แอสตัน วิลล่า (Aston Villa) ต้องยอมรับผลเสมอ 0-0 กับ ยูเวนตุส (Juventus) ในศึก แชมเปียนส์ ลีก (Champions League) เมื่อวันพุธที่ผ่านมา หลังจากที่ประตูในช่วงท้ายเกมของ มอร์แกน โรเจอร์ส (Morgan Rogers) ถูกยกเลิกเนื่องจากฟาวล์ผู้รักษาประตู มิเคเล่ ดิ เกรโกริโอ (Michele Di Gregorio) ของ ยูเวนตุส ทีมเจ้าบ้านคิดว่าพวกเขาจะได้ชัยชนะในนาทีสุดท้าย เพื่อยุติสถิติไม่ชนะ 6 เกมติดต่อกัน เมื่อ ดิ เกรโกริโอ (Di Gregorio) รับลูกฟรีคิกพลาด แต่ ดิเอโก้ คาร์ลอส (Diego Carlos) ทำฟาวล์ผู้รักษาประตูของ ยูเวนตุส ในจังหวะที่ โรเจอร์ส (Rogers) ยิงบอลเข้าประตู ทำให้แฟนบอล วิลล่า โห่ไล่หลังจบเกม อูไน เอเมรี่ (Unai Emery) กุนซือของ วิลล่า กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “มันเป็นการตัดสินของผู้ตัดสิน เป็นเพียงการตีความของเขา สำหรับผมแล้ว การตัดสินครั้งนี้รุนแรงเกินไป ในอังกฤษ ปกติแล้วจังหวะแบบนี้ไม่ถือว่าเป็นฟาวล์เพราะมีการปะทะกันเบามาก ตารางบอล แต่ในยุโรป อาจจะถือว่าเป็นฟาวล์ได้” เกมนี้ไม่ได้สนุกมากนัก โดย ยูเวนตุส ดูจะพอใจกับการครองบอล ทั้งสองทีมพลาดโอกาสทำประตูหลายครั้ง โดยโอกาสที่ดีที่สุดของ วิลล่า มาจาก ลูคัส ดีญ (Lucas Digne) ที่ยิงฟรีคิกชนคานในช่วงวินาทีสุดท้ายของครึ่งแรก
เอมี่ โชว์ซูเปอร์เซฟสุดสำคัญ ช่วย แอสตัน วิลล่า เจ๊า ยูเว่ ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก
เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ (Emiliano Martinez) ผู้รักษาประตูมือหนึ่งของ แอสตัน วิลล่า (Aston Villa) โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมในเกมที่ทีมของเขาเสมอกับ ยูเวนตุส (Juventus) 0-0 ในศึก ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก (UEFA Champions League) เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา ท่ามกลางความผิดหวังของแฟนบอลเจ้าถิ่นที่เห็นประตูชัยในนาทีสุดท้ายถูกยกเลิก นายด่านชาวอาร์เจนไตน่าเริ่มต้นคืนพิเศษด้วยการเดินลงสนามพร้อมกับลูกๆ และถ้วยรางวัลผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมของโลกสองปีติดต่อกัน ก่อนที่เขาจะพิสูจน์ให้เห็นว่าทำไมถึงได้รับรางวัลดังกล่าวด้วยการเซฟสุดยอดในช่วงครึ่งหลัง ตารางบอล เมื่อเขาปัดหัวของ ฟรานซิสโก้ คอนเซเซา (Francisco Conceição) ที่ดูเหมือนจะเป็นประตูแน่ๆ ออกไปได้อย่างเหลือเชื่อ ในช่วงท้ายเกม แอสตัน วิลล่า เกือบจะได้ประตูชัยเมื่อ มอร์แกน โรเจอร์ส (Morgan Rogers) ยิงบอลเข้าประตู แต่ผู้ตัดสินกลับเป่าฟาวล์ให้กับ มิเคเล่ ดิ เกรโกริโอ (Michele Di Gregorio) ผู้รักษาประตูของ ยูเวนตุส หลังจากที่ ดิเอโก้ คาร์ลอส (Diego Carlos) ทำฟาวล์ในจังหวะก่อนหน้า
จากเกมนี้ แสดงให้เห็นแล้วว่า แอสตัน วิลล่า กำลังจะยกระดับขึ้น ทาบบรรดาทีมยักษ์ใหญ่ ในยุโรปได้ในอนาคตอันใกล้นี้
เกมนี้ไม่ได้สนุกสนานมากนัก โดย ยูเวนตุส ที่มีผู้เล่นให้ใช้งานเพียง 14 คนในวันนี้ เลือกที่จะเล่นเกมรับและครองบอลเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่ วิลล่า พยายามสร้างโอกาสทำประตูแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ โดยโอกาสที่ดีที่สุดมาจากลูกฟรีคิกของ ลูคัส ดีญ (Lucas Digne) ที่ชนคานในช่วงท้ายครึ่งแรก จอห์น แมคกินน์ (John McGinn) กัปตันทีม วิลล่า ก็มีโอกาสทำประตูในนาทีที่ 70 หลังได้รับบอลจาก เลออน เบลีย์ (Leon Bailey) แต่ก็ถูก มานูเอล โลคาเตลลี่ (Manuel Locatelli) บล็อกไว้ได้ สถานการณ์ในตาราง
หลังจากเกมนี้ แอสตัน วิลล่า ที่เคยเริ่มต้น แชมเปียนส์ ลีก ด้วยการชนะ 3 เกมรวดโดยไม่เสียประตู ตกมาอยู่อันดับที่ 9 ของตาราง ส่วน ยูเวนตุส ที่ยังไม่แพ้ใครในลีกอิตาลีฤดูกาลนี้ อยู่อันดับที่ 19 ในตารางที่มี 36 ทีม โดยทีมอันดับ 1-8 จะผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายโดยอัตโนมัติ ส่วนทีมอันดับ 9-24 จะต้องไปเล่นรอบเพลย์ออฟ อูไน เอเมรี่ (Unai Emery) กุนซือของ วิลล่า กล่าวหลังเกมว่า “เราน่าจะเป็นฝ่ายชนะมากกว่า ยูเวนตุส เป็นทีมที่เอาชนะได้ยากมาก แต่เรามีแผนการเล่นที่ชัดเจน แม้ว่าจะไม่มีโอกาสชัดๆ มากนักทั้งสองทีมก็ตาม” ชัยชนะในเกมนี้จะเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับทีมของ เอเมรี่ อย่างมาก เนื่องจากพวกเขาไม่ชนะใครมาตั้งแต่เอาชนะ โบโลญญ่า (Bologna) 2-0 ในศึก แชมเปียนส์ ลีก เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม และตกมาอยู่อันดับ 8 ในตาราง พรีเมียร์ลีก (Premier League) โดยชนะเพียงนัดเดียวจาก 5 เกมหลังสุด