เหตุผลว่าทำไม ฟอร์มและผลงานของดาเนี่ยล สเตอริดจ์ยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่นักหากเทียบกับฤดูกาลก่อน

ดาเนี่ยล สเตอริดจ์
ดาเนี่ยล สเตอริดจ์

หากพูดถึงทีมหงส์แดงลิเวอร์พูลของกุนซือ เบรนเดน ร็อดเจอร์กับผลงานในฤดูกาลนี้ที่ผ่านมานั้น ต้องบอกว่าตั้งแต่เข้าสู่ช่วงครึ่งฤดูกาลหลังนั้น ดูเหมือนทีมหงส์แดงลิเวอร์พูลนั้นจะทำผลงานได้ดีขึ้นพอสมควรเลย เพราะจะเห็นได้ว่า ทั้งฟอร์มและผลงานของลิเวอร์พูลตั้งแต่เข้าสู่ช่วงครึ่งฤดูกาลหลังนั้น พวกเขาทำผลงานได้ดีต่อเนื่อง สามารถเก็บชัยชนะได้อย่างต่อเนื่องติดต่อกัน ซึ่งหากเทียบกับผลงานในช่วงครึ่งฤดูกาลแรกแล้วนั้น เห็นได้ชัดเจนเลยว่าแตกต่างกันพอสมควร ซึ่งก็คงอาจจะเป็นว่า ทีมลิเวอร์พูลของร็อดเจอร์นั้นเริ่มลงตัวมากขึ้น และก็คงเป็นเพราะ พวกเขาได้กองหน้าตัวเก่งอย่างเจ้าดาเนี่ล สเตอริดจ์กลับมาช่วยทีมด้วย เพราะดูเหมือนการกลับมาของเจ้าดาเนี่ยล สเตอริดจ์นั้นทำให้เกมรุกของลิเวอร์พูลดูไหลลื่นขึ้น เลยทำให้ผลงานดูดีขึ้นตามมาด้วยนั่นเอง

แต่อย่างไรก็ดี พอเมื่อพูดถึงกองหน้าตัวสำคัญของลิเวอร์พูลอย่างเจ้า ดาเนี่ยล สเตอริดจ์แล้วก็ต้องบอกว่า แม้การได้เจ้ากองหน้าคนนี้กลับมาช่วยทีมอีกครั้ง จะมีส่วนทำให้ลิเวอร์พูลเริ่มมีผลงานที่ดีขึ้นก็ตาม แต่ทว่าถ้าหากพูดถึงฟอร์มโดยรวมของเจ้า ดาเนี่ยล สเตอริดจ์ ที่ผ่านมาแล้ว ก็ต้องบอกว่าฤดูกาลนี้เขายังโชว์ผลงานออกมาได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก หากเมือเทียบกับฤดูกาลที่แล้ว เพราะมีหลายๆเกมเหมือนกันที่เขา แทบเล่นไม่ออกเลยแถมยังไม่สามารถยิงประตูให้กับทีมได้ด้วย เลยทำให้หลายๆคนเริ่มแอบสงสัยไม่ได้ว่า มันเกิดอะไรขึ้นกับเขา ทำไมฟอร์มที่เคยร้อนแรงเหมือนในฤดูกาลก่อนนั้น ถึงหายไปพอสมควรเลย ดังนั้นสำหรับในบทความนี้ เลยจะมาดูกันว่าสาเหตุเกิดจากอะไรนั่นเอง

สำหรับสาเหตุแรกนั้น น่าจะเป็นเพราะ เจ้าตัวพึ่งหายเจ็บยาวกลับมานั่นเอง นั่นก็เพราะว่าด้วยก่อนหน้านี้ เจ้าดาเนี่ยล สเตอริดจ์ ต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บยาวหลายเดือนเลย การที่เขาไม่ลงสนามนานๆ อาจจะส่งผลต่อความฟิตของเขา จึงไม่แปลกเท่าไหร่ที่จะเห็นได้ว่า แม้ได้กลับมาลองสนามอีกครั้ง เจ้าดาเนี่ยล สเตอริดจ์ เลยยังไม่สามารถโชว์ฟอร์มออกมาได้ดีเท่าไหร่ เพราะจริงๆแล้วก็พึ่งได้ลงสนามไปเพียงไม่กี่นัดเท่านั้น เพราะเขายังไม่ฟิตเต็มที่ ซึ่งจะเห็นได้ว่า หลายเกมที่ผ่านมา ร็อดเจอร์เลยยังคงให้เขาเป็นตัวสำรองหลายเกมอยู่เหมือนกันนั่นเอง

สำหรับสาเหตุต่อมาก็คือ อาจจะเป็นเพราะการขาดกองหน้าอย่างหลุยส์ ซัวเรสไปอีกคนด้วย เพราะดูเหมือนว่าเจ้าดาเนี่ยล สเตอริดจ์ จะโชว์ฟอร์มได้ดีหากว่า ได้เล่นแบบกองหน้าสองคนแบบเจ้าหลุยส์ ซัวเรส นั่นก็เพราะ ก่อนหน้านี้ยามที่ได้เล่นกับซัวเรสนั้น เจ้าดาเนี่ยล สเตอริดจ์จะเล่นง่ายขึ้นเพราะว่า ซัวเรสสามารถเก็บบอลและพักบอลในแดนหน้าได้ แถมยังช่วยดึงตัวประกบออกไปได้หลายคน ก็เลยทำให้ดาเนี่ยล สเตอริดจ์ เล่นง่ายขึ้นเลยส่งผลทำให้โชว์ผลงานออกมาได้ดี แต่พอมาฤดูกาลนี้ เจ้าตัวต้องมารับบทบาทเล่นหน้าเป้าคนเดียว ก็เลยทำให้เล่นยากขึ้น เพราะไม่มีตัวดึงตัวประกบให้ และเข้าก็ไม่เก่งเรื่องการเก็บบอลและพักบอล บวกกับยังฟิตเต็มที่ด้วยแล้ว จึงไม่แปลกที่ทำไมฤดูกาลนี้ ดาเนี่ยล สเตอริดจ์ ถึงยังโชว์ฟอร์มไม่ค่อยออกนั่นเอง.

บางทีแมนยูควรน่าจะลองให้โอกาสกับราดาเมล ฟัลเกาในฤดูกาลหน้าอีกซักฤดูกาล!

ราดาเมล ฟัลเกา
ราดาเมล ฟัลเกา

หากพูดถึงเกี่ยวตลาดซื้อขายนักเตะช่วงแรกของฤดูกาลนี้นั้น คงไม่อาจจะปฏิเสธได้เลยว่า สำหรับทีมแมนชเสเตอร์ยูในเต็ดของกุนซือหลุยส์ ฟาล ฮาลนั้นถือว่าเป็นทีมที่เสริมทีมในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะรอบแรกชนิดที่ว่า สร้างความฮือฮาให้กับพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ไม่น้อยเลย นั่นก็เพราะว่า ฤดูกาลนี้แมนยูนั้นได้หันมาทุ่มกับการเสริมทีมเป็นจำนวนไม่น้อยชนิดที่ว่า ไม่ค่อยได้เห็นกันเท่าไหร่นัก ด้วยการดึงสองนักเตะซุปตาร์ดังอย่าง อังเคิล ดิมาเรีย และยอดกองหน้าตัวเก่งอย่างเจ้าราดาเมล ฟัลเกามาเสริมทีมนั่นเอง

ซึ่งแน่นอนว่าหลังจากทันทีที่ได้รู้ว่า แมนยูได้เสริมทีมด้วยการดึงทั้งสองซุปตาร์ดังทั้งดิมาเรีย และราดาเมล ฟัลเกามาเสริมทีมนั้น ก็เล่นเอาหลายๆคนถึงกับอยากเห็นฟอร์มของทั้งสองคนไม่น้อยเลยสำหรับในช่วงแรก และในขณะเดียวกันก็เล่นเอาเหล่าแฟนๆของแมนยูเองนั้น ได้ตั้งความคาดหวังจากทั้งสองคนเอาไว้สูงเหมือนกัน โดยในตอนแรกนั้นเสียงส่วนใหญ่ต่างเชื่อกันว่า ทั้งสองคนนี้น่าจะช่วยพาทีมแมนยูนั้นทำผลงานในฤดูกาลนี้ได้ดีแน่นอน แต่แล้วหลังจากศึกการแข่งขันได้เปิดฤดูกาลผ่านเข้าสู่ช่วงครึ่งฤดูหลังเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น ดูเหมือนผลงานที่ผ่านมาจากทั้งสองคนนั้น จะเล่นเอาผิดหวังพอสมควรนั่นเอง

โดยทั้งนี้สำหรับในส่วนของเจ้าอังเคิล ดิมาเรียนั้น โดยรวมยังถือว่าทำผลงานได้ค่อนข้างดีพอสมควรระดับหนึ่ง แต่ทว่าสำหรับในส่วนของเจ้าราดาเมล ฟัลเกานั้น ฟอร์มและผลงานที่ออกมาค่อนข้างน่าผิดหวังพอสมควร เพราะดูเหมือนจากผลงานที่ผ่านมานั้น ฟอร์มที่เคยเก่ง ฟอร์มที่เคยพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาคือหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดของยุโรปมาก่อนนั้น หายไปพอสมควรเลย จนสุดท้ายด้วยฟอร์มที่น่าผิดหวังดังกล่าวของเจ้าดาราเมล ฟัลเกานี้นั่นเอง ทำให้มีกระแสข่าวว่า แมนยูอาจจะส่งตัวเขากลับทีมต้นสังกัดอย่างโมนาโกก่อนกำหนด เนื่องจากทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวังนั่นเอง

ซึ่งแน่นอนว่า หากดูจากผลงานที่ผ่านมาของเจ้า ราดาเมล ฟัลเกา กับแมนยูในฤดูกาลนี้นั้น จะถือว่าค่อนข้างทำได้อย่างน่าผิดหวังจนน่าส่งตัวกลับจริงๆก็ตาม แต่ถึงกระนั้นโดยส่วนตัวแล้วก็อยากให้แมนยู ลองให้โอกาสกับเขาต่ออีกซักฤดูกาล ซึ่งก็คือฤดูกาลหน้า สำหรับเหตุผลก็คือโดยส่วนตัวนั้นยังแอบคิดว่า เจ้าราดาเมล ฟัลเกานั้นยังมีดีอยู่แม้ฟอร์มตกก็ตาม เพราะคิดว่าส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาฟอร์มตกนั้น น่าจะมีส่วนมากจากฟอร์มของทีมแมนยูเองด้วย เพราะจะเห็นได้ว่าในตอนนี้ ระบบการเล่นของแมนยูภายใต้การคุมทีมของกุนซือหลุยส์ ฟาล ฮาลนั้น ยังไม่มีอะไรที่ลงตัวชัดเจนเท่าไหร่ หรือจะบอกว่าทรงบอลยังไม่เป็นรูปเป็นร่างเท่าที่ควร เพราะดูเหมือนหลุยส์ ฟาล ฮาลนั้นยังไม่สามารถหาระบบการเล่นที่ลงตัวที่สุดสำหรับแมนยูได้ ดังนั้นเลยคิดว่าจึงไม่แปลกใจเท่าไหร่นักที่ ราดาเมล ฟัลเกา จะฟอร์มไม่ดีเท่าที่ควร เพราะจากผลงานที่ผ่านมานั้น ราดาเมล ฟัลเกา จะโชว์ผลงานได้ก็ต่อเมื่อ ได้เล่นกับทีมที่ระบบการเล่นค่อนข้างลงตัวกว่าแมนยูในตอนนี้นั่นเอง.

ถ้าฤดูกาลนี้ โรม่าไปไม่ถึงแชมป์อีกครั้ง ฤดูกาลหน้าพวกเขาจะต้องเสริมทีมให้มากขึ้น!

โรม่า
โรม่า

เชื่อเหลือเกินว่า หากถามว่าทีมใดของลีกกัลป์โซ่ ซีเรียอาร์อิตาลีในฤดูกาลที่แล้ว ที่ทำผลงานได้อย่างค่อนข้างเซอร์ไพร์พอสมควร และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมรองจากทีมยูเวนตุสนั้น เชื่อว่าคงไม่ใครปฏิเสธได้แน่นอนหากว่า จะยกตำแหน่งดังกล่าวให้ทีมเอเอสโรม่าของกุนซือ รูดี้ การ์เซียนั่นเอง เพราะสำหรับผลงานของโรม่าในฤดูกาลที่ผ่านมานั้น พวกเขาทำผลงานกันได้อย่างเยี่ยมยอดจริงๆ เพราะสามารถก้าวขึ้นมาลุ้นแชมป์แบบเต็มตัวได้สำเร็จ แม้ว่าจะจบฤดูกาลด้วยการคว้าตำแหน่งรองแชมป์ก็ตามนั่นเอง

และด้วยฟอร์มอันร้อนแรงของโรม่าตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้วนั่นเอง ทำให้ในฤดูกาลนี้โรม่าเป็นหนึ่งในทีมที่หลายๆคน ให้ความสนใจและจับตามองเป็นพิเศษสำหรับเส้นทางการลุ้นแชมป์ของลีกอิตาลี เพราะหลายๆคนมองว่าฤดูกาลนี้โรม่านั้นอาจจะก้าวขึ้นมาแย่งแชมป์จากยูเวนตุสได้สำเร็จก็ได้ นั่นก็เพราะด้วยฤดูกาลนี้แชมป์เก่าอย่างยูเวนตุสมีการเปลี่ยนภายในสโมสรเกิดขึ้น เพราะว่าได้มีการเปลี่ยนกุนซือคนใหม่ หลังจากกุนซือคนเก่งอย่างอันโตนิโอ คอนเต้ได้ลาออกไป ทำให้หลายๆคนเชื่อว่า การเปลี่ยนกุนซือใหม่ของยูเวนตุสในครั้งนี้ น่าจะส่งผลต่อเรื่องผลงานของทีมพอสมควร และน่าจะเป็นโอกาสที่ทำให้โรม่าก้าวขึ้นมาแย่งแชมป์ไปครองได้แทนนั่นเอง

แต่อย่างไรก็ดี แต่พอหลังจากที่ศึกการแข่งขันได้เดินทางผ่านเข้าสู่ช่วงครึ่งฤดูกาลหลังเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น ดูเหมือนผลที่ออกมานั้น กลับกลายเป็นว่ายูเวนตุสยังคงทำผลงานได้ดีกว่าโรม่าเหมือนเดิม แถมในตอนนี้ยูเวนตุสก็เริ่มทิ้งคะแนนห่างโรม่าไปเรื่อยๆอีกด้วย ซึ่งหากมองจากความน่าจะเป็นในตอนนี้ก็คงต้องบอกว่า ทางด้านยูเวนตุสนั้นมีโอกาสที่จะคว้าแชมป์ในฤดูกาลนี้มาครองได้สำเร็จอีกครั้งสูงเลยทีเดียว แต่ถึงกระนั้นก็คงต้องรอดูกันต่อไป ว่าโรม่าจะไล่ตามทันได้รึเปล่า เพราะยังไงโอกาสก็ยังเปิดกว้างอยู่เหมือนกัน แต่ถ้าเกิดว่าสุดท้ายแล้ว ฤดูกาลนี้โรม่ายังไปไม่ถึงแชมป์อีกครั้งนั้น เห็นทีว่าฤดูกาลหน้า พวกเขาควรจะต้องปรับปรุงทีมให้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะถ้าพวกเขายังหวังคว้าแชมป์ในฤดูกาลหน้านั้น สโมสรจะต้องเสริมทีมให้มากขึ้นกว่าเดิม

สำหรับเหตุผลว่าทำไมถึงมองว่า ฤดูกาลหน้าโรม่าควรเสริมทีมให้มากขึ้นนั้น นั่นก็เพราะว่า หลังจากที่ได้ติดตามดูฟอร์มและผลงานของโรม่าในฤดูกาลนี้แล้ว พบว่าสิ่งที่พวกเขากำลังเป็นปัญหาอยู่ก็คือ ทีมยังขาดนักเตะหมุนเวียนน้อยเกินไป โดยเฉพาะนักเตะที่สามารถทดแทนกันได้ ยกตัวอย่างเช่นช่วงที่ผ่านมา พวกเขาขาดตัวรุกตัวเก่งอย่างแชร์วิญโญ่ไปเห็นได้ชัดว่า ส่งผลกระทบต่อทีมจริงๆ ทำให้ทีมเริ่มสะดุดทันที จนเป็นเหตุให้พวกเขาพลาดการเก็บสามแต้มสำคัญไปหลายนัดเหมือนกัน ดังนั้นเลยทำให้คิดว่า ถ้าในฤดูกาลหน้าพวกเขาอยากที่จะไปให้ถึงเป้าหมายคือการคว้าแชมป์ให้ได้ ก็ควรเสริมทีมเข้ามาเพิ่มอีก เพราะอย่างที่กล่าวเอาไว้ในตอนนี้ ขุมกำลังทดแทนของโรม่าที่มี ยังน้อยเกินไป นั่นเอง.

สถานีลูกหนังต่อไป ของ แฟรงค์ แลม์พาร์ด

แฟรงค์ แลม์พาร์ด

ถือว่าเป็นข่าวออกมาติดๆกันเลย นั่นก็คือ ข่าวการอำลาทีมของ แฟรงค์ แลมพาร์ดที่ตอนนี้กำลังจะเป็นอดีตนักเตะของนิวยอร์ค ซิตี้ ทีมดังของลีคในสหรัฐ(เมเจอร์ลีค ซอคเกอร์) ซึ่งหากดูสถิติแล้วจะเห็นว่า แลมพ์ ยังมีดีอยู่อีกเยอะเลย ลงเล่น 31 เกม ยิงไป 15 ประตู น่าเสียดายที่ต้องจากทีมไปเสียแล้ว ว่าแต่สถานีลูกหนังต่อไปนะเป็นที่ไหน

กลับเกาะอังกฤษ

สถานีแรกที่นึกถึงน่าจะเป็นการกลับมาเล่นในเกาะอังกฤษอีกครั้ง แต่การกลับมาครั้งครั้นจะให้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีคเลยดูจะไม่ใช่เสียแล้ว การได้เล่นเกมที่สปีดไม่แรงมาก อย่างสกอตติช พรีเมียร์ลีคที่ กลาสโกว์ เซลติค หรือจะไปเล่นในดิวิชั่น 1 อย่างนิวคาสเซิ่ล น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีและน่าสนใจของแลมพ์

ไปโกยเงินที่ลีคจีน

แต่ถ้าหากต้องการจะไปเก็บเงินก้อนสุดท้ายจริงๆ การไปลองเล่นในลีคจีนตอนนี้ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยเลย เพราะเงินกำลังเฟื่องฟูอย่างมาก ค่าเหนื่อยน่าจะจ่ายได้ในระดับที่แลมพ์ต้องการ นอกจากนั้นยังมีเพื่อนนักเตะที่เดินทางไปค้าแข้งอยู่ที่นั่นอีกเยอะ น่าจะทำให้แลมพ์ ปรับตัวได้อย่างไม่ยาก ไม่แน่อาจจะได้ไปร่วมทีมกับ บิ๊กฟิล ฟิลิปเป้ สโคลารี่ ที่เคยร่วมงานระยะหนึ่งที่เชลซีอีกก็เป็นได้ หรือจะเป็น สเวน นายเก่าสมัยทีมชาติอังกฤษก็ไม่เลวนะ

ขึ้นชั้นสู่การเป็นโค้ช

อีกสถานีหนึ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับลูกหนังก็คือ การขึ้นชั้นไปเป็นโค้ช หรือผู้จัดการทีมตรงนี้ส่วนตัวมองว่า แลมพ์ น่าจะทำได้ดี เพราะเป็นคนสุภาพ นิ่งๆเงียบๆ แถมหัวก็ดีด้วย ถ้าหากเอาประสบการณ์ที่ผ่านโค้ชชั้นยอดมาหลายคนทั้งในนามทีมชาติและสโมสรมาประยุกต์ใช้เป็นแนวทางของตัวเองล่ะก็ น่าจะทำได้ดีเลยแหละ หรือหากไม่รู้จะไปไหนจริง มาเล่นไทยลีคไหมละ อิอิ

sbobet ชี้เป้า ควรดึงตัว ฮาเมส โรดริเกซ เข้าช่วยทีมเชลซี!

มีข่าวจาก sbobet แว่วมาอีกแล้ว สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน วันนี้เราก็ยังคงอยู่กับข่าวการซื้อขายนักเตะของเชลซีนะครับ เพราะว่าการฟอร์มทีมให้แข็งแกร่ง การเลือกนักเตะจึงมีส่วนเป็นอย่างมาก หากเลือกนักเตะที่ดีมาร่วมทีมได้แล้ว โอกาสชนะก็เพิ่มขึ้นอีกเป็นอย่างมาก ส่วนจะมีใครบ้างที่เข้าตาลองอ่านด้านล่างได้เลย อ่านเสร็จแล้วถ้าคันไม้คันมืออยากแทงบอลขึ้นมา เรามีโปรโมชั่นเด็ดๆสำหรับแฟนบอล sbobet ทุกท่าน อย่าลืมเข้ามาดูโปรโมชั่นทีเด็ดของเรานะครับ แทงบอลกับเรา สนุก ปลอดภัย ได้เงินชัวร์

sbobet

หลังจากที่ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีกฤดูกาลที่ผ่านมา ได้ปิดฤดูกาลไปซักระยะหนึ่งแล้ว จะเห็นได้ว่าตอนนี้ หลายๆทีมกำลังหมกหมุ่นกับการเสริมทีมเพื่อต้อนรับฤดูกาลใหม่กันวุ่นวายเลยทีเดียว โดยเฉพาะทางด้านทีมสิงห์ไฮโซเชลซี ดูเหมือนจะเป็นทีมที่น่าสนใจและน่าติดตามไม่น้อย นั่นก็เพราะว่าช่วงที่ผ่านมา เป็นอีกครั้งที่ยอดทีมดังจากกรุงลอนดอน ได้ทำการเปลี่ยนกุนซือคนใหม่ของทีม จากอันโตนิโอ คอนเต้ เป็น เมาริซิโอ้ ซารี่นั่นเอง

และด้วยการที่ฤดูกาลหน้านี้ เชลซีจะเล่นใต้การทำทีมของกุนซือคนใหม่อีกครั้ง เลยมองว่า เชลซีเป็นทีมที่น่าสนใจและน่าติดตาม ว่าผลงานของทีมจะอย่างไร เพราะหนึ่งในสิ่งที่น่าสนใจก็คือ ฤดูกาลหน้านี้ สไตล์การเล่นของเชลซีจะเปลี่ยนไปเยอะแน่นอน นั่นก็เพราะว่า กุนซือคนใหม่อย่าง ซารี่ เป็นกุนซือที่เน้นทำทีมแบบเน้นเกมบุกเป็นหลัก ซึ่งจะแตกต่างกับกุนซือคนเก่าอย่างมูริญโญ่ และคอนเต้ ก่อนหน้านี้ที่เน้นเกมรับแบบรัดกุมเป็นหลักนั่นเอง และแน่นอนว่า เมื่อทีมจะเปลี่ยนสไตล์การเล่น ซารี่ก็คงอยากหานักเตะที่เข้ากับแผนการเล่นของเขาด้วย ส่วนตัวแล้วเลยอยากจะแนะนำหนึ่งในตัวเลือกที่ซารี่ควรดึงตัวมาช่วยทีม นั่นก็คือ ฮาเมส โรดริเกซ นั่นเอง

สำหรับเหตุผลว่าทำไม มองว่า เมาริซิโอ้ ซารี่ควรดึงตัว ฮาเมส โรดริเกซ มาช่วยทีมที่เชลซีนั้น นั่นก็เพราะมองว่า ฮาเมส โรดริเกซ น่าจะเข้ากับแผนการเล่นของซารี่ได้ดีแน่นอน เพราะ ฮาเมส โรดริเกซ เป็นนักเตะที่จ่ายบอลทะลุช่องได้โดดเด่นมาก ซึ่งตอนนี้นักเตะที่ทำแบบนี้ได้ที่เชลซีมีอยู่ คือแค่เชส ฟาเบรกัสเท่านั้น ซึ่งเจ้าตัวเองก็อายุเข้าเลขสามไปแล้ว หากได้ ฮาเมส โรดริเกซ มาช่วยเสริมทีมอีกคน น่าจะทำให้การปั้นเกมของเชลซีในแดนกลางดูมีความหลากหลายมากขึ้น และจะได้เป็นการกระตุ้นฟอร์มของนักเตะที่เหลือในตำแหน่งนี้ อย่างจอร์จินโญ่ไปในตัวด้วย

ในปัจจุบันนั้น จะเห็นได้ว่า เดี๋ยวนี้ไม่ว่าอะไรๆก็เน้นระบบออนไลน์ผ่านมือถือกันทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่วงการแทงบอลออนไลน์เอง เดี๋ยวนี้เหล่านักพนันก็หันไปแทงบอลออนไลน์กันมากขึ้น และ sbobet ก็คือเว็บแทงบอลออนไลน์ที่มาแรงในตอนนี้ ซึ่งปัจจุบัน ระบบของ sbobet ก็พัฒนามากขึ้นกว่าเดิม เล่นผ่านมือถือได้ เพิ่มความสะดวกมากขึ้น ทำให้เดี่ยวนี้ หลายๆคนเลยหันไปใช้บริการกับ sbobet กันมากขึ้นกว่าเดิม

สถิติของรูน ที่ไม่น่าจะมีใครมาทำลายได้แล้ว

หลังจากที่รูน สามารถทำลายสถิติดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของสโมสรโดยฝีเท้าของท่านเซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ตันลงได้ ก็มีเสียงสรรเสริญมาจากรอบทิศทางถึงการทำประตูมาได้ตลอดเวลา ส่วนตัวมองว่าสถิตินี้ของรูน คงจะอยู่ได้อีกเป็นอย่างน้อยก็ 30-40 ปีอย่างแน่นอน(ยกเว้นถ้ายกเลิกกฏล้ำหน้าไปเสียก่อน) นั่นเป็นเพราะว่า

การเล่นกองหน้าที่ยากมากขึ้น

การเล่นกองหน้านั้นต้องยอมรับว่าไม่ว่าจะสมัยไหนมันก็มีความยากในตัวมันเอง ยิ่งในอนาคตเรื่องของการฟื้นฟูสภาพร่างกายดีขึ้น การเล่นได้ยาวนานมากขึ้น นั่นทำให้กองหน้าจะต้องเล่นได้ยากมากขึ้นไปด้วย การเจอกับกองหลังแต่ละทีมต้องบอกว่าไม่ง่ายเลยเดี๋ยวนี้ แต่ละคนแข็งแกร่งดั่งหินผาด้วยกันทั้งนั้น ทำให้การที่จะต้องยิงให้ได้อย่างน้อยฤดูกาลละ 20 ประตูขึ้นไปเป็นจำนวนอย่างน้อย 12 ฤดูกาลติดกัน บอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องง่ายอีกแล้ว

การลงตัวจริงยากมาขึ้น

ไม่เพียงแค่คู่ต่อสู้จะแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น การได้ลงเล่นกองหน้าก็จะยากขึ้นไปด้วย เนื่องจากแท็คติคสมัยนี้เน้นไปที่การครองบอลกลางสนามมากว่า ทำให้โควต้าในแดนหน้าลดน้อยลง ส่วนใหญ่มักจะเป็นศูนย์หน้าตัวเป้าอย่างเดียว การเล่นหน้าคู่นี่ไม่ค่อยเห็นแล้ว นั่นทำให้โอกาสการลงสนามน้อยลงและยากมากขึ้น นั่นจึงทำให้การทำประตูให้ได้มากๆยากขึ้นไปด้วย

การอยู่ทีมเดียว 10 ปีขึ้นไปยากขึ้น

เรื่องสุดท้ายที่มีผลอย่างมากก็คือ การที่นักเตะคนหนึ่งจะจงรักภักดีกับสโมสรเดิมยาวนานเป็น 10 ปีเหมือนเมื่อก่อนนั้นยากแล้ว เพราะเหล่าบรรดาเอเย่นต์ต่างก็เป่าหูเพื่อให้ได้ย้ายตลอด(ได้ฟันส่วนต่างค่าเหนื่อยและค่าย้าย) นั่นทำให้การสร้างสถิติอย่างต่อเนื่องนั่น ทำได้ยากมากแล้วในอนาคต ยังไงก็ต้องขอสดุดีรูน ไว้ตรงนี้ด้วยอีกคน

 

ทำไมคล็อป์เปลี่ยนตัวนักเตะช้า

ช่วงนี้ถือว่าบรรดาสื่อมวลชนอังกฤษกำลังเบนเป้าหมายใหม่แล้ว จากที่กำลังถล่มเป๊บ กวาดิโอลาร์ ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้มาได้สักพักหนึ่ง คราวนี้บรรดาสื่อกำลังจะตามองไปที่การทำทีมของเจอร์เกน คล็อปป์ของลิเวอร์พูล ยิ่งหลังจากตกรอบลีคคัพจากน้ำมือของเซาท์แธมป์ตันโดยแพ้ทั้งสองนัด ยิ่งทำให้เริ่มมีเสียงบ่นกันแล้ว โดยเฉพาะเรื่องการเปลี่ยนตัวช้า

ขาดตัวสำรองที่พลิกเกมได้

สิ่งที่ทำให้คล็อปป์ต้องเจอกับเครื่องหมายคำถามตลอดอยู่ช่วงนี้ก็คือ การเปลี่ยนตัวที่ช้ากว่าที่คิดไว้ บางเกมกว่าจะเปลี่ยนตัวครั้งแรกก็ปาไปนาที่ 70 กว่าๆแล้ว แน่นอนว่าการเปลี่ยนตัวช้าบางครั้งมันก็แก้ไขสถานการณ์ไม่ได้ ส่วนตัวมองว่าเหตุผลแรกที่ทำให้เปลี่ยนตัวช้าก็คือ ที่ซุ้มม้านั่งสำรองลิเวอร์พูลพวกเค้าขาดนักเตะที่พลิกเกมมากๆ ในเกมที่ต้องการประตูก็ไม่มีกองหน้า เกมที่ต้องรักษาผลสกอร์ก็ขาดกองกลางตัวตัดเกม หรือกองหลังดีๆ เลยทำให้ไม่รู้จะเปลี่ยนใคร

นักเตะที่ลงสนามเล่นดีอยู่แล้ว

เหตุผลที่สองของการเปลี่ยนตัวช้าก็คือ นักเตะที่ลงเล่นในสนามนั่นดีอยู่แล้ว ทำให้การเปลี่ยนตัวนักเตะใหม่ลงไปอาจจะทำให้เสียจังหวะ และกระแสของเกมได้ ทางคล็อปป์ก็เลยไม่อยากจะเสี่ยงเปลี่ยนตัวนักเตะลงไป เพราะมีหลายครั้งเหมือนกันที่นักเตะที่เปลี่ยนลงไปใหม่ ตามกระแสเกมไม่ทันเลยทำให้ทีมเสียผลประโยชน์ ไม่เชื่อลองถามแฟนผีกับกรณีของเจ้าฟูดูสิ

หาแท็คติคแก้เกมยังไม่ได้

สาเหตุสุดท้ายที่ไม่อยากจะเขียนออกมาเลยก็คือ เจอร์เกน คล็อปป์ ยังไม่สามารถหาแท็คติคสำหรับการแก้เกมได้ โดยเฉพาะการแก้ไขแผนรถบัสที่พอได้เจอเกมรับเหนียว โต้กลับสวยๆทีไร ไปไม่เป็นทุกที ส่วนตัวมองว่าคล็อปป์รู้ว่าต้องทำยังไงแหละ แต่บางทีมันก็ยังหาจุดอ่อนไม่เจอ กว่าจะเจอก็ช้าเกินไปเสียแล้ว

กลยุทธ์รุ่นพี่กวักมือเรียกมาแล้ว

การดึงดูดนักเตะ หรือถ้าเรียกให้ง่ายๆก็คือ การโน้มน้าวนักเตะ นอกจากจะใช้วิธีพื้นๆธรรมดาทั่วไปอย่างเช่น การบอกว่าสนใจ โค้ชออกมาชื่นชม หรือ แม้แต่นักเตะในทีมออกปากเชิญชวนให้มาเล่นด้วยกัน แล้ว อีกวิธีหนึ่งที่แต่ละทีมไม่รู้ว่าตั้งใจทำหรือเปล่านั่นก็คือ การใช้นักเตะที่เคยค้าแข้งอยู่ในทีมที่เป็นนักเตะทีมชาติเดียวกันมาก่อน มากวักมือเรียกนักเตะที่สโมสรต้องการ

การใช้รุ่นพี่ทีมชาติ มาโน้มน้าว

ถือว่าเป็นกลยุทธ์ที่ง่ายๆแต่ได้ผลดีเหมือนกัน นั่นก็คือ การให้นักเตะที่เป็นรุ่นพี่ในทีมชาติมาแนะนำนักเตะรุ่นน้องทีมชาติตัวเองที่ฟอร์มดีให้ย้ายมาเล่นให้กับสโมสรที่ตัวเองเคยสังกัดอยู่ อย่างตอนนี้ที่เป็นข่าวก็คือ ริวัลโด้ นักเตะทีมชาติบราซิล ที่เคยเป็นทั้งตัวหลักทั้งทีมชาติและสโมสร ใช้โอกาสที่เค้ามาเยี่ยมสโมสร สัมภาษณ์ถามถึงนักเตะรุ่นน้องทีมชาติบราซิลด้วยกันอย่าง คูตินโญ่ ว่าเป็นอย่างไร แน่นอนว่าเค้าต้องชื่มชมฟอร์มของคูตินโญ่ที่ตอนนี้ต้องบอกว่าดีเลย ขนาดเพิ่งหายเจ็บกลับมาก็ยังเล่นได้อย่างน่าอันตรายเป็นที่สุดในเกมแดงเดือดที่ผ่านมาตบท้ายด้วยการเชิญชวน กวักมือเรียกให้ คูตี้ ย้ายออกจากทีมไปจอยเล่นร่วมกับเพื่อนร่วมชาติอย่าง เนย์มาร์ อีกด้วย เอากับเค้าสิ

วิธีการง่ายๆ แต่ได้ผลเป็นอย่างดี

ต้องยอมรับว่า วิธีนี้อาจจะเป็นวิธีที่ง่ายๆดูไม่มีอะไรซับซ้อน แต่เอาเข้าจริงมันกลับมีผลกระทบต่อความคิดของนักเตะได้เหมือนกัน เพราะเชื่อว่านักเตะสมัยปัจจุบันย่อมมีนักเตะในอดีตเป็นไอดอล เป็นพระเอกในดวงใจ อย่างคูตี้ จะมีริวัลโด้เป็นแบบอย่างก็ไม่แปลก ถ้าหากเค้าออกปากชม แล้วก็ชวนมาเล่นกับเนย์มาร์ ที่บาร์ซา รับรองว่า คูตี้ อาจจะมีเขวๆไปบ้าง แต่ก็ต้องดูว่าทางบาร์ซา จะมีกลยุทธ์แบบไหนมาตื้อ คูตี้ อีก

ทางแก้และช่วยเหลือทีมลีคล่าง

จากข่าวที่สโมสร พิจิตร เอฟซี ได้ประกาศขอพักทีมไม่ส่งเข้าร่วมการแข่งขันเป็นเวลา 1 ปีนั้น ถือว่าเป็นอีกกรณีศึกษาอีก 1 ทีมที่ทางสมาคมน่าจะเข้าไปศึกษาและหาทางแก้ไข ช่วยเหลือทีมว่ามีปัญหาอย่างไร หรือหากจะต้องพักทีมกันจริงๆ การดูแลนักเตะเป็นอย่างไร จ่ายเงินค่าเหนื่อยครบหรือเปล่า ต้องดูด้วย นอกจากนั้นถ้าไม่เหนื่อยเกินไปการมองหาทางแก้ไข และช่วยเหลือทีมในลีคภูมิภาคให้แข็งแกร่งได้นั้น ก็นับว่าดีเลย โดยควรเข้าไปดูประเด็นต่อไปนี้

การช่วยหาสปอนเซอร์

เรื่องแรกที่จะทำให้ทีมฟุตบอลอยู่ได้ในตอนนี้ก็คือ สปอนเซอร์ของทีม ส่วนใหญ่ทีมที่ไปไม่รอดก็เพราะไม่ค่อยมีสปอนเซอร์นี่แหละ ทางที่ดี สมาคมควรเข้าไปช่วยหาสปอนเซอร์ให้เข้ามาสู่ทีมให้ได้มากๆทั้งระดับท้องถิ่น หรือระดับประเทศ โดยอาจจะมีการมอบสิทธิประโยชน์หากเข้ามาเป็นสปอนเซอร์ก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการลดหย่อนภาษี หรือเรื่องอื่นๆเป็นต้น

การจำกัดเพดานการเงิน

การทำทีมฟุตบอลของบ้านเรานั้น ต้องยอมรับเลยว่าหลายทีมนั้นใจร้อนกันพอสมควรเลย อยากจะให้มันโตไวๆ มีนักเตะเก่งๆเยอะ ก็เลยทำให้มีการดึงตัวนักเตะกันแบบไม่ห่วงเงินในกระเป๋า ผลสุดท้ายหาเงินไม่ทัน หาสปอนเซอร์ไม่ได้ ก็มีปัญหาเรื่องการเงิน ดังนั้นทีมในลีคล่างถ้าเป็นไปได้ ทางสมาคมควรจะมีการตรวจสอบบัญชีกันบ่อยๆและมีการกำหนดเพดานเงินเดือนไว้ด้วย เพื่อไม่ให้เกิดภาวะฟองสบู่แตก

การหาทีมงานสร้างฐานแฟนบอล

เรื่องสุดท้ายที่สมาคมเข้าไปช่วยได้นั่นก็คือ การเข้าไปช่วยสร้างฐานแฟนบอลให้กับทีม อาจจะเป็นการจัดกิจกรรมออกบูธ การหาช่องสำหรับถ่ายทอดสด หรืออะไรก็ได้ ที่จะช่วยให้สร้างฐานแฟนบอลให้ได้มากที่สุด เพราะแฟนบอลนี่แหละคือหัวใจสำคัญของการอยู่รอดของสโมสร ถ้าแฟนบอลท้องถิ่นรวมตัวกันได้ ทุกอย่างก็ไปได้ แต่ถ้าทีมไม่มีแฟนบอลท้องถิ่นเลยทุกอย่างก็จบ