ม้าของ โธมัส มุลเลอร์

ม้ามุลเลอร์ กลายเป็นฮีโร่ พาเยอรมัน คว้าเหรียญทองโอลิมปิค

ม้ามุลเลอร์ กลายเป็นฮีโร่ พาเยอรมัน คว้าเหรียญทองโอลิมปิค

 

โธมัส มุลเลอร์ (Thomas Müller) ดาวเตะทีมชาติ เยอรมัน แม้จะไม่ได้ไปมีส่วนร่วมในการแข่งขันของโอลิมปิคโดยตรงแต่เจ้าตัวก็ส่งม้าของเขา ไปให้ทัพนักฬาของอินทรีย์เหล็กใช้ในการแข่งขัน ในประเภทม้ากระโดดข้ามสิ่งกีดขวางในโอลิมปิค 2024 ที่กรุงปารีส ในเวลานี้

ซึ่งทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมพาเยอรมัน คว้าเหรีญทองในการขี่ม้าประเภท กระโดดข้ามสิ่งกีดขวางได้สำเร็จ โดยผู้ขี่ก็คือ คริสเตียน คูคุค (Christian Kukuk) นักขี่ม้าทีมชาติเยอรมัน ทำให้ตอนนี้ ทัพนักกีฬาเยอรมันคว้าไปได้ถึง 8 เหรียญทอง อยู่อันดับที่ 10 ของตารางรวมเหรียญ โอลิมปิค 

 

สำหรับ โธมัส มุลเลอร์ (Christian Kukuk) ที่ตอนนี้นั้นกำลังเก็บตัวปรีซีซั่นอยู่กับทีม บาเยิร์น มิวนิค (FC Bayern Munich) ซึ่งในฤดูกาลนี้จำเป็นต้องเร่งเค้นฟอร์มอย่างมากเพราะทางทัพเสือใต้ได้มีการเปลี่ยนโค้ช ดึงเอาทางด้านของ แวร์ซอง กอมปานี (Vincent Kompany) เข้ามาคุมทีม

มิดฟิลด์วัย 34 ปี แม้ไม่ประสบความสำเร็จกับทีมชาติ เยอรมันในศึกยูโร 2024 ที่ผ่านมาแต่ในโอลิมปิคครั้งนี้เขาก็มีส่วนร่วมในความสำเร็จของนักกีฬาขี่ม้าเยอรมัน เพราะม้าของเขาที่ชื่อ เช็คเกอร์ “Checker” ถูกส่งไปให้ คูคุคได้ขี่ จนสามารถคว้าเหรีญทองโอลิมปิคมาได้สำเร็จ สำหรับกีฬา โอลิมปิคครั้งนี้ก็ใกล้มาถึงบทสรุปสุดท้ายแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหรียญที่ยิ่งใหญ่ในกีฬาฟุตบอลโอลิมปิค สำหรับ ตารางบอล โอลิมปิก 2024 นั้นรอบชิงเหรียญทองแดง จะเป็นการพบกันของ ทีมชาติ อิยิปต์ พบกับ ทีมชาติ โมร็อคโก และ รอบชิงชนะเลิศเหรียญทอง ตารางบอล โอลิมปิก 2024 จะเป็นการพบกันระหว่าง ทีมชาติ ฝรั่งเศส พบกับ ทีมชาติ สเปน ส่วน ตารางบอล โอลิมปิก 2024 ของผู้หญิงนั้น น่าเสียดายที่ทีมชาติ เยอรมันพ่ายให้กับ สหรัฐ อเมริกาตกรอบไปก่อนเสียแล้ว แต่ก็ยังมีโอกาสที่จะคว้าเหรียญรางวัลได้อยู่เช่นัน โดยจะชิงเหรียญทองแดง กับทีมชาติสเปน

 

ส่วนม้าของ โธมัส มุลเลอร์ (Thomas Müller) เจ้า เช็คเกอร์ ที่พาเยอรมันประสบความสำเร็จในการคว้าเหรียญทอง ในกีฬาขี่ม้าครั้งนี้

ต้องชื่นชมทางด้าน โธมัส มุลเลอร์ (Thomas Müller) กับ มาเดลีน วินเตอร์-ชูลซ์ อย่างมาก ทั้งคู่ถือว่ามีส่วนสำคัญมากๆ เพราะพวกเขาเป็นเจ้าของ ม้าแกร่งตัวนี้ นี่คือคำให้สัมภาษณ์ของ คริสเตียน คูคุค (Christian Kukuk) นักกีฬาขี่ม้าผู้ประสานงานกับเจ้า เช็คเกอร์จนสามารถคว้าเหรียญทองมาได้ในที่สุด โดยเจ้าตัวยกให้เจ้า เช็คเกอร์ เป็นฮีโร่แห่งเยอรมันเลยทีเดียว ในการแข่งขัน ขี่ม้ากระโดดข้ามสิ่งกีดขวางครั้งนี้ คูคุค กับเจ้า เช็คเกอร์ เป็นฝ่ายเริ่มการแข่งขันคนแรก และสามารถที่จะทำเวลาได้เร็วที่สุด ใช้เวลาไปเพียง 38.34 วินาที เท่านั้น คว้าเหรียญทองไปครองได้สำเร็จ สำหรับเหรียญเงิน ตกเป็นของ สวิตเซอร์แลนด์ และ เหรียญทองแดงตกเป็นของ เนเธอร์แลนด์ตามลำดับ

เจค โอไบรอัน ย้ายซบเอฟเวอร์ตัน จากนักเตะเลือดสาดในเบลเยียมสู่ดาวรุ่งลีกเอิง พร้อมก้าวสู่พรีเมียร์ลีก

เจค โอไบรอัน ย้ายซบเอฟเวอร์ตัน จากนักเตะเลือดสาดในเบลเยียมสู่ดาวรุ่งลีกเอิง พร้อมก้าวสู่พรีเมียร์ลีก

จากคอร์กสู่ลีกเอิง เส้นทางอันน่าทึ่งของเจค โอไบรอัน

ประสบการณ์ในเบลเยียม จุดเปลี่ยนสำคัญ

เจค โอไบรอัน (Jake O’Brien) กองหลังชาวไอริชวัย 23 ปี เพิ่งย้ายมาร่วมทีม เอฟเวอร์ตัน ด้วยค่าตัว 17 ล้านปอนด์ หลังจากโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมกับลียงในลีกเอิงฤดูกาลที่ผ่านมา แต่เส้นทางสู่ความสำเร็จของเขาไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว ขณะที่ โอไบรอัน ลงเล่นให้กับโมเลนเบ็ค ทีมในลีกรองของ เบลเยียม ในเกมสำคัญที่พบกับ เบเวอเรน เขาได้รับบาดเจ็บที่จมูกจนเลือดอาบใบหน้า แต่แทนที่จะขอเปลี่ยนตัว เขากลับเลือกที่จะสู้ต่อ
โจนาธาน อัลเวส ผู้ช่วยโค้ชของโมเลนเบ็คในขณะนั้นเล่าว่า “มีเลือดไหลเยอะมาก เราคิดว่าเขาต้องออกจากสนามแน่ๆ แต่เขากลับทำความสะอาดตัวเองแล้วลงเล่นต่อ ถ้าคุณอยากรู้ว่า เจค โอไบรอันเป็นใคร ดูแค่เกมนั้นก็พอ”

จากคริสตัล พาเลซ สู่ลียง

โอไบรอัน เริ่มต้นอาชีพใน อังกฤษ กับ คริสตัล พาเลซ หลังย้ายมาจากคอร์ก ซิตี้ในปี 2021 ก่อนจะถูกปล่อยยืมตัวไปยังสวินดอน ทาวน์ ในลีกทู เบน การ์เนอร์ อดีตโค้ชของสวินดอนเล่าว่า ทีมต้องการกองหลังที่มีความสูงและแข็งแกร่งในการเล่นลูกกลางอากาศ แต่ โอไบรอัน มีดีกว่านั้น
“เขามีความกล้าหาญเวลาครองบอล เร็ว คล่องแคล่วดีสำหรับคนตัวสูง และแน่นอนว่าเล่นลูกกลางอากาศได้ดี นอกจากนี้ยังเป็นคนถ่อมตัวและมุ่งมั่น” การ์เนอร์กล่าว
หลังจากประสบความสำเร็จกับโมเลนเบ็ค โอไบรอันก็ย้ายไปร่วมทีมลียงด้วยค่าตัวราว 1 ล้านปอนด์ แม้ทีมจะตกชั้นในช่วงต้นฤดูกาล แต่ฟอร์มของเขาก็โดดเด่นจนได้รับความสนใจจากหลายทีมใน พรีเมียร์ลีก

พร้อมสำหรับความท้าทายใหม่กับเอฟเวอร์ตัน

จุดเด่นของ โอไบรอัน

โอไบรอัน มีความสูงถึง 6 ฟุต 6 นิ้ว ทำให้เขาเป็นนักเตะที่โดดเด่นในการเล่นลูกกลางอากาศ แต่เขายังมีจุดเด่นอื่นๆ อีกมากมาย อัลเวสเผยว่า “เขาเร็วพอที่จะรับมือกับพื้นที่ว่างด้านหลังได้ ซึ่งสำคัญมากในลีกระดับสูง นอกจากนี้เขายังกล้าเล่นบอลและสามารถเบรกแนวรับของคู่ต่อสู้ได้ด้วย”
ในฤดูกาลที่ผ่านมากับลียง โอไบรอัน ยังแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการทำประตู โดยเขาทำไป 4 ประตู ซึ่งเป็นรองเพียง อเล็กซองดร์ ลากาแซตต์ (Alexandre Lacazette) กองหน้าตัวเก่งของทีมเท่านั้น

ความคาดหวังในพรีเมียร์ลีก

พร้อมสำหรับความท้าทายใหม่กับ เอฟเวอร์ตัน (Everton) และโอกาสลุ้นติดทีมชาติ ไอร์แลนด์ไป โอลิมปิก 2024 ปารีส ทั้ง อัลเวส และ การ์เนอ ร์ต่างเชื่อว่า โอไบรอัน พร้อมสำหรับความท้าทายใน พรีเมียร์ลีก แล้ว การ์เนอร์ กล่าวว่า “ผมดีใจมากที่ได้เห็นสิ่งที่เขาทำได้หลังจากนั้น เพราะเขาเป็นคนถ่อมตัว ขยัน และมุ่งมั่น ผมคิดว่าเขามีทุกอย่างที่จะประสบความสำเร็จในอาชีพนี้” อัลเวส เสริมว่า “ผมคิดว่าเขาเข้ากันได้ดีกับทีมของ ฌอน ไดช์ (Sean Dyche) เพราะมีแนวคิดที่คล้ายกัน พรีเมียร์ลีก คือเป้าหมายของเขามาตั้งแต่ต้น และผมคิดว่าเขาพร้อมแล้ว เขามีความมั่นใจแต่ก็ถ่อมตัวพอที่จะรับฟังด้วย”
การย้ายมาร่วมทีมเอฟเวอร์ตันครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในอาชีพของ โอไบรอัน แฟนบอลทอฟฟี่สีน้ำเงินต่างรอคอยที่จะได้เห็นฟอร์มการเล่นของเขาในฤดูกาลหน้า และหวังว่าเขาจะเป็นกำลังสำคัญในการพาทีมประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ยังมีโอกาสลุ้นติดทีมชาติ ไอร์แลนด์ ไปแข่งขัน โอลิมปิก 2024 ที่กรุงปารีสอีกด้วย

ดิอาบี้

แอสตัน วิลล่า กำลังจะสูญเสียปีกตัวเก่งอย่าง มูสซา ดิอาบี้ ให้กับสโมสรอัล-อิตติฮัด แห่งลีก ซาอุดีอาระเบีย

แอสตัน วิลล่า กำลังจะสูญเสียปีกตัวเก่งอย่าง มูสซา ดิอาบี้ (Moussa Diaby) ให้กับสโมสรอัล-อิตติฮัด แห่งลีก ซาอุดีอาระเบีย ด้วยค่าตัวที่สูงถึง 60 ล้านยูโร หรือประมาณ 50.4 ล้านปอนด์ ซึ่งถือเป็นการย้ายทีมที่น่าสนใจอีกครั้งในตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์นี้

ดิอาบี้ (Diaby) วัย 25 ปี ได้เดินทางไปยัง ซาอุดีอาระเบีย เพื่อเข้ารับการตรวจร่างกายและเจรจารายละเอียดสุดท้ายของสัญญา หลังจากที่เพิ่งย้ายมาร่วมทีม วิลล่า ได้เพียงฤดูกาลเดียวเท่านั้น การย้ายทีมครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สำหรับทั้งนักเตะและสโมสร

ย้อนกลับไปเมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว ดิอาบี้ (Diaby) เพิ่งย้ายจาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น มาร่วมทีม วิลล่า ด้วยค่าตัวสถิติสโมสรที่ 51.9 ล้านปอนด์ การย้ายทีมครั้งนั้นสร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนบอล วิลล่า เป็นอย่างมาก เนื่องจาก ดิอาบี้ (Diaby) เป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์และมีชื่อเสียงในวงการฟุตบอลยุโรป

อย่างไรก็ตาม หลังจากผ่านไปเพียงหนึ่งฤดูกาล ผู้จัดการทีม อูไน เอเมรี่ (Unai Emery) ได้ตัดสินใจขายนักเตะทีมชาติ ฝรั่งเศส รายนี้ออกไป การตัดสินใจดังกล่าวอาจสร้างความประหลาดใจให้กับหลายคน แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงในนโยบายของสโมสรและความต้องการในการปรับโครงสร้างทีม

ในช่วงเวลาที่อยู่กับ วิลล่า ดิอาบี้ (Diaby) ได้ลงเล่นให้ทีมทั้งหมด 54 นัด ยิงได้ 10 ประตู และมีส่วนสำคัญในการพาทีมจบอันดับ 4 ใน พรีเมียร์ลีก ซึ่งทำให้ วิลล่า ได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขัน แชมเปียนส์ลีก ในฤดูกาลหน้า ผลงานของเขาถือว่าน่าประทับใจ แม้จะไม่ได้โดดเด่นมากนักเมื่อเทียบกับค่าตัวที่สโมสรจ่ายไป และหากใครไม่อยากพลาด แทงบอล sbobet มือถือ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ

การตัดสินใจขาย ดิอาบี้ (Diaby) ของ วิลล่า เกิดขึ้นหลังจากที่พวกเขาได้ดึงตัว เจเดน ฟิโลจีน (Jaden Philogene) กลับมาจาก ฮัลล์ ซิตี้ ด้วยค่าตัวประมาณ 13.5 ล้านปอนด์ ฟิโลจีน (Philogene) เป็นผลผลิตจากอคาเดมี่ของ วิลล่า และสโมสรเชื่อว่าเขาจะสามารถสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการกลับมาครั้งนี้ การดึงตัว ฟิโลจีน (Philogene) กลับมาอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สโมสรตัดสินใจปล่อย ดิอาบี้ (Diaby) ออกไป

นอกจากนี้ วิลล่า ยังได้ทำการเสริมทัพอย่างต่อเนื่องในช่วงซัมเมอร์นี้ พวกเขาได้เซ็นสัญญากับนักเตะหลายคน ไม่ว่าจะเป็น ซามูเอล อิลิง-จูเนียร์ (Samuel Iling-Junior) และ เอนโซ บาร์เรเนเชอา (Enzo Barrenechea) จากลีก อิตาลี รวมถึงแบ็คซ้าย อีอัน มาต์เซน (Ian Maatsen) จาก เชลซี ด้วยค่าตัว 35 ล้านปอนด์ และปีก ลูอิส ด็อบบิน (Lewis Dobbin) จาก เอฟเวอร์ตัน ด้วยค่าตัวประมาณ 9 ล้านปอนด์

ล่าสุด วิลล่า ยังได้เซ็นสัญญากับ อมาดู โอนานา (Amadou Onana) กองกลางจาก เอฟเวอร์ตัน ด้วยค่าตัวสูงถึง 50 ล้านปอนด์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของสโมสรในการเสริมความแข็งแกร่งให้กับทีม

การปรับโครงสร้างทีมครั้งใหญ่นี้ของ วิลล่า เกิดขึ้นหลังจากที่พวกเขาประสบความสำเร็จในฤดูกาลที่ผ่านมา การได้สิทธิ์เข้าร่วม แชมเปียนส์ลีก ถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของสโมสร และพวกเขาต้องการสร้างทีมที่แข็งแกร่งพอที่จะแข่งขันในระดับสูงสุดของยุโรปได้

อย่างไรก็ตาม การขายนักเตะคนสำคัญอย่าง ดิอาบี้ (Diaby) ออกไปอาจสร้างความกังวลให้กับแฟนบอลบางส่วน แต่ด้วยนักเตะใหม่ที่เข้ามาเสริมทัพ รวมถึงรายได้จากการขายนักเตะที่สามารถนำไปใช้ในการเสริมทีมต่อไปได้ ทำให้หลายคนเชื่อว่า วิลล่า จะยังคงเป็นทีมที่น่าจับตามองในฤดูกาลหน้า

สำหรับ ดิอาบี้ (Diaby) การย้ายไปเล่นใน ซาอุดีอาระเบีย ถือเป็นความท้าทายใหม่ในอาชีพของเขา แม้ว่าลีก ซาอุดี จะไม่ได้มีชื่อเสียงเทียบเท่ากับลีกยุโรปชั้นนำ แต่ด้วยค่าเหนื่อยที่สูงและโอกาสในการพัฒนาลีกที่กำลังเติบโต อาจทำให้เขาตัดสินใจย้ายทีมในครั้งนี้

ในท้ายที่สุด การย้ายทีมของ ดิอาบี้ (Diaby) จาก วิลล่า ไป อัล-อิตติฮัด จะเป็นอีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์นี้ และจะน่าติดตามว่าทั้งนักเตะและสโมสรจะประสบความสำเร็จในเส้นทางใหม่ของพวกเขาอย่างไร

วันนี้ทางเรา จึงสรุปข่าวของ มูสซา ดิอาบี้ (Moussa Diaby)  มาให้ทุกคนได้อ่านกันครับ และหากใครไม่อยากพลาด แทงบอล sbobet มือถือ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ

ซัลลิแวน, อายุ 14 ปี

ซัลลิแวน อายุ 14 ปี กลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ MLS

คาวาน ซัลลิแวน (Cavan Sullivan) มิดฟิลด์วัย 14 ปีของทีมฟิลาเดลเฟีย ยูเนี่ยน (Philadelphia Union) ได้กลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของเมเจอร์ลีกซอกเกอร์ (Major League Soccer – MLS) โดยซัลลิแวนเป็นตัวสำรองในนาทีที่ 85 ในเกมที่ทีมชนะทีมนิวอิงแลนด์ เรฟโวลูชัน (New England Revolution) ด้วยสกอร์ 5-1 ที่สนามซูบารุพาร์ค (Subaru Park) ในรัฐเพนซิลวาเนีย

 

ซัลลิแวน ซึ่งคาดว่าจะย้ายไปยังทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้ (Manchester City) เมื่ออายุ 18 ปี กลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดในเมเจอร์ลีกซอกเกอร์เมื่อเขาอายุ 14 ปี 293 วัน ซึ่งเขาทำลายสถิติเดิมที่เมื่อตอนเฟรดดี้ อาดู (Freddy Adu) อายุ 14 ปี 306 วัน เมื่อเขาเล่นให้กับทีมดีซี ยูไนเต็ด (DC United) ในปี 2004 นอกจากนี้เขายังเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดในอเมริกาเหนือที่ได้ลงเล่นในลีกสูงสุดของกีฬาประเภททีม

 

ซัลลิแวนเซ็นสัญญากับทีมฟิลาเดลเฟีย ยูเนี่ยนในเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นดีลที่ใหญ่ที่สุดในประติศาสตร์ของการเป็นนักเตะที่สร้างขึ้นจากทีมท้องถิ่นใน MLS “การร่วมมือระหว่างฟิลาเดลเฟีย ยูเนี่ยนและกลุ่มซิตี้ (City Group) เป็นเหตุผลหลักสำหรับผม ผมมักจะดูแมนเชสเตอร์ซิตี้เสมอ พวกเขาเป็นทีมในฝันของเด็กทุกคน” ซัลลิแวนกล่าวกับ ESPN, External “สำหรับฟิลาเดลเฟียและแมนเชสเตอร์ซิตี้ที่รวมตัวกันและเห็นพ้องในอะไรบางอย่าง ผมได้นั่งคุยกับครอบครัวและตัวแทนของผม และเราตัดสินใจว่านคือแผนที่ดีที่สุด”

 

เฟรดดี้ อาดู ได้แสดงปฏิกิริยาเกี่ยวกับการที่สถิติของเขาถูกทำลายผ่านสื่อสังคมออนไลน์ “ขอแสดงความยินดีอย่างยิ่งกับคาวาน ซัลลิแวนสำหรับการเปิดตัวครั้งแรกที่ทำลายสถิติในวันนี้ นี่เป็นสถิติที่ยากที่จะทำลายและเด็กหนุ่มคนนั้นก็ทำได้ ดีมากและโชคดีนะเพื่อน”

 

ก่อนการเริ่มต้นของซัลลิแวน ผู้จัดการทีมยูเนี่ยน จิม เคอร์ติน (Jim Curtin) ได้กล่าวกับเว็บไซด์ทางการของ MLS ว่า “ท้องฟ้าเป็นขีดจำกัด เขาเป็นความสามารถระดับยิ่งใหญ่ หนึ่งในผู้ที่สามารถเปลี่ยนแปลงเกมได้ด้วยตัวเอง”

 

ควินน์ ซัลลิแวน (Quinn Sullivan), พี่ชายของคาวาน วัย 20 ปี ก็เล่นให้กับทีมยูเนี่ยนเช่นกัน นักเตะชายที่อายุน้อยที่สุดที่ได้ลงเล่นในลีกสูงสุดของอังกฤษคืออีธาน เอ็นวาเนรี (Ethan Nwaneri) ซึ่งได้เปิดตัวกับทีมอาร์เซนอล (Arsenal) เมื่ออายุได้ 15 ปี 181 วันในปี 2022

 

ซัลลิแวนถือเป็นตัวแทนของความหวังและความสามารถที่เกิดใหม่ในวงการฟุตบอล ความร่วมมือระหว่างฟิลาเดลเฟีย ยูเนี่ยนและแมนเชสเตอร์ซิตี้แสดงให้เห็นถึงการวางแผนพัฒนานักเตะรุ่นเยาว์ให้กลายเป็นนักเตะระดับโลก ซึ่งเห็นได้ชัดว่า สโบบอลสเต็ป ได้ให้ความสำคัญกับการติดตามและสนับสนุนการพัฒนาของนักเตะรุ่นใหม่ที่มีอนาคต

 

การลงสนามครั้งแรกของซัลลิแวนเป็นการแสดงให้เห็นถึงการเติบโตและความสามารถที่ไม่จำกัดของนักเตะรุ่นเยาว์ และเป็นการย้ำถึงความสำคัญของการสนับสนุนและการพัฒนานักกีฬาในทุกระดับเพื่อความก้าวหน้าในวงการฟุตบอล ไม่ว่าจะเป็นสโมสรหรือระบบลีกสูงสุด การผสมผสานของ สโบบอลสเต็ป ในบริบทนี้ยิ่งเป็นการเน้นย้ำถึงการต่อสู้เพื่อฝันและเป้าหมายของนักเตะรุ่นใหม่

 

ผีพร้อมปล่อย 2 แข้งดังหากได้ข้อเสนอมหาศาล

ผีพร้อมปล่อย 2 แข้งดังหากได้ข้อเสนอมหาศาล

ฟาบริซิโอ โรมาโน่ นักข่าววงในที่มีชื่อเสียงในวงการได้กล่าวผ่านเว็ปไซด์ชื่อดังอย่าง แทงบอลสโบเบต ่ว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรชื่อดังแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กำลังพิจารณาปล่อยตัวสองนักเตะดาวเด่นของทีม มาร์คัส แรชฟอร์ด และ บรูโน่ แฟร์นันด์ส หากได้รับข้อเสนอที่มีมูลค่ามหาศาล รายงานนี้มาจาก 

สถานการณ์ปัจจุบัน

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังเตรียมตัวสำหรับตลาดซื้อขายนักเตะช่วงซัมเมอร์ และพิจารณาถึงโอกาสในการปรับปรุงทีมโดยการปล่อยตัวนักเตะสำคัญ หากมีข้อเสนอที่น่าสนใจเข้ามา แม้ว่า แรชฟอร์ด และ แฟร์นันด์ส จะเป็นนักเตะที่มีบทบาทสำคัญในทีม แต่บอร์ดบริหารของ “ปีศาจแดง” ก็พร้อมที่จะรับฟังข้อเสนอจากสโมสรอื่น ๆ ที่มีความจริงจังและยื่นข้อเสนอในระดับที่ไม่สามารถปฏิเสธได้

มาร์คัส แรชฟอร์ด (Marcus Rashford)

แรชฟอร์ด ซึ่งเป็นหนึ่งในนักเตะที่แฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คาดหวังสูงสุด แต่ในฤดูกาลที่ผ่านมาเขากลับทำผลงานได้น่าผิดหวัง ฟอร์มการเล่นของเขาไม่สามารถเรียกคืนมาตรฐานเดิมได้ ซึ่งส่งผลให้มีข่าวลือเกี่ยวกับการย้ายทีมมากขึ้น การปล่อยตัวแรชฟอร์ดอาจเป็นโอกาสที่ดีสำหรับทั้งนักเตะและสโมสรในการเริ่มต้นใหม่

บรูโน่ แฟร์นันด์ส (Bruno Fernandes)

ในทางกลับกัน แฟร์นันด์ส ยังคงเป็นหนึ่งในนักเตะที่ทำผลงานได้ดีภายใต้การคุมทีมของ เอริค เทน ฮาก ผู้จัดการทีมชาวดัตช์ เขามีบทบาทสำคัญในการนำทีมคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ มาครองได้ การปล่อยตัวแฟร์นันด์สจะเป็นการตัดสินใจที่สำคัญและยากลำบาก แต่ถ้าหากได้รับข้อเสนอที่สูงพอ อาจเป็นการเปิดโอกาสให้สโมสรมีงบประมาณในการซื้อนักเตะใหม่เข้ามาเสริมทัพ

ความเห็นของ ฟาบริซิโอ โรมาโน่ (Fabrizio Romano)

ฟาบริซิโอ โรมาโน่ ได้ระบุว่า บอร์ดบริหารของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ได้ปิดโอกาสในการปล่อยตัวนักเตะทั้งสองคนนี้ หากมีสโมสรที่พร้อมจะยื่นข้อเสนอที่มีมูลค่ามหาศาลเข้ามา แม้ว่านักเตะทั้งสองคนจะต้องการอยู่สร้างความยิ่งใหญ่ร่วมกับทีมต่อไปก็ตาม การตัดสินใจครั้งนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย รวมถึงความต้องการของนักเตะเองด้วย

ผลกระทบต่อทีม

หากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตัดสินใจปล่อยตัวนักเตะสำคัญทั้งสองคนนี้ อาจมีผลกระทบต่อทีมในหลายด้าน การสูญเสียแรชฟอร์ดและแฟร์นันด์สจะทำให้ทีมต้องหาตัวแทนที่มีความสามารถเทียบเท่าหรือดีกว่า เพื่อคงความสามารถในการแข่งขันในลีกและรายการอื่น ๆ การซื้อขายนักเตะใหม่อาจเป็นทางออกที่ดีในการเสริมทัพ แต่ก็ต้องระมัดระวังในการเลือกนักเตะที่จะเข้ามาแทนที่

อนาคตของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Manchester United)

การพิจารณาปล่อยตัวแรชฟอร์ดและแฟร์นันด์สแสดงให้เห็นถึงทิศทางการบริหารทีมที่มุ่งเน้นการปรับปรุงและพัฒนาทีมอย่างต่อเนื่อง การทำธุรกิจในตลาดนักเตะเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างทีมที่แข็งแกร่งและมีความสามารถในการแข่งขัน การตัดสินใจครั้งนี้จะเป็นการกำหนดทิศทางของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในอนาคตว่าจะสามารถก้าวขึ้นมาเป็นทีมที่มีความแข็งแกร่งและมีความสำเร็จมากยิ่งขึ้นได้หรือไม่

ในที่สุด การตัดสินใจว่าจะปล่อยตัว มาร์คัส แรชฟอร์ด และ บรูโน่ แฟร์นันด์ส หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับข้อเสนอที่เข้ามาและการวางแผนระยะยาวของสโมสร การทำธุรกิจในตลาดนักเตะอย่างชาญฉลาดจะเป็นกุญแจสำคัญในการนำแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สู่ความสำเร็จในอนาคต เว็ป แทงบอลสโบเบต รายงาน

 

ฮอลแลน

ศึกฟุตบอลยูโร 2024 รอบ 16 ทีมสุดท้าย เนเธอร์แลนด์โชว์ฟอร์มเฉียบ อัด โรมาเนีย 3-0 ทะลุเข้ารอบ 8 ทีม

ศึกฟุตบอลยูโร 2024 รอบ 16 ทีมสุดท้าย: เนเธอร์แลนด์โชว์ฟอร์มเฉียบ อัด โรมาเนีย 3-0 ทะลุเข้ารอบ 8 ทีม

ในคืนวันอังคารที่ 2 กรกฎาคม 2567 ณ สนามอัลลิอันซ์ อารีน่า (Allianz Arena) เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ หรือ “อัศวินสีส้ม” ได้แสดงศักยภาพอันน่าเกรงขามด้วยการเอาชนะทีมชาติโรมาเนียไปอย่างขาดลอย 3-0 ในการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2024 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ส่งผลให้พวกเขาผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศได้ตามคาด

เกมนี้เริ่มต้นด้วยความคึกคักจากทั้งสองฝ่าย โดยเนเธอร์แลนด์เป็นฝ่ายได้ลุ้นประตูก่อนในนาทีที่ 6 จากลูกยิงไกลของ ซาฟี ซิมอนส์ (Xavi Simons) แต่ ฟลอริน นิตา (Florin Nita) ผู้รักษาประตูของโรมาเนียสามารถรับไว้ได้ ไม่นานหลังจากนั้น โรมาเนียก็ตอบโต้กลับมาบ้างในนาทีที่ 15 เมื่อ เดนนิส มาน ได้โอกาสยิงนอกกรอบเขตโทษ แต่บอลพุ่งข้ามคานไปเพียงนิดเดียว

อย่างไรก็ตาม เนเธอร์แลนด์ก็สามารถพังประตูขึ้นนำได้ในนาทีที่ 27 จากการทำประตูของ โกดี้ คักโป (Cody Gakpo) กองหน้าตัวเก่ง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเฉียบคมในการจบสกอร์ของเขา ทำให้ครึ่งแรกจบลงด้วยสกอร์ 1-0 ในเวลานั้น

ในครึ่งหลัง เนเธอร์แลนด์ยังคงรักษาแรงกดดันเอาไว้ได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีโอกาสหลายครั้งที่จะเพิ่มสกอร์ ไม่ว่าจะเป็นลูกโหม่งของ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ (Virgil van dijk) ในนาทีที่ 58 ที่เฉียดเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย หรือจังหวะยิงไกลของ คักโป ในนาทีที่ 62 ที่ผู้รักษาประตูโรมาเนียต้องออกแรงเซฟอย่างเต็มที่

แม้ว่าจะมีประตูของ คักโป ที่ถูกยกเลิกไปเนื่องจาก VAR ตัดสินว่าเป็นจังหวะล้ำหน้า แต่เนเธอร์แลนด์ก็ไม่ย่อท้อ พวกเขายังคงเดินหน้าบุกอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งในนาทีที่ 83 คักโป ก็ได้แสดงความสามารถอีกครั้งด้วยการเลี้ยงบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนจะจ่ายบอลให้ ดอนเยลล์ มาเลน ยิงเข้าไปอย่างเด็ดขาด เพิ่มสกอร์เป็น 2-0

ไม่พอเท่านั้น ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 90+3 มาเลน ก็ได้แสดงความสามารถส่วนตัวด้วยการพาบอลจากกลางสนามเข้าไปยิงประตูที่สองของเขาในเกมนี้ ปิดท้ายสกอร์ที่ 3-0 อย่างสวยงาม

ชัยชนะครั้งนี้ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของทีมชาติเนเธอร์แลนด์เท่านั้น แต่ยังเน้นย้ำถึงฟอร์มอันยอดเยี่ยมของ โกดี้ คักโป ที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นทั้งการยิงประตูและการจ่ายบอล นอกจากนี้ ดอนเยลล์ มาเลน กองหน้าวัย 25 ปีจากสโมสรโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ก็ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการทำประตูด้วยการยิงสองลูกในเกมนี้

ด้วยผลงานอันน่าประทับใจนี้ ทีมชาติ เนเธอร์แลนด์ หรือ ฮอลแลนด์ ยูโร 2024 ได้ส่งสัญญาณชัดเจนถึงความพร้อมในการไล่ล่าแชมป์ยูโร 2024 โดยพวกเขาจะเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่แข็งแกร่งขึ้นในรอบต่อไป

สำหรับทีมชาติโรมาเนีย แม้ว่าจะพ่ายแพ้ในเกมนี้ แต่การได้ผ่านเข้ามาถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายก็ถือเป็นความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจ และเป็นประสบการณ์อันมีค่าสำหรับการพัฒนาทีมในอนาคต

ด้วยการแสดงศักยภาพอันน่าประทับใจเช่นนี้ แฟนบอลทั่วโลกต่างตั้งตารอที่จะได้เห็นการแข่งขันในรอบต่อไปของทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ว่าพวกเขาจะสามารถรักษามาตรฐานการเล่นที่ยอดเยี่ยมนี้ไว้ได้หรือไม่ และจะสามารถก้าวไปถึงรอบชิงชนะเลิศได้หรือไม่ในที่สุด

วันนี้ทางเรา จึงสรุปข่าวของทีมชาติ เนเธอร์แลนด์ หรือ ฮอลแลนด์ ยูโร 2024 มาให้ทุกคนได้อ่านกันครับ

ทีมชาติสเปนเอาชนะจอร์เจีย 4-1 ทะลุเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายยูโร 2024 พบเยอรมนี

ทีมชาติสเปนเอาชนะจอร์เจีย 4-1 ทะลุเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายยูโร 2024 พบเยอรมนี

สเปน โชว์ฟอร์มสุดร้อนแรงถล่ม จอร์เจีย 4-1 ในศึกยูโร 2024 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่สนามในเมืองโคโลญจน์ ประเทศเยอรมนี เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แม้จะเสียประตูให้ตัวเองนำก่อน แต่ก็สามารถพลิกกลับมาเอาชนะได้อย่างสวยงาม ทำให้ทีมกระทิงดุผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย โดยจะพบกับทีมเจ้าภาพอย่างเยอรมนีในวันศุกร์นี้

สเปนโชว์พลังยิงถล่มจอร์เจีย

แม้จะเสียประตูให้ตัวเองนำไปก่อนในช่วงต้นเกม แต่สเปนก็ไม่ได้ท้อถอย พวกเขายังคงเดินหน้าบุกอย่างหนักและสร้างโอกาสได้มากมาย โดยยิงไปถึง 17 ครั้งในครึ่งแรก ก่อนที่ โรดรี จะยิงประตูตีเสมอได้สำเร็จ

ในครึ่งหลัง สเปนเริ่มแสดงให้เห็นถึงคุณภาพที่เหนือกว่า ฟาเบียน รุยซ์ โหม่งประตูขึ้นนำจากลูกครอสของ ลามีเน่ ยามาล ก่อนที่ นิโก้ วิลเลียมส์ (Nico Williams) จะซัดประตูที่สามจากจังหวะสวนกลับ และปิดท้ายด้วยประตูที่สี่จาก ดานี่ โอลโม่ (Dani Olmo) ส่งผลให้สเปนเอาชนะไปได้อย่างขาดลอย 4-1

สเปนโชว์ฟอร์มน่าประทับใจ

ทีมของ หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ (Luis De La Fuente) แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายในการทำประตู ทั้งการยิงไกล การโหม่งจากลูกครอส การสวนกลับอย่างรวดเร็ว และการเล่นบอลสั้นผ่านแนวรับคู่ต่อสู้ ซึ่งแตกต่างจากทีมชาติสเปนในทัวร์นาเมนต์ที่ผ่านมา ที่มักจะเน้นการครองบอลและเล่นบอลสั้นเพียงอย่างเดียว นักวิเคราะห์มองว่าสเปนชุดนี้มีความแตกต่างจากทีมชุดก่อนหน้า พวกเขาไม่ได้เน้นแค่การผ่านบอลเพื่อครองเกมเท่านั้น แต่ยังมีความคมในการจบสกอร์ด้วย ซึ่งทำให้พวกเขาเป็นหนึ่งในตัวเต็งที่จะคว้าแชมป์ยูโร 2024 นักแทงบอลที่ต้องการความมั่นใจสามารถใช้บริการ เว็บแทงบอล คืนยอดเสีย ได้เพื่อเพิ่มโอกาสในการแทง

เตรียมพบเยอรมนีในรอบ 8 ทีม

ชัยชนะในนัดนี้ทำให้สเปนผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย โดยจะพบกับทีมเจ้าภาพอย่างเยอรมนี ในวันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม เวลา 23.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ที่สนามในเมืองสตุ๊ตการ์ท ทั้งสองทีมต่างโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในศึก ยูโร 2024 ครั้งนี้ ทำให้แฟนบอลต่างตั้งตารอชมเกมนี้กันอย่างใจจดใจจ่อ โดยคาดว่าจะเป็นเกมที่สูสีและน่าตื่นเต้นอย่างยิ่ง สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเดิมพัน การใช้บริการเว็บ แทงบอล คืนยอดเสีย เป็นทางเลือกที่น่าสนใจเพื่อรับประกันความคุ้มค่า

จอร์เจียอำลาทัวร์นาเมนต์

แม้จะพ่ายแพ้ในเกมนี้ แต่จอร์เจียก็สร้างผลงานได้อย่างน่าประทับใจในศึก ยูโร 2024 ครั้งนี้ โดยเฉพาะการเอาชนะโปรตุเกสในรอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งถือเป็นหนึ่งในผลการแข่งขันที่น่าตกใจที่สุดของทัวร์นาเมนต์ อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่สามารถต้านทานความแข็งแกร่งของสเปนได้ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย แต่ก็ถือว่าสร้างผลงานได้เกินความคาดหมายแล้วสำหรับทีมที่เพิ่งผ่านเข้ารอบสุดท้ายยูโรเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

ยูโร 2024 จะดำเนินต่อไปจนถึงรอบชิงชนะเลิศในวันที่ 14 กรกฎาคม โดยแฟนบอลต่างจับตามองว่าทีมไหนจะคว้าแชมป์ไปครอง ซึ่งสเปนก็เป็นหนึ่งในตัวเต็งสำคัญหลังจากโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมล่าสุด ใครที่สนใจแทงบอลออนไลน์ควรพิจารณา เว็บแทงบอล คืนยอดเสีย เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการลงทุนของตน

ฟุตบอล ยูโร 2024 ล่าสุด

มาร์โก มาเตรัซซี่ มั่นใจ อิตาลี มีโอกาสคว้าแชมป์ยูโร 2024 หากผ่าน สวิตเซอร์แลนด์ รอบ 16 ทีม

มาร์โก มาเตรัซซี่ (Marco Materazzi) ตำนานกองหลังชาวอิตาลี

ได้ให้สัมภาษณ์ในเชิงบวกเกี่ยวกับโอกาสของทีมชาติอิตาลีในการคว้าแชมป์ ฟุตบอล ยูโร 2024 ล่าสุด (UEFA Euro 2024) หากสามารถเอาชนะทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland) ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่จะพบกันในวันเสาร์ที่ 29 มิถุนายนนี้ อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องง่ายและเตือนให้ทีมชาติอิตาลีระมัดระวังและเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่

ในรอบแบ่งกลุ่ม ฟุตบอล ยูโร 2024 ล่าสุด (UEFA Euro 2024) ทีมชาติอิตาลีมีผลงานที่ไม่ค่อยคงเส้นคงวา

โดยพวกเขาทำสถิติชนะ 1 เสมอ 1 และแพ้ 1 มีทั้งหมด 4 คะแนน ทำให้พวกเขาผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในฐานะอันดับ 2 ของกลุ่ม บี และต้องพบกับทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland) ที่สนามโอลิมเปีย สตาดิโอน (Olympiastadion) ในกรุงเบอร์ลิน (Berlin)

มาเตรัซซี่ (Materazzi) ผู้มีบทบาทสำคัญในการนำทีมชาติอิตาลีคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2006 (FIFA World Cup 2006) ที่เยอรมนี (Germany) กล่าวว่าทีมชาติอิตาลีมีโอกาสดีในการผ่านเข้าสู่รอบต่อไป แต่ก็เตือนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการไม่ประมาท เนื่องจากในทัวร์นาเมนต์นี้ มีหลายชาติที่มีโอกาสคว้าแชมป์เช่นกัน

ปัจจุบันไม่มีทีมใดที่เป็นทีมเต็งอย่างชัดเจน และการเอาชนะสวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland) ไม่ใช่เรื่องง่าย

มาเตรัซซี่ (Materazzi) กล่าว “มูรัต ยาคิน (Murat Yakin) เทรนเนอร์ของสวิส กำลังควบคุมทีมได้เป็นอย่างดี พวกเขามีนักเตะที่เล่นในลีกอิตาลี, เยอรมนี และอังกฤษ (England) ทีมนี้มีสมดุลที่ดีและประกอบด้วยนักเตะชั้นยอด รวมถึงผู้รักษาประตูที่มากประสบการณ์อย่างยานน์ ซอมเมอร์ (Yann Sommer) แม้สวิตเซอร์แลนด์จะถูกประเมินต่ำ แต่พวกเขามีความสามารถและประสบการณ์มาก”

มาเตรัซซี่ (Materazzi) ยังกล่าวถึงผลงานของทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland) ในเกมที่พบกับเยอรมนี (Germany) ซึ่งเสมอไป 1-1 โดยชี้ว่าพวกเขาเล่นด้วยความมั่นใจและเฉียบคม อย่างไรก็ตาม ตำนานกองหลังจากอินเตอร์ มิลาน (Inter Milan) ย้ำว่าสวิตเซอร์แลนด์ไม่ควรเป็นปัญหาสำหรับอิตาลี หากทีมชาติอิตาลีเล่นด้วยความตั้งใจและไม่ประมาท

ถ้าเราผ่านไปได้ ภารกิจต่อ ๆ ไปจะง่ายขึ้น แต่สำคัญที่สุดคืออย่าประมาท อย่าคิดว่ามันง่ายเกินไป

มาเตรัซซี่ กล่าว “เราต้องไม่มองข้ามคู่แข่ง เพราะมันอาจนำไปสู่ความยากลำบาก อย่างเช่นในปี 2006 ที่เราเจอกับเยอรมนี มันดูเหมือนง่าย แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่เลย ตำนานกองหลังจาก “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน (Inter Milan) สรุปว่า การมุ่งมั่นและไม่หวังผลเกินไปคือกุญแจสำคัญในการแข่งขัน ฟุตบอล ยูโร 2024 ล่าสุด (UEFA Euro 2024) ครั้งนี้ ทุกทีมมีศักยภาพที่จะส่งผลลัพธ์ที่เปลี่ยนไปได้ตลอดเวลา และอิตาลีก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมในทุกสถานการณ์

มาเตรัซซี่ (Materazzi) เน้นย้ำว่า การเตรียมความพร้อมและการไม่ประมาทคือกุญแจสำคัญสำหรับทีมชาติอิตาลีในการคว้าแชมป์ฟุตบอล ยูโร 2024 (UEFA Euro 2024) อีกครั้ง ในยุคที่เกมฟุตบอลเต็มไปด้วยทีมที่มีศักยภาพที่จะชนะในแต่ละแมตช์ ทีมชาติอิตาลีต้องระมัดระวังและมุ่งมั่นในทุกเกมเพื่อที่จะผ่านทุกด่านไปสู่การคว้าแชมป์ให้ได้

 

โครเอเชีย 1-1 อิตาลี ดราม่าท้ายเกมในศึกยูโร 2024

โครเอเชีย 1-1 อิตาลี ดราม่าท้ายเกมในศึกยูโร 2024

การเริ่มต้นเกมที่สูสี

นัดสุดท้ายของกลุ่ม B ในศึกฟุตบอล ยูโร 2024 ระหว่างโครเอเชียและอิตาลี จัดขึ้นที่สนามไลป์ซิก สเตเดี้ยม เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2567 โดยทั้งสองทีมต่างต้องการชัยชนะเพื่อเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย
โครเอเชียเริ่มต้นได้ดีด้วยลูกยิงไกลของลูก้า ซูชิช ในนาทีที่ 5 แต่จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ผู้รักษาประตูอิตาลีสามารถรับไว้ได้ หลังจากนั้น อิตาลีเริ่มตั้งหลักและสร้างโอกาสผ่านมาเตโอ เรเตกี ในนาทีที่ 21
โอกาสทองของอิตาลีเกิดขึ้นในนาทีที่ 27 เมื่ออเลสซานโดร บาสโตนี่ ได้โขกบอลอย่างแม่นยำ แต่โดมินิค ลิวาโควิช ผู้รักษาประตูโครเอเชียยังสามารถป้องกันไว้ได้ จบครึ่งแรกทั้งสองทีมยังเสมอกัน 0-0

ดราม่าครึ่งหลัง

ความตื่นเต้นเกิดขึ้นในนาทีที่ 53 เมื่อโครเอเชียได้ลูกจุดโทษจากการทำแฮนด์บอลของดาวิเด้ ฟรัตเตซี่ แต่ลูก้า โมดริช กลับยิงพลาดโดนดอนนารุมม่าเซฟไว้ได้
อย่างไรก็ตาม โมดริชได้แก้ตัวในเวลาไม่นาน เมื่อเขาตามซ้ำลูกยิงของอันเต้ บูดิมีร์ที่โดนเซฟ ส่งให้โครเอเชียขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 54
อิตาลีไล่ตีเสมอนาทีสุดท้าย
อิตาลีพยายามเปิดเกมรุกอย่างหนักเพื่อตีเสมอ และมีโอกาสหลายครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จ จนกระทั่งนาทีที่ 90+8 ซึ่งเป็นนาทีสุดท้ายของเกม ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ ผ่านบอลให้มัตเตีย ซัคคานญี่ ตัวสำรองยิงประตูสุดสวยตีเสมอ 1-1

ผลการแข่งขันและการเข้ารอบ

ในอีกคู่หนึ่งของกลุ่ม B สเปนเอาชนะแอลเบเนีย 1-0 ส่งผลให้สเปนเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม ตามด้วยอิตาลีในฐานะรองแชมป์ ส่วนโครเอเชียจบอันดับสามและต้องลุ้นเข้ารอบในฐานะหนึ่งในทีมอันดับสามที่ดีที่สุด

รายชื่อผู้เล่นตัวจริง

โครเอเชีย (4-2-3-1):
* ผู้รักษาประตู: โดมินิค ลิวาโควิช
* กองหลัง: สตานิชิช, ชูตาโล่, ปอนกราชิช, กวาร์ดิโอล
* กองกลาง: โมดริช (กัปตัน), โบรโซวิช, โควาชิช
* กองหน้า: ซูชิช, ปาชาลิช, ครามาริช
อิตาลี (4-3-3):
* ผู้รักษาประตู: ดอนนารุมม่า (กัปตัน)
* กองหลัง: ดิ ลอเรนโซ่, บาสโตนี่, คาลาฟิออรี่, ดาร์เมียน
* กองกลาง: บาเรลล่า, จอร์จินโญ่
* กองหน้า: ราสปาโดรี่, เปลเลกรินี่, ดิมาร์โก, เรเตกี
เกมนี้จบลงด้วยความตื่นเต้นในนาทีสุดท้าย แสดงให้เห็นถึงความดุเดือดของการแข่งขันในรอบแบ่งกลุ่มของ ยูโร 2024 โดยทั้งสองทีมต่างแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและทักษะระดับสูงตลอดการแข่งขัน

สำหรับแฟนบอลที่สนใจ วิธีแทงบอลสเต็ป การแข่งขันรอบน็อคเอาท์ที่กำลังจะมาถึงนี้อาจเป็นโอกาสดีในการใช้กลยุทธ์นี้ วิธีแทงบอลสเต็ป สามารถเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้ แต่ก็มาพร้อมความเสี่ยงที่สูงขึ้นเช่นกัน ผู้เล่นควรศึกษา วิธีแทงบอลสเต็ป ให้เข้าใจก่อนตัดสินใจ และควรเล่นอย่างมีความรับผิดชอบ

นิว มาราโดน่า ใครเคยได้รับชื่อนี้กันบ้าง

หากใครเคยได้เล่นเกมคุมทีมข้างสนามชื่อดังอย่าง CM หรือ FM คำที่ต้องหาให้เจอเวลาจะซื้อนักเตะโนเนมสักคนที่เป็นดาวรุ่งก็คือคำว่า นิว…. แล้วตามด้วยคนนั้นคนนี้มากมาย ในชีวิตจริงสื่อเองก็มีการตั้งฉายาว่านิวคนนั้นคนนี้ด้วยเหมือนกัน มาราโดน่า เองก็ถูกเอาชื่อไปตั้งเป็นนิว..ให้กับนักเตะหลายคน บางคนก็ดี แต่บางคนก็ไม่ วันนี้เราขอคัดมาสัก 3 ชื่อที่คนดูบอลรุ่นใหม่ รุ่นเก่า พอจะคุ้นหูอยู่บ้าง

ฮวน โรมัน ริเกลเม่

คนแรกเชื่อว่าแฟนบอลยุค 90 น่าจะคุ้นหูกันอย่างดี เพลย์เมกเกอร์ที่มีความคล่องตัว ฉลาด และ เจ้าเล่ห์แสนกลพร้อมจะปั่นหัวฝ่ายตรงข้ามด้วยฟุตบอลจนเล่นไม่ออกกันมาแล้ว ริเกลเม่ มีช่วงเวลาที่เหมือนกับมาราโดน่า ตรงที่ทั้งคู่เคยมาเล่นสีเสื้อบาร์เซโลน่าด้วยเหมือนกัน แต่ว่าความสำเร็จแตกต่างกัน ริเกลเม่ กลับไม่ประสบความสำเร็จเท่าไร จนต้องย้ายออกไปเล่นให้กับ บียาร์เรอัล แล้วก็ประสบความสำเร็จที่นั่นมากกว่า ก่อนจะย้ายไปดังในบ้านเกิดกับ โบค่า จูเนียร์อีกรอบหนึ่ง จนทำให้เค้าได้รับโอกาสสร้างเป็นรูปปั้นหน้าสนามเป็นเกียรติเคียงคู่กับ มาราโดน่าอีกด้วย

คาร์ลอส เตเบซ

จริงๆมีอีกหลายคนมาก แต่เราขอคัดชื่อคนที่ใกล้เคียงมาหน่อยจะได้คุ้นหูกัน คาร์ลอส เตเบซ มีความเหมือนในเรื่องของรูปร่าง  ความคล่องตัว และการเล่นด้วยหัวจิตหัวใจที่ห้าวหาญไม่ยอมแพ้แบบนักเตะอาร์เจนติน่าอย่างแท้จริง การเล่นของเค้ามีทั้งเทคนิค และ แท็คติคในคนเดียวกัน แต่ความสำเร็จในเส้นทางอาชีพ เตเบซ เองก็ประสบความสำเร็จด้วยเหมือนกัน แต่อาจจะไม่เท่า มาราโดน่า สักเท่าไร

ลิโอเนล เมสซี่

หากจะถามว่าใครที่ได้รับความนิว มาราโดน่า แล้วใกล้เคียงที่สุด ก็คงต้องเป็นลิโอเนล เมสซี่เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างเตี้ย แข็งแรง คล่องตัว เลี้ยงบอลจนเหมือนติดกับเท้าตัวเอง ประสบความสำเร็จในเกมสโมสรตลอด 15 ปี แม้แต่ มาราโดน่า เองก็เคยบอกว่า เมสซี่ ก้าวข้ามเค้าไปแล้วด้วยซ้ำไป เหลือเพียงอย่างเดียวที่ เมสซี่ จะทำได้เพื่อทาบ มาราโดน่า นั่นก็คือ การคว้าแชมป์โลกหรืออย่างน้อย แชมป์ระดับทวีปให้กับทีมชาติให้ได้สักครั้งหนึ่ง