมป์ฟุตบอล ยูโร 2024 (UEFA Euro 2024) อีกครั้ง ในยุคที่เกมฟุตบอลเต็มไปด้วยทีมที่มีศักยภาพที่จะชนะในแต่ละแมตช์ ทีมชาติอิตาลีต้องระมัดระวังและมุ่งมั่นในทุกเกมเพื่อที่จะผ่านทุกด่านไปสู่การคว้าแชมป์ให้ได้

 

เก็บตกประเด็น สิงห์เขี่ย รีล มาดริด เข้าชิง

 

ถือว่าสมเหตุสมผลด้วยประการทั้งปวง สำหรับ เชลซี ที่พวกเค้าสามารถเขี่ย รีล มาดริด ตกรอบไปด้วยสกอร์รวม 3-1 เกมนี้ยอมรับตามตรงว่า สิงห์บลู เชลซี เหนือกว่าด้วยประการทั้งปวง รีล มาดริด ของซีดานอาจจะต้องกลับไปเตรียมตัวมาใหม่ในซีซั่นหน้า ก่อนจะไปว่ากันเรื่องรอบชิง เรามาเก็บตกประเด็นนี่กัน

แวร์เนอร์ มีดีกว่าที่คิด

ติโม แวร์เนอร์ ถือว่าเป็นนักเตะที่น่าเห็นใจมาก เพราะว่าตลอดซีซั่นนี้ เค้าโดนถากถาง วิจารณ์ ฟอร์มการเล่นแทบจะทั้งซีซั่นเลย ส่วนหนึ่งเพราะว่าฟอร์มของเค้าก่อนหน้านี้ตอนอยู่กับ แอร์เบ ไลป์ซิก ยิงกระจาย เป็นตัวหลักของทีมเลย พอมาตรงนี้หลายคนก็หวังจะให้ทำแบบนั้นอีก แต่สุดท้ายแม้ว่าเค้าจะไม่ได้ยิงกระจายเหมือนตอนเล่นให้กับ ไลป์ซิก เค้าก็ทำประโยชน์ให้กับทีมได้เหมือนกัน เกมนี้เองก็เช่นกัน เค้าทำได้หนึ่งประตู พร้อมกับป่วนกองหลังรีล มาดริด ต้องวิ่งตามจนขาลากทีเดียว

กองเต้ อีกแล้ว

เกมนี้หลังจบเกม เราได้เห็นภาพที่คุ้นเคยอีกครั้ง ก็คือการได้ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเกมนี้ของ เอ็นโกโล่ กองเต้ ผู้ที่ได้รับฉายาว่า ทุกพื้นที่มีแต่กองเต้ เกมนี้เค้าก็แสดงให้เห็นแบบนั้นอีกครั้ง การวิ่งปิดพื้นที่ทุกครั้งของการบุก รีล มาดริด เป็นคำตอบที่แทนทุกอย่างแล้ว แผงกองกลางของรีล มาดริด ที่บุกไม่ขึ้นก็ได้กองเต้นี่แหละ สกัด ปั่นป่วน และทำลายจังหวะ จนแทบต่อเกมกันไม่ติด เบนเซม่า กองหน้าของรีล มาดริด ได้แต่ล้วงบอลต่ำ ถ้าทำแบบนั้นก็เสร็จ ซิลวาที่รอดักอยู่

โอกาสเยอะ แต่ทิ้งขว้างไป

สิ่งหนึ่งที่ ผู้เล่น เชลซี อาจจะต้องกลับไปทำการบ้านมาให้ดีกว่านี้ก็คือ โอกาสการเข้าทำประตูของเชลซี ที่สถิติหลังเกมบอกว่า พวกเค้ายิงมากถึง 15 ครั้ง แต่เข้ากรอบเพียงแค่ 5 ครั้ง เท่านั้นเอง ถือว่าน้อยเกินไป รวมถึงโอกาสจังๆอีกหลายครั้งที่บอกตามตรงว่ามันต้องดีกว่านี้คมกว่านี้ หากหวังจะซิวแชมป์ UCL ให้ได้ เกมนัดชิงกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้มันคงสนุกน่าดู

อะไรทำให้แฟนผี เลือกประท้วงวันนี้

อะไรทำให้แฟนผี เลือกประท้วงวันนี้

ถือว่าเป็นข่าวฮือฮามากพอสมควรทีเดียว จากสถานการณ์การประท้วงต่อเจ้าของทีมอย่าง ตระกูลเกลเซอร์ ของแฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่พวกเค้าเลือกกระทำการที่ต้องใช้คำว่า อุกอาจ และเหนือความคาดหมายมากทีเดียว กับการเข้าไปถึงสนามแข่งในวันแข่งขันที่มีคนรอคอยมากที่สุดในโลกอย่าง เกมแดงเดือด อะไรทำให้แฟนผีเลือกที่จะประท้วงในวันนี้

เป็นข่าวมากที่สุด

คำว่า แย่งชิงพื้นที่สื่อ น่าจะเป็นสิ่งที่กลุ่มแฟนบอลกลุ่มนี้ต้องการ พวกเค้าต้องการให้วิธีประท้วงของพวกเค้ากลายเป็นข่าวพาดหัวไปทั่วโลกในฝั่งข่าวกีฬา ที่ต้องการแบบนี้ก็เพื่อจะกระจายข้อความที่พวกเค้าต้องการจะสื่อออกไปให้ไกลและดังที่สุดว่า พวกเค้าต้องการให้ตระกูลเกลเซอร์ ขายทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกไป บวกกับเป็นการสร้างภาพลักษณ์ให้เกิดการบังคับขายไปยังตระกูลเกลเซอร์ด้วย แฟนบอลคงหวังให้ภาพดังกล่าวกระทบต่อภาพลักษณ์และราคาหุ้นของสโมสรที่จะตกลงจนทำให้ตระกูลเกลเซอร์ต้องเลือกขายทีม

เหนือความคาดหมายมากที่สุด

สองเลือกที่จะลงมือกระทำในวันนี้ เราเชื่อว่าการประท้วงแบบนี้ในเกมวันแดงเดือด คงเป็นอะไรที่เหนือความคาดหมายมากที่สุดเช่นกัน เนื่องจากเกมแดงเดือดนัดนี้เป็นเกมที่คนรอคอยดูมากที่สุดแล้ว บวกกับเกมแดงเดือดนัดนี้น่าจะเป็นโอกาสดีในหลายเกมที่แมนยูจะบุกยัดความปราชัยให้กับลิเวอร์พูลได้ จนทำให้ซีซั่นนี้พวกเค้าทำให้ลิเวอร์พูลไม่สามารถชนะพวกเค้าได้เลยในการเจอกันสามครั้ง (ลีคสอง เอฟเอคัพหนึ่ง) การลงมือไม่ให้เกมนี้มันเกิดจึงเหนือความคาดหมายของฝ่ายรักษาความปลอดภัยมาก

สร้างความเสียหายมากที่สุด

การประท้วงในครั้งนี้ ต้องยอมรับว่ามันสร้างความเสียหายมากที่สุด แบบที่ประเมินตัวเลขแล้วยังต้องตกใจเลย เอาแค่เรื่องเลื่อนแข่ง ก็แทบจะหาวันลงแข่งใหม่ไม่ได้แล้ว นี่ยังไม่นับเรื่อค่าเสียหายจากลิขสิทธิ์ถ่ายทอดที่ไม่ได้ถ่ายอีก นี่เรายังไม่ได้พูดถึงการโดนตัดแต้มจากฝ่ายจัดการแข่งขัน ซึ่งอาจจะทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จากที่จะจบซีซั่นด้วยตำแหน่งรองแชมป์ อยู่ดีๆ อาจจะร่วงยาวไปอันดับสี่หรือห้าได้เลย ถือว่าเป็นการสร้างความเสียหายที่รุนแรงมากจริงๆ

คาดเดา แท็คติค เกมกับไลป์ซิก

คาดเดา แท็คติค เกมกับไลป์ซิก

ถือว่าเป็นอีกเกมหนึ่งที่ความสำคัญมากในช่วงนี้ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพราะว่าเป็นเกมชี้ชะตาที่อยู่ในมือตัวเองเท่านั้นจะอยู่หรือไปในเส้นทางบนถ้วยใบนี้ต่อไปเท่านั้น เรื่องของแท็คติคเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะว่ามันเป็นตัวบอกว่า โซลชาร์ จะทำได้ดีแค่ไหน มาคาดเดาว่า เค้าจะมาไม้ไหน

3-5-2 ต้องมาเท่านั้น

เกมที่มีความสำคัญระดับนี้ เรื่องเกมรับต้องมาก่อนเป็นอันดับแรก เชื่อว่าแท็คติคที่จะหยิบขึ้นมาใช้ต้องเน้นกองหลังไว้ก่อน เจาะจงลงไป ฟอร์เมชั่น 3-5-2 ต้องมาแล้ว เพราะว่าฟอร์เมชั่นตัวนี้ใช้ได้ผลดีในเกมแรกที่เจอกัน แต่คำถามก็คือว่าฟอร์เมชั่นเน้นเกมรับอย่างนี้ ไลป์ซิก จะตกใจแบบเดิมหรือไม่ ถ้าไม่ตกใจบอกเลยว่า พวกเค้าก็คงเตรียมตัวแก้เกมมาดีเหมือนกัน

หนูแม็ค + ตวนเซเบ้ มดงานผู้แข็งแกร่ง

กลางรุก เราเชื่อว่าบรูโน่ คงลงมาเป็นตัวหลักผสานกับ ป็อกบา หรือ ฟานเดอบีค คนใดคนหนึ่ง แต่ว่าในส่วนของเกมรับ แท็คติคเอากองกลางพลังไดนาโมมาสักคนเพื่อวิ่งพล่านทำลายเกมรุกของฝ่ายตรงข้าม เรามองว่าสูตรนี้น่าจะเป็น สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ไว้ก่อน หนุ่มคนนี้เต็มไปด้วยพลังงานล้นปรี่น่าจะดีพอตัดเกม เกะกะ ก่อกวน ทำให้ฝ่ายตรงข้ามเล่นยาก

เกมสวนกลับ ทางเลือกที่ 2

สวนกลับเป็นอาวุธเดียวที่เรามองเห็นในตอนนี้ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สูตรแรกคงต้องเป็น บรูโน่ คอยทิ้งบอลยาวแบบคิลเลอร์พาสให้กับ แรชฟอร์ด วิ่งควบไปเล่น แต่อีกสูตรหนึ่งน่าจะมีเกมสวนกลับทางเลือกที่สองด้วย ตรงนี้น่าจะเป็นแท็คติคของป็อกบา ที่จะเป็นการวางบอลยาวอีกรูปแบบหนึ่งที่จะทำให้กองกลางของ ปารีส ไม่รู้จะเลือกประกบใครดี

ข้ามกองกลาง

เรามองว่าเกมนี้ ทางฝั่ง ปารีส เองก็คงเตรียมหาทางปิดเกมรุกของแมนยู โดยปิดไปที่จุดกำเนิดของทั้งหมดอย่าง บรูโน่ ไว้ก่อน ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว แท็คติคเสริมตรงนี้น่าจะเป็นการปล่อยบทบาทให้ ป็อกบา มาทำเกมแดนกลางแบบวางบอลยาวข้ามกองกลางไปเลย ก็ต้องดูว่าแท็คติคเหล่านี้จะทำได้ดีแค่ไหนในสนามจริง

ประเด็นน่าสนใจ ก่อนเข้าทางตรงสุดท้าย

ประเด็นน่าสนใจ ก่อนเข้าทางตรงสุดท้าย

ช่วงนี้ถือว่าแฟนบอลสโมสรยุโรปอาจจะได้พักสักหน่อยเนื่องจากว่าเป็นโปรแกรมทีมชาติมาคั่นกลาง ก็เลยทำให้พอได้พักผ่อนกันบ้าง แต่พอกลับมารอบนี้ดูเหมือนจะเตะกันรวดเดียวแบบรีบจบกันเลยเพื่อให้ ทีมชาติได้เตรียมตัวเข้าสู่ศึกยูโรกลางปีนี้ด้วย เรามาดูกันว่าฝั่งพรีเมียร์ลีคมีประเด็นอะไรน่าสนใจในช่วง 10 เกมสุดท้ายกันบ้าง

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะแชมป์เมื่อไร

เป็นไปตามคาดอย่างที่หลายคนคิดไว้ เมื่อแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ขึ้นนำแล้ว เป็นการนำแบบ “ม้วนเดียวจบ” พวกเค้ารักษาคุณภาพ มาตรฐานไว้ได้แบบไม่มีตกเลย นั่นทำให้มีแต่คำถามว่าเป็นแชมป์เมื่อไรเท่านั้นเอง หากนับตามโปรแกรม พวกเค้าเล่นอีก 5 เกมถ้าชนะหมดก็ได้แชมป์ไปเลย แต่ทีนี้น่าสนใจตรงว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้จะได้แชมป์ก่อนหน้านั้นหรือไม่ หรือ จะยืดไปกว่านั้นจากฝีมือของ เชลซี และ เลสเตอร์ที่จะยืดไปได้อีกหน่อย

ใครจะตกชั้น

ตัดภาพไปที่โซนตกชั้นกันบ้าง มาถึงตรงนี้ มีคนถูกเตะลงไปแล้วอย่างน้อย สองทีมคือ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด และ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ความน่าสนใจอยู่ที่ตั๋วใบสุดท้ายที่ไม่มีใครอยากได้นี่แหละ ฟูแล่ม, นิวคาสเซิ่ล, ไบร์ทตัน และเบิร์นลี่ย์ หนึ่งในสี่ทีมนี้จะเป็นผู้โชคร้าย ว่าแต่ใครกัน ส่วนตัวนิวคาสเซิ่ล มีสิทธิ์สูงที่สุด

โควตา UCL

ตัดภาพมาที่ด้านบนของตาราง สิ่งที่จะทำให้เราได้ลุ้นกันสนุกเลยก็คือ ใครจะได้ไป UCL ในซีซั่นหน้า จากอีก 3 ใบที่เหลือ แต่มีผู้แย่งชิงกันอย่างน้อย 7 ทีม ทีเดียว น่าสนใจตรงที่ว่า จะมีคนสมหวัง 3 คน และมีคนผิดหวัง 4 คน ใครจะเป็นฝ่ายสมหวังและผิดหวัง ต้องมาคอยดูกันต่อไป แม้ว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด , เลสเตอร์ , เชลซี จะได้เปรียบอยู่พอสมควร แต่อย่าประมาท เวสต์แฮม , สเปอร์ส และ ลิเวอร์พูล พวกเค้าพร้อมจะกลับมาแย่งโควตานี้ได้เสมอ หากใครเล่นผิดพลาดสัก 1-3 เกม อาจจะโดนปาดจนน้ำตาตกในได้เหมือนกัน

อะไรจะเกิดขึ้น หาก มาดริด ร่วง UCL

อะไรจะเกิดขึ้น หาก มาดริด ร่วง UCL

ต้องบอกว่า ตลอดเส้นทางบนเส้นทางฟุตบอลยุโรป UCL รีล มาดริด ไม่เคยตกรอบแบ่งกลุ่มเลยสักครั้ง แล้วนี่คงเป็นอีกหนึ่งซีซั่นที่พวกเค้าอยู่ปากเหวแบบเจียนอยู่เจียนไป ยังดีที่พวกเค้าไม่ได้ตกรอบ เอาตัวรอดมาได้ 2-0 อย่างไรก็ตามเรามาลองสมุมติฐานกันว่า หากมันไม่เป็นแบบนั้นมันจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป หากมาดริด ร่วง UCL

ปลด ซีดาน

แม้ว่าการกลับมาทำทีมคราวนี้จะไม่ดีเหมือนเก่า แต่แชมป์ลีคซีซั่นก่อนก็พอจะทำให้ชื่อของ ซีดาน กลับมาผงานได้อีกครั้งหนึ่ง แต่ต้องยอมรับว่าฟุตบอลอยู่กับปัจจุบัน ซีซั่นนี้ไม่รู้ว่าเพราะโควิท 19 หรือ เปล่ามันทำให้ ซีดาน ทำทีมออกสตาร์ทได้แย่มากที่สุดครั้งหนึ่ง แน่นอนว่าหากพวกเค้าตกรอบ UCL คงไม่มีเหตุผลอะไรต้องเอาซีดานไว้ คงต้องปลดออกไปเพื่อหาคนใหม่มาแทนที่ต่อไป

ล้างไพ่นักเตะใหม่

ฝั่งนักเตะเองก็ต้องรับผิดชอบด้วยเหมือนกัน ฟอร์มทีมตกต่ำอย่างนี้ นักเตะหลายคนก็มีส่วนร่วมจากฟอร์มที่ไม่เอาอ่าวของพวกเค้าด้วย หากตกรอบจริง เราเชื่อว่าแม้จะมีปัญหาทางด้านการเงิน แต่รีล มาดริด คงต้องโละ ล้าง ไพ่นักเตะใหม่กันหลายคนเลย แล้วหาคนใหม่มาเสริม แม้ว่าจะต้องใช้เงินเยอะหน่อย แต่ก็ยังดีกว่าปล่อยทีมไปแบบนี้

ในลีคต้องได้ เท่านั้น

การทำทีมของรีล มาดริด เป้าหมายของพวกเค้ามีสองอย่างหนึ่งคือ แชมป์ลีค และ สอง แชมป์ UCL หากพวกเค้าพลาดหวังในอย่างที่สองไปแล้ว ดังนั้นเป้าหมายเดียวที่พวกเค้าต้องทำให้ได้ก็คือ แชมป์ลีคเท่านั้น ซึ่งมองไปก็คงต้องทำให้ได้ เพราะไม่งั้น มันคงจะเป็นซีซั่นที่ล้มเหลวที่สุดในประวัติศาสตร์ ของ รีล มาดริดเอง ซึ่งพวกเค้าคงไม่อยากมีชื่อ หรือ มีส่วนร่วมในประวัติศาสตร์ อัปยศ ครั้งนี้แน่นอน

แชมป์ ยูโรป้า ลีค

แม้ว่าการลงไปเล่นถ้วยยูโรป้า ลีคเป็นสิ่งที่พวกเค้าไม่พึงประสงค์เท่าไร แต่ถ้าหากต้องลงไปเล่นจริงๆ เป้าหมายเดียวก็คือ แชมป์เท่านั้น แม้ว่าจะยากแค่ไหนก็ตามที

สรุปผลการแข่งขัน UCL นัดที่ 2 คู่ที่น่าสนใจ

สรุปผลการแข่งขัน UCL นัดที่ 2 คู่ที่น่าสนใจ

ผ่านไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ เกมรอบแบ่งกลุ่ม UCL นัดที่สอง ต้องบอกว่าหลังจบเกมนัดนี้ พอจะเห็นภาพบางอย่างของแต่ละกลุ่มได้เหมือนกัน ภาพที่ว่าก็คือการแบ่งกลุ่มของทีมว่าใครอยู่ตรงไหน ก่อนจะมาเตะนัดครึ่งทางในสัปดาห์หน้า ก่อนจะลากันไปเรามาดูกันว่ามีผลการแข่งขันคู่ไหนที่น่าสนใจกันบ้าง

ผลการแข่งขันที่ไม่น่าเชื่อ

สำหรับกลุ่มแรกเป็นผลการแข่งขันที่ไม่น่าเชื่อว่าจะออกมาแบบนี้ เรียกว่า หักปากกาเซียน หรือ รถผ้าป่าคว่ำก็เป็นได้ ไม่ว่าจะเป็น บาเยิร์น มิวนิคที่ชนะ โลโคโมทีฟ มอสโคว์ ไปแบบหืดจับปาดเหงื่อ แอต.

มาดริดที่เกือบเอาตัวไม่รอดกับ เรดบูลส์ ซัวร์บวร์ก ชนะไป 3-2 , รีล มาดริด ที่เสมอกับ โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบลัคไป 2-2 , ชัคตาร์ โดเนตส์ ที่เสมอกับ อินเตอร์ มิลานไป 0-0 คลับ บรูซ เสมอกับ ลาซิโอ 1-1 , แมนยู ชนะ ไลป์ซิก 5-0 , เฟเรนซ์เวรอส เสมอกับ เคียฟ ไป 2-2 ซะอย่างนั้น กลุ่มนี้ถือว่าผลการแข่งขันไม่เป็นใจ ทำให้ตารางคะแนนยังไม่หนีห่างกันมากนัก

กลุ่มที่ผลการแข่งขันไม่แปลกใจ

อีกกลุ่มหนึ่งถือว่าเป็นการเล่นที่ทำได้ตามเป้าของทีมตัวเอง เพราะดูจากชื่อตามหน้ากระดาษถือว่าต่างกันตามสกอร์ที่ออกมานั่นแหละ อย่างเช่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ มาร์กเซย์ไป 0-3 ,ปอร์โต้ ชนะโอลิมเปียกอส 2-0, อตาลันตาเสมออาแจ็กซ์ 2-2 , คราสโนดาห์ แพ้ เชลซีไป 0-4 , PSG เอาชนะ อิสตันบูลไป 2-0 , ดอร์ทมุนด์ชนะเซนิต 2-0 หรือ เซบีญ่า ชนะแรนส์ไป 1-0 ยูเวนตุสแพ้ บาร์ซา 0-2 เหล่านี้เป็นต้น

จากผลการแข่งขันนัดที่สองนี้ถือว่าส่งผลกระทบต่อการแย่งตำแหน่งในกลุ่มของตัวเองพอสมควร เกมมีทั้งหมด 6 นัด ผ่านนัดนี้ไปก็เท่ากับว่าเดินทางไป หนึ่งในสามของเกมแล้ว เท่ากับว่าพอจะเห็นอะไรบ้างในกลุ่มบางกลุ่ม แต่บางกลุ่มก็ยังไม่เห็นภาพชัดเจนเท่าไรเนื่องจากคะแนนใกล้เคียงกันมาก ก็คงต้องดูกันในเกมต่อไป ภาพน่าจะชัดเจนมากขึ้นตามลำดับ

สิ่งที่รามอส ให้ได้กับทุกทีม

สิ่งที่รามอส ให้ได้กับทุกทีม

ถือว่าเป็นข่าวที่สร้างความฮือฮาไม่น้อยสำหรับ รามอส กัปตันทีมของรีล มาดริด ที่อาจจะต้องแยกทางกับที่หลังจบซีซั่นนี้ หลังจากทั้งคู่หาจุดลงตัวเรื่องสัญญาไม่ลงตัว (คาดกันว่าน่าจะมาจากเรื่องของค่าเหนื่อยที่ รีล มาดริด จ่ายไม่ได้ในเรตที่ รามอสต้องการ) แต่ในเมื่อเจ้าตัวเลือกไปแล้วเราก็คงจะไปขัดขวางอะไรไม่ได้ ทีนี้มาดูกันว่า รามอสจะไปไหนดีกว่า แม้จะยังไม่รู้ว่าสุดท้ายปลายทางไปไหน แต่สิ่งที่เรารู้ได้อย่างหนึ่งก็คือ รามอส จะให้สิ่งเหล่านี้ได้กับกองหลังทีมใหม่

ตัวชน แบบไม่มีถอย

บทบาทของรามอส ในการเล่นแผงกองหลังก็คือ การเล่นแบบตัวชน ตัวแทงค์ กับกองหน้าฝ่ายตรงข้าม ซึ่งการชน ชองเค้าเป็นการชนทั้งได้ทั้งแรงปะทะ และ จังหวะการปะทะที่ได้เปรียบ รวมถึงใจสู้แบบไม่มีถอย ลองนึกภาพว่า เค้าเป็นกองหลังที่พร้อมจะชนก่อนให้เพื่อนมาเก็บตก เพียงแค่นี้เพื่อนก็อุ่นใจแล้ว มีคนเปิดก่อน แล้วค่อยตาม มันน่าฮึกเหิม

ภาวะผู้นำ

บทบาทกองหลังของรามอส หากใครได้ไปบอกเลยว่า เค้านี่แหละจะเป็นผู้นำในเกมรับของแผงกองหลังอย่างแท้จริง ประสบการณ์ ความเก๋า การอ่านเกมของเค้าช่วยได้เยอะเลย ให้นึกภาพของ กองหลังเชลซีเวลานี้ที่ ซิลวา ลงทีไร เล่นด้วยยากตลอด เพราะเค้าอ่านและนำเพื่อนในแผงกองหลังให้เอาชนะ เกมรุกฝ่ายตรงข้ามได้ทั้งเกม ถ้าพี่มอสมาทำบ้างมันคงจะดีไม่น้อย ตรงนี้เรารวมถึงสปิริตในห้องแต่งตัวด้วย ภาวะผู้นำของเค้าจะช่วยยกระดับทีมให้สูงขึ้น อย่างแน่นอน พี่เค้าไม่กลัวใครอ่ะบอกเลย

ตัวว๊าก ตัวดุ ตัวกระตุ้น

การเล่นกองหลังหากคุณเหม่อเพียงแค่ชั่วเสี้ยววินาที ทุกอย่างก็จะจบเลยแบบไม่ต้องถาม ดังนั้นการเล่นกองหลังมันต้องมีพี่ใหญ่สักคน คอยว๊าก กระตุ้น ดุ ให้ตื่นตัวในสนาม ตรงนี้ รามอส จัดให้ได้เลย ใครมาเล่นเหยาะแหยะ บอกเลยว่า ไม่ต้องถึงมือผู้จัดการทีมหรอก พี่มอสนี่แหละ จัดให้ก่อนเลย คาแรกเตอร์แบบนี้ ผู้จัดการทีมหลายคนอยากได้เหลือเกิน ว่าแต่ใครจะเอาต้องมาลุ้นกัน

เรื่องราวดีๆที่เกิดขึ้นในเกมทรานเมียร์

เรื่องราวดีๆที่เกิดขึ้นในเกมทรานเมียร์

ต้องยอมรับว่า เกมระหว่างทรานเมียร์ กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เจอกันในเอฟเอคัพรอบที่สี่ แม้ว่าตามหน้ากระดาษชื่อชั้นจะห่างกันมาก แต่เชื่อเหอะว่าแฟนบอลปีศาจแดงไม่ได้คิดแบบนั้นเลย พวกเค้ามีความกังวลมากกว่า 30% ว่าทีมจะไม่ชนะเกมนี้ด้วยซ้ำไป พอลงสนามผลกลับตาลปัตรเป็นอีกอย่างหนึ่ง ก็โอเคเรามาดูเรื่องราวดีจากเกมนี้กันบ้างว่ามีอะไร

เจสซี่ ลินการด์ ยิงได้แล้ว
คนแรกที่ต้องโฟกัสอย่างมากเป็น เจสซี่ ลินการ์ด ที่ต้องบอกว่าฟอร์มตอนนี้ไม่ได้มีอะไรดีพอจะให้เล่นภายใต้สีเสื้อแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้เลย เจ้าตัวได้โอกาสครั้งสำคัญการลงเล่นเกมนี้ด้วย แล้วก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เจ้าตัวยิงทำประตูได้ด้วยโดยช่วงประมาณนาทีที่ 16 แมนยูที่กำลังคึกสุดขีด แฮร์รี่ แม็คไกวร์ พาบอลขึ้นมาแล้วจ่ายให้ เจสซี่ ลินการ์ด หลุดตัวประกบปั่นด้วยขวาบอลพุ่งวาบเข้าประตูไปอย่างสวยงาม ทำเอาเจ้าตัวยิ้มไม่หุบทีเดียว แม้ว่าแฟนบอลจะไม่ค่อยชอบเค้าเท่าไร แต่เห็นทำประตูได้ก็ดีใจด้วย

มาร์คซิยาล ก็ยิงได้ด้วย
ไม่เพียงแค่ ลินการ์ดเท่านั้นที่ยิงได้ ศูนย์หน้าที่ควรจะเป็นศูนย์หน้าอย่าง อองโตนี่ มาร์คซิยาล ก็ยิงได้กับเค้าด้วยในเกมนี้อย่างที่รู้กัน เจ้าตัวไม่ได้เล่นศูนย์หน้าบ่อยเท่าที่ควร(ไปเล่นปีกซะส่วนมาก) ทำให้สัญชาติญาณการทำประตูหดหายไปเยอะ เกมนี้เจ้าตัวก็พยายามจะยิงให้ได้เพื่อเรียกความมั่นใจ แล้วก็ทำได้ในช่วงท้ายขึ้นแรกจากลูกปั่นโค้งจากนอกกรอบเขตโทษสวยงามทีเดียว นี่น่าจะเป็นเรื่องราวดีที่ทำให้เจ้าตัวมั่นใจขึ้นก่อนลงเจอเกมใหญ่กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ต่อไป

นักเตะไม่เจ็บ
เรื่องราวดีที่สุดในสายตาแฟนบอลในเกมนี้ก็คือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาชนะได้อย่างขาดลอย แถมยังไม่มีใครบาดเจ็บจากสนามที่ต้องบอกว่า เละมาก แบบนี้ได้ อย่าลืมว่าตอนนี้ลิสต์นักเตะที่บาดเจ็บของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เยอะแล้ว อย่ามีคนเจ็บเพิ่มอีกเลย ยังมีเกมใหญ่รออยู่

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป้าหมายที่ต้องเอาคืน

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป้าหมายที่ต้องเอาคืน

แม้จะได้ถ้วยแชมป์ลีค แต่ต้องยอมรับว่าผลงานโดยรวมของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพียงแค่นี้มันไม่พอเอาเสียเลย การเสียแชมป์ลีคให้กับลิเวอร์พูลแบบหมดทางสู้ ไหนจะต้องมาตกรอบเอฟเอคัพรอบ 4 ทีมสุดท้าย ตกรอบ UCL ด้วยฝีมือของลียง บอกเลยว่ามันดูล้มเหลวยังไงก็ไม่รู้ ทุกอย่างก็ผ่านไป เรามาตั้งความหวังกันใหม่ว่า ซีซั่นใหม่ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นนั้น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ควรหวังอะไรไว้บ้าง
เอาแชมป์คืนมา
การป้องกันแชมป์เป็นเรื่องยากเสมอ เราเชื่อว่านักเตะ และ ผู้จัดการทีมของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ คงรับรู้ด้วยตัวเองไปแล้วในซีซั่นที่แล้ว ผลงานที่แพ้ไปถึง 9 เกม ทำให้พวกเค้าโดนลิเวอร์พูลแซงไปแบบไม่เห็นฝุ่นจนคว้าแชมป์ได้ มาซีซั่นนี้ ความคาดหวังของพวกเค้ามีได้เพียงแค่อย่างเดียว ก็คือการทวงแชมป์ลีคคืนมาจากลิเวอร์พูล น่าเสียดายอย่างเดียวพวกเค้าไม่ได้ เมสซี่ นักเตะจากนอกโลกมาเป็นแกนหลักในการนำทัพ ไม่งั้นบอกเลยว่าการลุ้นแชมป์ของพวกเค้าน่าจะสะดวกยิ่งขึ้น แต่เชื่อว่าแม้จะไม่ได้เมสซี่มา พวกเค้าก็แข็งแกร่งอยู่ดีการเสริมหลังบ้านที่เป็นจุดอ่อน น่าจะเป็นคีย์หลักที่จะพาเรือใบเอาแชมป์คืนมาได้
บอลถ้วยในประเทศ
มองไปที่เกมบอลถ้วยกันบ้าง ในประเทศมีสองถ้วย เป้าหมายของเรือใบคงไม่มีทางเลือกอื่นด้วยการคว้าทั้งสองถ้วยให้ได้ ซีซั่นที่แล้วเค้าเกือบจะทำสำเร็จด้วยการคว้ามา 1 รายการ ก่อนที่จะร่วงเอฟเอคัพด้วยฝีเท้าของอาร์เซนอล เชื่อว่าซีซั่นนี้ เป๊ป น่าจะหมายมั่น ปั้นมือว่าขอหมดแน่นอน ส่วนตัวมองว่ามีโอกาสทำได้สูงเลย
แชมป์ UCL เป็นเป้าหมายหลัก
ข่าวการดึงเมสซี่เข้ามา เราเชื่อว่าเป็นการดึงเข้ามาเพื่อทำความฝันให้เป็นจริงนั่นก็คือ การพาทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ให้ได้แชมป์ UCL สักที หากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ คิดจะสร้างแบรนด์ฟุตบอลให้ดังไปทั่วโลก ต้องมีแชมป์นี้เป็นเครื่องการันตีเท่านั้น อย่างไรก็ตามแม้เป้าหมายซีซั่นนี้จะตั้งไว้ตรงนั้น แต่เรากลับมองว่า เป๊ป จะอกหักอีกปี ทำได้เพียงแค่รอบ 4 ทีมสุดท้ายเหมือนเดิม